March 29, 2024   12:16:39 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ลุ้นSETเดือนก.ย.ทะลุ1,600จุด
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 29/08/2016 @ 08:40:20
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โบรกเกอร์ระบุทิศทางดัชนีหุ้นไทยเดือนก.ย. ขึ้นอยู่กับผลประชุมเฟด หากชะลอขึ้นดอกเบี้ยมีโอกาสเห็น SET ทดสอบระดับ 1,615 จุด บนค่า P/E ระดับ 17 เท่า ทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี แนะนำจัดพอร์ตลงทุนถือหุ้นเพื่อเก็งกำไร 60% กำเงินสดสัดส่วน 40% ท่ามกลางภาวะหุ้นฟื้นตัว พบ IPO จ่อเข้าเทรดเดือนก.ย. 59 อีกเพียบ

***หุ้นเดือนก.ย.ขึ้นอยู่กับเฟด หากชะลอขึ้นดอกเบี้ยดัชนีทดสอบ 1,615 จุด
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางของตลาดหุ้นไทยในเดือนก.ย. ขึ้นอยู่กับท่าทีในการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้(26 ส.ค.) ซึ่งหากเฟดยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนก.ย. คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1,615 จุด ที่ระดับ P/E 17 เท่าได้ ซึ่งเป็นระดับ P/E สูงที่สุดในรอบ 10 ปี
อย่างไรก็ตามหากเฟดมีท่าทีตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเดือนกันยายนนี้ ประเมินว่าดัชนีฯสามารถปรับตัวลดลงได้ถึง 1,520 จุด ที่ P/E 16 เท่า หรือในกรณีเลวร้ายที่สุดสามารถปรับตัวลดลงได้ถึง 1,420 จุดที่ระดับ P/E 15 เท่า ทั้งนี้เรามองว่ามีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.มากกว่า
สำหรับงาน Thailand Focus ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ส.ค. นี้ คาดว่าจะไม่ส่งผลให้ฟันด์โฟลว์เข้ามาเพิ่มมากนักเนื่องจากภาวะดอกเบี้ยที่ตกต่ำทั่วโลก เป็นปัจจัยบังคับให้นักลงทุนทั่วโลกต้องหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากฟันด์โฟลว์เข้ามาเป็นจำนวนมากตั้งแต่ต้นปี ในขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ทำให้ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยไม่น่าสนใจมากนัก
แนะนำซื้อขายเก็งกำไรในช่วงเดือนก.ย. - พ.ย. เนื่องจากประเมินว่าเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นจะค่อนข้างทรงตัวจากการย้ายกลุ่มถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ แนะนำจัดพอร์ตในเดือนก.ย.ถือหุ้นเพื่อเก็งกำไร 60% และถือเงินสด 40% และทยอยเข้าซื้อหุ้นอีกครั้งเมื่อดัชนีฯอ่อนตัวหลังจากที่เฟดประกาศขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

***ประเมินเม็ดเงินต่างชาติชะลอลงทุน
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.บัวหลวง กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนกันยายน จะแกว่งตัวในทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น (ไซด์เวย์อัพ) โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1,575 จุด แนวรับที่ระดับ 1,530-1,510 จุด หากมีการพักฐานก็จะไม่แรง เพราะ ตามเทคนิคอลเป็นตลาดขาขึ้น (กระทิง) และจากผลประกอบการไตรมาส 2/59 ที่ประกาศออกมานั้นถือว่าสูงกว่าที่โบรกคาดการณ์ไว้ จึงทำให้มีความคาดหวังว่าไตรมาส 3/59 ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)จะออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์เช่นกัน จากการที่เศรษฐกิจไทย และ การบริโภค มีการปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับการลงทุนภาครัฐที่ช่วงที่ผ่านมามีการเปิดประมูลโครงการต่างๆไปแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการใช้จ่ายเงิน ซึ่งการใช้เงินเงินก็จะช่วงงบประมาณปีหน้า ที่จะเริ่มเดือนตุลาคมนี้ ไปจนถึงปีหน้า ซึ่งยิ่งหนุนให้เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตมากขึ้น
นอกจากนี้เชื่อว่าเม็ดเงินต่างชาติยังพักอยู่ในตลาดหุ้นไทย แต่เดือนกันยายนนี้ คาดว่านักลงทุนต่างประเทศจะซื้อหุ้นไทยไม่มาก เพราะ ในช่วงดังกล่าวเป็นช่วงซัมเมอร์ของต่างประเทศ จึงมีการซื้อขายไม่มาก ส่วนตัวเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ จากเงินเฟ้อไม่สูง และ อยู่ระหว่างการเลือกตั้ง ส่วนปัจจัยเสี่ยงขณะนี้ยังไม่มีประเด็นไหนที่น่ากังวลที่มีผลทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรง
"ทางเทคนิคอลนั้นตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดกระทิง จึงมองว่าดัชนีตลาดหุ้นในเดือนก.ย.จะไซด์เวย์อัพ หากมีการพักฐานไม่มาก และปัจจัยลบนั้นขณะนี้ยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวแรง "นายวิกิจกล่าว
สำหรับกลุยุทธ์การลงทุน เลือกซื้อหุ้นที่อยู่ในช่วงไฮซีซั่น เช่น กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน AOT MINT AAV THAI CENTEL อาหาร เกษตร เช่น TFG BRR หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น การประมูลไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เช่น TPCH

***คาดเดือนก.ย.SETเคลื่อนไหวในกรอบ 1,520-1,590 จุด
ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ ประเมินตลาดหุ้นไทยเดือนกันยายนมีความผันผวนค่อนข้างมาก โดยมีปัจจัยต่างประเทศคอยกดดัน เนื่องจากจะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และญี่ปุ่นในช่วงกลางเดือน ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามคือแนวโน้มการใช้นโยบายการเงินของญี่ปุ่น หลังค่าเงินเย็นแข็งค่ามาพอสมควรแล้ว อาจจะมีการใช้นโยบายปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการประเมินคาดการณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตามหากญี่ปุ่นมีการปรับลดดอกเบี้ยและสหรัฐฯ ไม่ขึ้นดอกเบี้ย เม็ดเงินลงทุนจะยังคงไหลเข้าตลาดเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อหาผลตอบแทนที่ดีกว่า (search for yield) ซึ่งตลาดหุ้นไทยจะได้รับอานิสงส์ในทางบวกด้วยเช่นกัน
คาดดัชนีหุ้นไทยเดือนกันยายนเคลื่อนไหวในกรอบ 1,520 - 1,590 จุด กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ Selective Buy โดยเฉพาะหุ้น Big cap ที่ราคายัง Laggard เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า เป็นต้น

***ตลาดหุ้นฟื้น หุ้นไอพีโอแห่เข้าเทรดเดือนก.ย.59 เพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาวะตลาดหุ้นฟื้นตัวหนุนให้ ในช่วงปลายเดือนส.ค. ต่อเนื่องเข้าเดือนก.ย. มีหุ้นไอพีโอหลายตัวเตรียมเข้าเทรด
วันที่ 31 ส.ค. 59 บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) ราคาจองซื้อที่ 3 บาทต่อหุ้น จำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์)หุ้นละ 0.50 บาท
วันที่ 1 ก.ย. 59 บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ราคาจองซื้อที่ 16 บาท จำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ RJH จำนวนทั้งสิ้น 74.99 ล้านหุ้น
ด้านนายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลรายการเสนอขายหลักทรัพย์ร่างหนังสือชี้ชวน และแบบคำขออนุญาตเสนอขายแล้ว และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ภายในเดือน ก.ย.นี้
บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 590 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 5 บาท หรือไม่เกิน 29.6% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด โดยจะเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ BCP ตามสัดส่วนการถือหุ้นเพื่อรักษาสิทธิ PRE-EMPTIVE RIGHT จำนวนไม่เกิน 68.85 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 11.69% ของจำนวนหุ้น IPO และที่เหลือเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป หากในกรณีที่ยังคงมีหุ้นเหลือจากการจัดสรร PRE-EMPTIVE RIGHT จะนำหุ้นที่เหลือไปรวมเพื่อจัดสรรให้แก่ประชาชนทั่วไป สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้จะนำไปขยายธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้านนายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือITEL เปิดเผยว่า บริษัทฯจะเสนอขายหุ้นIPO จำนวน 200 ล้านหุ้น พาร์ หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็นการเสนอขายหุ้นต่อผู้ถือหุ้นสามัญของ ILINK ไม่เกิน 60 ล้านหุ้น สัดส่วนการให้สิทธิจองซื้อที่อัตรา 6.0404หุ้น ILINK ต่อ 1 หุ้น ITELกรณีมีเศษหุ้นให้ปัดทิ้ง และอีก 140 ล้านหุ้นเสนอขายให้ประชาชนทั่วไป
การระดมทุนครั้งนี้ ITEL จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการขยายกิจการและเพื่อรองรับความต้องการใช้งานและเพื่อเพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพการให้บริการ นอกจากนี้ จะนำไปใช้ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อสร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ขนาด 600 Racks ซึ่งจะลงทุนภายในไตรมาส 3 ปี59 รวมทั้งนำไปใช้คืนเงินกู้ยืม


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com