ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะดีขึ้นเป็นลำดับ จึงมีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคาหุ้นตลอดเวลา จนดัชนีขึ้นมายืนปิดที่ 1,492.73 จุด บวกไป 6.45 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.10 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเหตุการณ์ที่นักเล่นพอจะทราบเรื่องราวอยู่แล้ว จึงรีบกระโจนเข้าไล่ราคาหุ้นกันอย่างเมามัน หลังสำรวจเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวแล้วพบว่า ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกต่อไป เป้าหมายที่ระดับ 1,500 จุดถึงอยู่แค่เอื้อมไงล่ะค่ะ

*จังหวะนี้ถึงเห็นนักลงทุนเฟ้นหาหุ้นดาวเด่นกันทั้งวัน ซึ่งดูได้จากข้อมูลที่นักลงทุนเข้ามาสืบค้นใน www.kaohoon.com ล้วนให้ความสนใจกับหุ้นเติบโตสูง หุ้นที่เข้าประมูลงานต่างๆ หรือแม้กระทั่งหุ้นที่มีค่า P/E ต่ำกว่า 10 เท่า และหุ้นที่มีค่า P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า กลายเป็นประเด็นที่มีน้ำหนักมากสุดของการลงทุนในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” จึงขอสนับสนุนให้นักเล่นหาข้อมูลในการลงทุนต่อไปเรื่อยๆ นะคะ

*เนื่องจากยังมีหุ้นหลายตัวที่มีราคาต่ำกว่าเป้าหมายค่อนข้างเยอะ บวกกับผลประกอบการไตรมาส 3 ก็น่าจะออกมาดี และเมื่อสำรวจความพร้อมของตัวผู้เล่นได้เป็นที่เรียบร้อย ก็เป็นจังหวะที่นักเล่นต้องเริ่มพิจารณาสไตล์ในการลงทุนสักหน่อยว่า หุ้นขนาดใหญ่ หุ้นขนาดกลาง และหุ้นขนาดเล็ก เหมาะสำหรับตัวเองขนาดไหน?..ถ้าคิดไม่ออก “โมนิก้า” ขออนุญาตนำเสนอหุ้นที่คิดว่า เป็นทางเลือกให้แล้วกันเจ้าค่ะ

*โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่จัดจ้านสุดๆ ในเที่ยวนี้กลายเป็น BANPU ราคาหุ้นทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 19.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่า 4.91 พันล้านบาท พร้อมกับทำ new high ในรอบ 1 ปี 3 เดือน เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า หุ้นพร้อมจะทะยานขึ้นไปอีกเรื่อยๆ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยในห้วงเวลานี้นะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของPTT และ PTTEP พอเผลอไม่ได้มองแค่แป๊บเดียว หุ้นก็วิ่งกลับขึ้นมายืนอยู่ที่เดิม พร้อมกับแสดงท่าทีจะขึ้นไปทำ new high อีกรอบนั้น “โมนิก้า” ถึงต้องกลับมาเม้าท์ถึงหุ้นสองตัวนี้อีกครั้ง โดยตัวแม่ขึ้นมายืนอยู่ที่ 357 บาท บวกไป 3 บาท ด้วยมูลค่า 2.38 พันล้านบาท ส่วนตัวลูกวิ่งขึ้นมาปิดที่ 85.50 บาท บวกไป 2.25 บาท ด้วยมูลค่า 1.54 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ได้แรงหนุนจากนักลงทุนสถาบันล้วนๆ วันนี้ไปต่อหรือไม่ คงขึ้นอยู่กับท่าทีของนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวเป็นหลัก ส่วนผลประกอบการเป็นรองเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นที่มีผลประกอบการหนุนขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอหันไปมองหุ้น BIG เพื่อย้ำกับมิตรรักแฟนเพลงสักนิดหนึ่งว่า นี่เป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานเติบโตหลายไตรมาสติดต่อกัน และตัวเลขผลประกอบการในปี 59 น่าจะเป็นไปตามประมาณการ หุ้นถึงไต่ระดับจากจุดต่ำสุดที่ 3.48 บาท ขึ้นมาปิดที่ 4.54 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 330 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดเดิม 5 บาทไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อมนะคะ

*ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับท่วงทำนองของหุ้น SUPER หลังจากมีแรงซื้อไหลกลับเข้ามาอีกระลอก หุ้นก็ไต่ระดับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จนสุดท้ายสามารถทะลวงแนวต้าน 1.66 บาท ขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.70 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่า 840 ล้านบาท ก็ต้องดูกันต่อไปว่า หากขึ้นไปสร้างฐาน 1.80 บาทได้อีกครั้ง ก็น่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 2 บาทอีกรอบเจ้าค่ะ

*คล้ายคลึงกับประเด็นของ PACE ทะยานขึ้นมาปิดที่ 3.20 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 6.70% “โมนิก้า” ถือเป็นกิมมิคที่นักเล่นไม่ควรพลาดจังหวะตามน้ำ หลังสัญญาณเทคนิคฟ้องให้เห็นทนโท่ว่า แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 3.40 บาท และหากขึ้นไปยืนได้อีกครั้ง ก็มีลุ้นขึ้นไปทดสอบ 3.80 บาทอย่างแน่นอน วันนี้ต้องถามใจผู้เล่นอีกรอบว่า ใช่ทางเลือกที่ตัวเองถนัดไหมจ๊ะ

*สำหรับม้ามืดอย่างหุ้น SALEE อาศัยจังหวะชุลมุนขึ้นมาปิดที่ 1.80 บาท บวกไป 0.21 บาท หรือขึ้นไป 13.20% ด้วยมูลค่า 175 ล้านบาท พร้อมกับทำ new high ในรอบ 1 ปี 5 เดือน “โมนิก้า” ถือเป็นแง่มุมที่นักลงทุนต้องกลับไปคิดเป็นการบ้าน หลังปรากฏค่า P/E ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 85 เท่า ซึ่งมันหมายความว่า โอเว่อร์แอ็กติ้ง และทางเดียวที่จะทำให้หุ้นยืนระยะได้อย่างแข็งแกร่ง ตัวเลขกำไรในไตรมาส 3 ต้องออกมาดีกว่าครึ่งแรกของปี 59 ซึ่งทำได้ 0.01 บาทต่อหุ้น..หากไม่เป็นเหมือนกับที่เกริ่นไว้ น้องโมพูดได้คำเดียวว่า ยับเยินเจ้าค่ะ

*ตบท้ายกันที่ควันหลงเรื่องมนุษย์ทองคำที่กำลังสร้างความปั่นป่วนให้กับวงการโบรกเกอร์สักเล็กน้อย หลังแต่ละฝ่ายเริ่มออกมาอ้างเหตุผลของตนเองกันเยอะแยะไปหมดจนกลายเป็นสงครามน้ำลายที่พ่นใส่กันลับหลังตลอดเวลานั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่สังคมกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของ บล.หยวนต้า กลายเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้โบรกเกอร์รุ่นลายครามรุมประนามอย่างหนักหน่วงไงล่ะค่ะ

*ที่สำคัญเมื่อย้อนดูประวัติความเป็นมาของ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ซึ่งกำลังจะสูญเสียกำลังพลบางส่วนให้คู่แข่งตัวฉกาจนั้น มันก็มาจากประเด็นเดิมๆ ที่เคยเป็นเรื่องเป็นราวในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา แถมกำลังพลที่ชอบย้ายงานเป็นประจำเหล่านั้นก็มีนิสัยโลเลตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่แวดวงดังกล่าวมักมีนิสัยชอบแทงข้างหลัง แต่ถึงกระนั้นก็ขอให้เลิกสัญญาทาสกันเสียที หลังมีเสียงร่ำลือหนาหูว่า เริ่มนำออกมาใช้อีกรอบนะคะ





ขอบคุณที่มาเนื้อหาจาก
ข่าวหุ้น