April 25, 2024   2:57:23 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สงครามทีวีดิจิทัลปะทุรอบใหม่
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 28/11/2016 @ 08:43:48
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ศึกแย่งเรตติ้งทีวีดิจิทัลเริ่มระอุรอบใหม่ หลังกลุ่ม "สิริวัฒนภักดี" เข้าฮุบช่อง "อัมรินทร์ทีวี" ฟาก NEWS เริ่มปรับคอนเทนต์ข่าว นำ CNN มาออกอากาศช่อง "สปริงนิวส์" พร้อมประเมินปีหน้าธุรกิจทีวีจะฟื้นตามศก.ในประเทศ คาดต่อจากนี้จะเห็นแต่ละช่องเร่งหาพันธมิตรมากขึ้น ชี้อีก 3 ปี จะเห็นชัดว่าเหลือรอดอยู่กี่ช่อง ด้านโบรกฯ มอง Q4/59 ยังซบเซาเหตุเม็ดเงินโฆษณาหด - ปชช.ยังโศกเศร้า พร้อม เปิดเรตติ้งทีวีดิจิทัล ก.ย.59 พบมีแค่ 3 ช่องที่เรตติ้งเกิน 1% จากฟรีทีวีทั้งหมด 25 ช่อง

กลุ่มทีวีดิจิทัลเริ่มปรับแผนธุรกิจอีกครั้ง ก่อนเข้าปีใหม่ ล่าสุด "สิริวัฒนภักดี" เปิดดีลเขย่าจอแก้ว เข้าซื้อหุ้น บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMARIN เจ้าของช่อง "อัมรินทร์ทีวี" ขณะที่ทาง บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS เร่งสู้เรตติ้งด้านคอนเทนต์ นำ CNN มาออกอากาศช่อง "สปริงนิวส์" ขณะที่นักวิเคราะห์ ยังประเมินตลาดทีวีปลายปียังซบเซา เหตุเป็นช่วงโศกเศร้า และต้นทุนที่สูงลิบ เห็นได้จากผลประกอบการ Q3/2559 ของแต่ละบริษัทที่ต่างขาดทุนกันอย่างหนัก

*** AMARIN เพิ่มทุน 200 ลบ. ขายหุ้นให้ กลุ่ม "สิริวัฒนภักดี"
นางเมตตา อุทกะพันธุ์ ประธานกรรมการ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMARIN เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่24 พฤศจิกายน 2559 มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 135 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 220 ล้านบาท เป็นจำนวน 219.999 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วแต่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย
นอกจากนี้ได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 200 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 219.999 ล้านบาท เป็น 419.999 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ1 บาท เพื่อจัดสรรและเสนอขายให้แก่ บริษัท วัฒนภักดี จำกัด โดยนายฐาปน สิริวัฒนภักดี และนายปณต สิริวัฒนภักดี (“ผู้ซื้อ ”) ในราคาหุ้นละ 4.25 บาท รวมเป็นมูลค่า ทั้งสิ้น 850 ล้านบาท โดยภายหลังจากการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว ผู้ซื้อจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 47.62 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ

*** ชี้ผู้ลงทุนใหม่ ยังสนับสนุนทีมงานชุดเดิม
นางระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ AMARIN เปิดเผยว่า เมื่อได้รับการสนับสนุนด้านการลงทุนจาก คุณฐาปน และคุณปณต สิริวัฒนภักดี ซึ่งทั้งสองท่านมีประสบการณ์ในธุรกิจที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ จะทำให้องค์กรมีความแข่งแกร่ง และมีศักยภาพในการแข่งขันและดำเนินธุรกิจที่โดดเด่นยิ่งขึ้น
โดยผู้ลงทุนใหม่จะยังคงสนับสนุนทีมงานเดิมเป็นผู้บริหารและขับเคลื่อนธุรกิจต่อไป เนื่องจากมีความเข้าใจและความเชี่ยวชาญในธุรกิจอยู่แล้ว และจะช่วยส่งผู้ทรงคุณวุฒิมาเป็นกรรมการ เพื่อเสริมทัพให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และเตรียมพร้อมรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

*** NEWS ขยับคอนเทนต์ นำ CNN มาออกอากาศช่อง "สปริงนิวส์"
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS เปิดเผยว่า บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(“สปริงนิวส์”)ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท (NEWS ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 99.99) ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือพันธมิตรและคำปรึกษา ระหว่าง บริษัทสปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดกับ บริษัท เทอเนอร์ บรอดแคสติ้ง ซิสเต็ม เอเชีย แปซิฟิค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ ซีเอ็นเอ็น อินเตอร์เนชั่นแนล ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค ("สถานีโทรทัศน์ ซีเอ็นเอ็น")
การร่วมมือดังกล่าว เพื่อออกอากาศ รายการ และเนื้อหาจากสถานีโทรทัศน์CNN ตลอดจนการเป็นที่ปรึกษาให้กับสปริงนิวส์ เพื่อให้ความร่วมมือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และภายใต้ความร่วมมือ สถานีโทรทัศน์ ซีเอ็นเอ็นสามารถใช้ข้อมูลเนื้อหาและรายการของสปริงนิวส์ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการรายงานข่าวเกี่ยวกับประเทศไทยของสถานีโทรทัศน์ ซีเอ็นเอ็น ตั้งแต่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป

*** NEWS ประเมินอีก 3 ปี จะเห็นชัดว่าเหลือรอดอยู่กี่ช่อง
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า แนวโน้มภาพรวมธุรกิจทีวีดิจิทัลในปีหน้าจะเติบโตมากกว่าปีนี้ ตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และ สถานการณ์ภายในประเทศที่ดีขึ้น โดยคาดว่าเม็ดเงินโฆษณาในTV ดิจิทัลจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 8-10% เพราะในปีนี้ เม็ดเงินโฆษณาปีนี้ปรับตัวลดลง ซึ่งปัจจุบันลดลงประมาณ 10% จาก ปี 2558 ที่มีมูลค่า 6 หมื่นล้านบาท จากสถานการณ์ภายในประเทศ
ขณะที่ภาพรวมการแข่งขัน ยังคงแข่งขันรุนแรงอยู่ แข่งขันขันยังคงรุนแรงอยู่ในการแย่งเม็ดเงินโฆษณา จากที่มีช่องTV ดิจิทัลที่มีจำนวนมากถึง 22 ช่อง และ ผู้ประกอบการต่างๆยังให้น้ำหนักในการใช้เม็ดเงินโฆษณาในTV Analong ที่สูงกว่า TV ดิจิทัล
"ในปีหน้าจะยังคงเห็น TV ดิจิทัลที่ไม่ไหวแล้วอาจจะต้องหาพันธมิตรใหม่เข้ามาถือหุ้นเรื่อยๆ ซึ่งคาดว่าในอีก 3 ปี ข้างหน้าจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า TV ดีจิทัลที่มีในปัจจุบันจะเหลือรอดกี่ช่อง ส่วนของบริษัทเองปีหน้าก็จะมีการหาพันธมิตรเช่น กันซึ่งเป็นนักลงทุนบุคคล ไม่ได้เป็นพันธมิตรรายใหญ่ ๆแล้ว แต่จะเข้ามาถือเท่าไหร่นั้น ไม่สามารถตอบได้ เพราะขึ้นอยู่ในการเจรจา " นาย อารักษ์ กล่าว
ส่วนภาพรวมรายได้ NEWS ในปี 2560 นั้น คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 40-50% จากปี 2559 จากภาพรวมเศรษฐกิจ และ เม็ดเงินโฆษณาที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น และได้พันธมิตรคือ CNN เข้ามาช่วย แต่ยังคงขาดทุนอยู่ โดยหลักๆมาจากธุรกิจ TV ดิจิทัลที่มีค่าใช้จ่ายสูงส่วนรายได้ปี 2559 ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะอยู่ที่เท่าไร เพราะ ในไตรมาส 4/59 นั้น ผลประกอบการพลาดเป้า แต่ 9 เดือน 2559 บริษัทมีรายได้ 238 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 201 ล้านบาท และมีผลขาดทุนอยู่ที่ 349.13 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 426 .70 ล้านบาท
จากกรณีที่ กลุ่ม "สิริวัฒนภักดี" เข้ามาซื้อหุ้นบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMARIN ซึ่งดำเนินธุรกิจธุรกิจ TV ดิจิทัลด้วยนั้น ไม่ได้ทำให้ภาพการแข่งขันเปลี่ยนไป แต่จะช่วยในส่วนของ อมรินทร์ทีวี ทำให้มีฐานะการเงินดีขึ้น จากที่กลุ่มสิริวัฒนภักดีมีหลากหลายธุรกิจก็จะเข้ามาซื้อโฆษณาเอง ทำให้ช่อง อรินทร์ทีวี นั้น ไม่ต้องเข้าไปแย่งเม็ดเงินโฆษณากับช่องTV ดิจิทัลอื่นๆ

*** จับตา "อัมรินทร์" จะผงาดในทีวีดิจิทัลหลังได้กลุ่มทุนใหม่
นายประสิทธิ์ สุจิรวรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า กรณีที่ AMARIN ขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับกลุ่ม สิริวัฒนภักดี ส่วนตัวประเมินว่าสามารถช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้กับ AMARIN ได้เป็นอย่างดี โดยขณะนี้ต้องจับตาทิศทางการดำเนินธุรกิจของผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ ว่าจะเน้นมุ่งไปทางสื่อประเภทใดเป็นหลัก โดยประเมินว่าหาก AMARIN หันมาให้ความสำคัญกับดิจิทัลทีวี จะถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในตลาด เพราะมีฐานทุนที่แข็งแกร่ง ซึ่งต้องติดตามในระยะต่อไป
สำหรับภาพรวมกลุ่มธุรกิจสื่อในไตรมาส 4 คงอยู่ในช่วงซบเซาอย่างต่อเนื่อง เพราะภาวะกำลังซื้อที่ชะลอตัว ทำให้หลายธุรกิจตัดงบเงินโฆษณาไปค่อนข้างมาก ส่วนแนวโน้มในปี 60 คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปี 59 แต่ต้องรอลุ้นมาตรการรัฐบาลที่จะช่วยผลักดันภาพรวมเศรษฐกิจ เรียกความมั่นใจของผู้ประกอบการและประชาชนทำให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้กลุ่มสื่อยังคงให้คำแนะนำ Neutral แต่ขณะนี้ราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมในหลายบริษัท โดย Top Pick แนะนำซื้อ WORK เพราะมีเรทติ้งอันดับ 1 ของทีวีดิจิทัล และมีอัตราค่าโฆษณาอยู่ในระดับสูง รวมถึง MONO สามารถซื้อเก็งกำไรระยะสั้นได้ เพราะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เรทติ้งเพิ่มขึ้นเป็นระยะ

*** โบรกฯ มอง Q4/59 ยังไม่ฟื้น เหตุเม็ดเงินโฆษณาหด - ปชช.ยังโศกเศร้า
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2559 ของกลุ่มสื่อพบว่ารายได้และกำไรยังคงลดลงต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาชิงเม็ดเงินโฆษณาประกอบกับบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่เคยใช้งบสำหรับการโฆษณาได้ปรับลดเงินเพื่อโปรโมตสินค้าลง สะท้อนจากข้อมูลการแจ้งผลประกอบการของกลุ่มบริษัทในหมวดสื่อรายใหญ่ เช่น บี อีซี อสมท อาร์เอส ที่กำไรลดลง โดยเฉพาะ บีอีซีหรือช่อง 3 ที่รายได้ลดลงมาก ส่วนหนึ่งเพราะพิธีกรที่ดึงดูดคนดูอย่างนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ยุติบทบาทพิธีกร ขณะที่ช่องที่มีรายได้เพิ่มขึ้นมีไม่กี่ช่อง เช่น เวิร์คพอยท์ฯ และโมโน เป็นต้น
สำหรับมุมมองในไตรมาสที่ 4/2559 นั้น คาดว่าธุรกิจสื่อจะยังได้รับผลกระทบจากเม็ดเงินโฆษณาที่ลดลง รวมทั้งประชาชนยังอยู่ในภาวะโศกเศร้าและอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัวเพราะว่าสื่อมีผู้เล่นจำนวนมาก

*** เปิดเรตติ้งทีวีดิจิทัล ก.ย.59 ช่อง 7 ช่อง 3 และ WorkpointTV ยังครองหน้าจอ
AGB Neilsen ได้เปิดเผยตัวเลขเรตติ้ง ทีวีดิจิทัล ทั่วประเทศเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมา ว่า ช่องที่มีอันดับเรตติ้งสูงสุด 3 อันดับได้แก่ ช่อง 7 มีเรตติ้ง 2.994 , ช่อง 3 เรตติ้ง 2.289 และ ช่อง WorkpointTV เรตติ้ง 1.235 ตามลำดับ ส่วนอันดับ 4 ลงไปนั้นมีเรตติ้งต่ำกว่า 1 โดยอันดับ 4 ได้แก่ ช่อง MONO มีเรตติ้ง 0.919 อันดับ 5 ช่อง ONE เรตติ้ง 0.77 และอันดับ 6 ช่อง8 มีเรตติ้ง 0.718
ขณะที่ช่องที่มีเรตติ้งต่ำกว่า 0.1 พบว่า มีถึง 9 ช่อง โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยสุด ได้แก่ ช่อง 3Family , Springnews ,ช่อง 5 ,ช่อง NewsTV , VoiceTV ,NBT ,TNN , BRIGHT TV และ MCOT Family
อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตุว่า ในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2559 เรตติ้งทีวีจะยังไม่แน่นอนเนื่องจากเป็นช่วง ที่ทุกช่องต้องเสนอรายการเพื่อถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

*** ตรวจงบ Q3/59 กลุ่ม TV ยังขาดทุนกันเพียบ
ผู้สื่อข่าวรวบรวมผลประกอบการไตรมาส 3/2559 ของหุ้นกลุ่มผู้ประกอบการโทรทัศน์ พบว่าส่วนใหญ่มีผลประกอบการขาดทุน และกำไรลดลง มีเพียง WORK และ MONO ที่มีกำไรปรับเพิ่มขึ้น
- บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK เผยผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2559 มีกำไร 108.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134% จาก 46.09 ล้านบาท
- บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO เผย งวดไตรมาส 3/2559 มีกำไร 10.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.05% จากงวดเดียวกันปี 2558 ที่ขาดทุน 111.82 ล้านบาท
- บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT ไตรมาส 3/2559 ขาดทุน 252 ล้านบาท จากกำไร 55 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 3/2558 งวด 9 เดือนของปี 2559 ขาดทุน 477 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 100 ล้านบาท หรือกำไรลดลง 630%
- บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) GRAMMY ไตรมาสที่ 3/2559 ขาดทุนสุทธิ 10 ล้านบาท จาก Q3/2558 ที่ขาดทุน 139 ล้านบาท หรือขาดทุนลดลง 92%
- บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) AMARIN ไตรมาส 3/2559 ขาดทุนสุทธิ 126.26 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 16.00 ล้านบาทหรือขาดทุนลดลง 11.25%
- บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ใน Q3/2559ขาดทุนสุทธิ 61.0 ล้านบาท ลดลง 78.6 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 17.6 ล้านบาท หรือกำไรลดลง 446.2%
- บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ไตรมาสที่ 3/2559 มีกำไรสุทธิ 251 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปี 2558 ที่มีกำไร 791 ล้านบาท ลดลง 540 ล้านบาท หรือ 68.3%
- บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ไตรมาสที่ 3/2559 ขาดทุน 125.09 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจาก ไตรมาส 3/2558 ที่ขาดทุน 140.34 ล้านบาท
- บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ไตรมาสที่ 3/2559 ขาดทุน 280.97 ล้านบาท ลดลง 1,704% จากงวด ไตรมาส 3/2558 ที่มีกำไร 15.60 ล้านบาท


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com