*สถานการณ์ของตลาดหุ้นวานนี้ หรือวันก่อนหน้านี้ ยังไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมก็จริง แต่อารมณ์ของผู้เล่นกลับเตลิดเปิดเปิงอย่างบอกไม่ถูก ภาพของการลงทุนถึงแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ไปตามความคิดของนักลงทุนแต่ละกลุ่ม ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า ตลาดหุ้นยังไม่เป็นเอกภาพ และแรงเทขายจะหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะดูเหมือนว่า ตลาดหุ้นกำลังรออะไรบางอย่างนะคะ

*ผลดังกล่าวทำให้ดัชนียังคงแกว่งตัวเกาะแนว 1,480-1,520 จุดต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันให้นักลงทุนโยกหุ้นที่เล่นต่อไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็มาตายอยู่ที่ตัวเดิมที่ถูกทุบลงมาแรงๆ ต่อจากนั้นก็ดันหุ้นกลับไปที่ยอดเดิมครั้งก่อน “โมนิก้า” ถึงพยายามพูดถึงหุ้นทางเลือกใหม่ๆ ของการลงทุนตลอดเวลา เพราะรูปแบบของการลงทุนในยุค 4.0 ต้องรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมเจ้าค่ะ

*งานนี้ไม่จำเป็นต้องเสียเวลา “คิด วิเคราะห์ แยกแยะ” นานเป็นวันๆ เพราะหุ้นหลายตัวมีผลงานดีอยู่แล้ว แต่ปัจจัยรอบด้านไม่เอื้อ วันนี้ถึงต้องยึดหลัก follow buy เมื่อเห็นวอลุ่มโป่งพองผิดปกติ และควรมองข้ามการอ่อนตัวของดัชนี เพราะมันเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นเฉพาะในหุ้นขนาดใหญ่ พร้อมกันนั้นควรทำความเข้าใจด้วยว่า การอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,497.18 จุด ลบไป 3.60 จุด ด้วยมูลค่า 4.90 หมื่นล้านบาท มันเป็นเอฟเฟ็กต์จากเรื่องที่เกริ่นนำพะยะคะ

*เหมือนกับในรายของหุ้นถุงยาง TNR สามารถยืนแข็งโด่เด่ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก่อนจะมาปิดที่ 25.75 บาท บวกไป 9.75 บาท หรือขึ้นไป 61% ด้วยมูลค่า 3.21 พันล้านบาท ถือเป็นการเปิดหัวที่สวยงามตามท้องเรื่อง แต่ต้องดูกันต่อไปอีกสักนิดว่า ยืนระยะไหวหรือเปล่า? เพราะพวกกองทุนตัวแสบ กับพวกฝรั่งตาน้ำข้าว สาดหุ้นออกมาหนักเหลือเกิน จึงอย่าประมาทเป็นอันขาดนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ GL โดนสำนักงาน ก.ล.ต. ทักท้วงเกี่ยวกับการเข้าทำรายการบางอย่าง และการออกหุ้นกู้แปลงสภาพตั้งแต่เช้าตรู่ มันน่าจะมีปัญหาอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในอนาคตกระมัง บรรดาแฟนคลับถึงเทขายหุ้นออกมาตลอดทั้งวัน จนสุดท้ายลงมาปิดที่ 52.75 บาท ลบไป 3.50 บาท หรือลงไป 6.20% ด้วยมูลค่า 1.32 พันล้านบาท มันเป็นเกมที่ต้องดูกันยาวๆ เพราะเขาปูเรื่องมานานเป็นปี จู่ๆ มีจิ้งจกร้องทักขึ้นมา เขาคงไม่สนใจหรอกค่ะ

*สถานการณ์ดังกล่าวคล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ IFEC กำลังมีเรื่องชวนให้ปวดหัวเยอะแยะไปหมด แถมเป็นการแย่งชิงอำนาจระหว่างกลุ่มทุนใหม่ กับกลุ่มทุนเก่ากันแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่แมงลือเม้าท์กันอย่างสนุกปากกันเลยทีเดียว แถมเที่ยวนี้มีการพูดนินทาลับหลังกันเยอะแยะไปหมด แถมผู้คนสงสัยว่า สองคนสองคมอย่าง ทวิช กับ เทพฤทธิ์ เตชะนาวากุล เชื่อถือได้อ่ะป่าว...หุ้นก็เลยม่อยกระรอกลงมายืนอยู่ที่ 4.38 บาท ลบไป 0.26 บาท หรือลงไป 5.60% ด้วยมูลค่า 340 ล้านบาทไงล่ะค่ะ

*เม้าท์ถึงความเชื่อมั่นในตัวบุคคล “โมนิก้า” ต้องเหลือบไปมองหุ้น growth stock ซึ่งกำลังกลายเป็นดาวเด่นอย่าง FN สักเล็กน้อย และเหตุผลที่ทำให้หุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 6.90 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 9.50% ด้วยมูลค่า 260 ล้านบาท มันมาจากผู้คนเขาให้แวลูในช่วงไตรมาส 1 ปี 60 ค่อนข้างสูง ส่งผลให้สเต็ปการขึ้นของหุ้นเป็นแบบ “ขึ้นพัก ขึ้นพัก” จึงกลายเป็นจังหวะของคนที่มีเงินเย็นนะคะ

*ส่วนคนที่ชอบความหวือหวา ไม่ต้องการผูกมัด ต้องหันมามอง PSL กับ TTA เพราะรูปแบบการขึ้นอิงกับค่าระวางเรือเพียวๆ ตัวเลขผลประกอบการมีผลขาดทุนบานเบอะขนาดไหน “โมนิก้า” ไม่เคยเห็นมีใครพูดให้ได้ยินสักแอะ จึงกลายเป็นช็อตเด็ดกีฬามันของคนที่ถนัดวิ่ง 4 คูณ 100 (ซอยเร็ว และถี่ยิบ) หลังหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 8.40 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 9.80 บาท ด้วยมูลค่า 290 ล้านบาท ส่วนรายหลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 10.10 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่า 510 ล้านบาท เป็นเกมที่ต้องตามไปดูนะพี่น้อง!

*ถ้ายังไม่หนำใจ “โมนิก้า” ขอเลือก VNT เป็นของแถมให้อีกหนึ่งชุด และเหตุผลของการไล่ราคาระเบิดระเบ้อก็มาจากความคาดหวังกำไรในอนาคตจะดีขึ้นนั้น มันเป็นเกมที่มีคนคอยดันหุ้นเพื่อเรียกแขกให้เข้ามาเยอะๆ และดูเหมือนจะประสบความสำเร็จเสียด้วย วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 14.40 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่า 180 ล้านบาท...แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า เทรดบน P/E 43 เท่า แล้วนะจ๊ะ

*ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องอนาคตเยอะพอสมควรแล้ว “โมนิก้า” ขอเหลือบมาดูหุ้น ALLA กันสักเล็กน้อยดีกว่า เพราะสเต็ปการเคลื่อนตัวของหุ้นตอนนี้เป็นแบบ side way up จึงเป็นโอกาสทองของคนจำพวกที่ถนัดตามไปดู หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.22 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่า 165 ล้านบาท งานนี้ลูกอีช่างเม้าท์เขาร่ำลือกันว่า งานในมือจะรับรู้ในปีหน้าเป็นจำนวนมากเจ้าค่ะ

*ส่วนอีกหนึ่งตัวที่ขอทิ้งท้ายอย่าง COMAN ก็เป็นหุ้นไซส์จิ๋วแต่แจ๋ว โปรเจ็กต์สวย งานเดินตลอด แถมปีหน้าน่าจะมีดีลใหม่ๆ ให้ชื่นใจกันอย่างถ้วนหน้า เดี๊ยนถึงมองการขยับขึ้นมาปิดที่ 10.10 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 20 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของพวกนกรู้ที่อ่านธุรกิจขายซอฟต์แวร์ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง งานนี้ไม่ได้บอกให้เชื่อตามสิ่งที่นำเสนอ แค่อยากให้นำข้อมูลกลับไปคิดดูว่า โดนใจไหมเอ่ย?