รัฐบาลไฟเขียวมาตรการภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยวปลายปี เห็นชอบนำรายจ่ายค่าที่พักโรงแรม ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศ ช่วงเดือน ธ.ค.59 มาหักลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท รวมมาตรการเดิมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งปีอีก 15,000 บาท รวมเป็น 30,000 บาท ขณะที่มาตรการช้อปช่วยชาติยืนยันมีแน่นอน แต่อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดก่อนเสนอ ครม.เร็วๆนี้ ด้าน CENTEL มองมาตรการรัฐหนุนอัตราเข้าพักเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อน ดันรายได้ดีขึ้น คาดการท่องเที่ยวดีต่อเนื่องไปจนถึงปี 60 ด้านโบรกฯ แนะเก็งกำไรหุ้นที่ได้ผลดีจากมาตรการกระตุ้นบริโภค-ท่องเที่ยว

*** ครม.ไฟเขียว มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวส่งท้ายปี
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (29 พ.ย.) มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีส่งเสริมการท่องเที่ยวเฉพาะในเดือนธันวาคมนี้ สามารถนำรายจ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท จากเดิมที่มีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวหักลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท รวมทั้งปีสามารถหักลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยวได้รวม 30,000 บาท
ด้านนายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว กำหนดให้เงินที่จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว และค่าที่พักในโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศระหว่างวันที่ 1-31 ธันวาคมนี้ ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมแล้วไม่เกิน 15,000 บาท สามารถนำมาหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ ซึ่งรวมกับมาตรการเดิมที่มีอยู่แล้วอีก 15,000 บาท รวมเป็น 30,000 บาท โดยคาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้รวมทั้งสิ้น 150 ล้านบาท
“เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และเพื่อเป็นการส่งเสริมและฟื้นฟูการท่องเที่ยว จึงควรให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหห้แก่ผู้มีเงินได้ซึ่งจ่ายค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการนำเที่ยว และค่าที่พักโรงแรม ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท ที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา”นายณัฐพร กล่าว

*** ช็อปช่วยชาติมีแน่ เข้าครม.เร็วๆนี้
รมว.คลัง กล่าวว่า มาตรการช้อปช่วยชาติที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะนำมาพิจารณาในวันนี้นั้น ยังไม่ได้เข้าประชุมเป็นวาระครม.ในครั้งนี้ เนื่องจากรายละเอียดยังไม่เรียบร้อย
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า มาตรการช้อปช่วยชาตินั้นมีอย่างแน่นอน แต่ยังทำรายละเอียดบางส่วนที่ยังไม่เรียบร้อย จึงนำมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวเข้าครม.ในวันนี้ก่อน

*** CENTEL คาดมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ทำให้อัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้น
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินและบริหาร โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ยอมรับว่ารายได้จะเติบโตเพียง 4-5% จากปี 58 ที่มีรายได้ 19,291 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 6-7% เนื่องจากในปีนี้สถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศได้รับผลกระทบตั้งแต่เหตุการณ์ระเบิดช่วงกลางปีใน 7 จังหวัด ทำให้มีการยกเลิกจองที่พักมากพอสมควร ขณะเดียวกันช่วงไว้อาลัยเดือน ต.ค.ทำให้มีการยกเลิกงานประชุมสัมมนา คิดเป็นมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท และนักท่องเที่ยวจีนลดลงกว่า 10% จากกการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญของภาครัฐ
แต่ขณะนี้สถานการณ์ท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังรัฐบาลออกมาตรการยกเว้นวีซ่า 3 เดือน และในระยะต่อไปมีโอกาสออกมาตรการกระตุ้นใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวช่วงปลายปี ทำให้ปีนี้อัตราการเข้าพักจะอยู่ที่ 82-83% มากกว่าปี 58 ซึ่งอยู่ที่ 80% ส่วนอัตราค่าห้องจะเติบโตไม่สูงมากกว่าปี 58 เพราะนักท่องเที่ยวจีนและรัสเซียมีการต่อรองราคาค่อนข้างมาก

***ประเมินธุรกิจโรงแรม-ร้านอาหารโตต่อเนื่อง หลังภาคท่องเที่ยวดีขึ้น
CENTEL คาดว่าปี 60 รายได้จะเติบโตประมาณ 4% จากปี 59 โดยาธุรกิจโรงแรมจะเติบโตได้ 3-4% และมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 81-82% ส่วนธุรกิจอาหารคาดว่าจะเติบโตได้ 5-6% หลังจากภาพรวมการท่องเที่ยวจะปรับตัวได้เป็นอย่างดี ภาครัฐประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 34 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยว 2.7 ล้านล้านบาท เติบโต 8% จากปีนี้ อีกทั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยมีโอกาสโตมากกว่า 3-3.5% ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯเติบโตสอดคล้องในลักษณะเดียวกัน
บริษัทฯตั้งงบลงทุนรวม 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนในธุรกิจโรงแรม 600 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมีแผนเข้ารับบริหารโรงแรมใหม่ 4 แห่ง จำนวน 897 ห้อง ในโดฮา 2 แห่ง โอมาน 1 แห่ง และไทย 1 แห่ง ส่วนงบลงทุนที่เหลือจะใช้ปรับปรุงโรงแรมที่มีอยู่ในปัจจุบัน 15 แห่ง ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีโรงแรมที่อยู่ในแผนการเข้ารับบริหารทั้งหมด 16 แห่ง จำนวน 3,626 ห้อง แบ่งเป็นในไทย 1,163 ห้อง และส่วนที่เหลือเป็นต่างประเทศ เช่น จีน คิวบา โดฮา สปป.ลาว โอมาน และมัลดีฟ และช่วงปลายปี 60 จะเปิดแบรนด์โรงแรมใหม่ ได้แก่ โคซี่ ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรม 2 ดาว แห่งแรกที่สมุยจำนวน 151 ห้อง และอยู่ระหว่างทำสัญญาเช่าที่ดินเพื่อจะเปิดโรงแรมโคซี่พัทยา ซึ่งแผนระยะยาวช่วง 5 ปี (60-64) บริษัทฯตั้งเป้าเปิดโรงแรมแบรนด์โคซี่ให้ครบ 20-25 แห่ง
ด้านธุรกิจอาหารในปี 60 จะใช้งบลงทุน 600 ล้านบาท โดยมีแผนเปิดสาขาเพิ่มประมาณ 50 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิม แต่งบดังกล่าวยังไม่รวมการเจรจาหาแบรนด์อาหารใหม่ๆในอนาคต

*** โบรกฯ แนะเก็งกำไรหุ้นได้ผลดีจากมาตรการกระตุ้นบริโภค-ท่องเที่ยว
บล.ธนชาต แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากการออกมาตรการกระตุ้นบริโภคเพิ่มเติมปลายปีนี้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มค้าปลีก อย่าง BJC COM7 HMPRO GLOBAL และ ROBINS ต่อเนื่อง
บล.เคทีบี แนะกลยุทธ์การลงทุน ปัจจัยที่ถ่วงตลาดมีเข้ามามากขึ้น (ราคาน้ำมัน-ตัวเลขส่งออก) การเข้าเก็งกำไรจึงต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากดัชนีฯอาจวิ่งสลับบวกสลับลบในระหว่างวัน แต่นักลงทุนที่ต้องการเข้าถือเพื่อลงทุน แนะนำให้ทยอยเข้าซื้อ หุ้นกลุ่มที่มีความน่าสนใจ จะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยเอง และหุ้นที่ให้ผลตอบแทนด้านเงินปันผลที่สูง สำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ BJC , GLOBAL , THREL , SMT ,PAP
บล.เคจีไอ มองหุ้นกลุ่มค้าปลีก (COM7, ROBINS, TVD) และหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (THAI, MINT, SPA) ประเมินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาเพิ่มเติมใน 1 – 2 สัปดาห์นี้ (นอกเหนือจากการลดค่าธรรมเนียมวีซ่า โดยเฉพาะ “จีน”) อาทิ ช้อบช่วยชาติ เที่ยวไทยลดหย่อนภาษี เป็นต้น จะเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกอย่าง COM7 และ ROBINS รวมถึงหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง THAI, MINT และ SPA