April 24, 2024   5:53:23 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > AOT ข่าวลบฉุด-กำไรดีไม่ช่วย-หลังแตกพาร์ร่วงกว่า 10%
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 16/02/2017 @ 08:44:11
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้น AOT ราคายังยืนไม่ได้หลังเริ่มเทรดพาร์ใหม่บาทเดียว กำไรปี 59 ที่ออกมาดีถูกกลบจากข่าวลบกรมธนารักษ์เรียกเก็บค่าเช่าที่เพิ่มคิดย้อนหลังกว่า 2 หมื่นลบ. ด้านโบรกมีความเห็นทั้ง "ซื้อ"-"เลี่ยงลงทุน" ขณะที่ราคาหุ้นร่วงลงกว่า 10% ยังมีอัพไซด์น้อย


ราคาหุ้นของหุ้นของบมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ปรับตัวผิดจากที่คาดหลังแตกพาร์เหลือ 1.00 บาท ราคาหุ้นกลับปรับลงต่อเนื่อง จากที่ถูกคาดหวังว่าจะช่วยให้หุ้นได้รับความสนใจและมีสภาพคล่องมากขึ้น


จากวันแรกที่แตกพาร์ 9 ก.พ. ลงมาปิดที่ 40.25 บาท ลดลง 4.17% เริ่มฟื้นขึ้นเล็กน้อยในวันที่ 10 ก.พ. ปิดบวกที่ 40.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.62% ขณะที่วานนี้แจ้งผลประกอบการ ไตรมาส 1/59-60 สิ้นสุดธ.ค.59 มีกำไร 5.08 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.91% แตาราราหุ้นยังคงปรับตัวลงปิดที่ 39.50 บาท ลดลง 2.47%


เปิดตลาดเช้านี้หุ้น AOT ปรับลงแรงขึ้นอีกจากข่าวลบกรมธนารักษ์เรียกเก็บเงินค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุจาก AOT โดยช่วงเช้าปิดติดลบอีก 5.06% คิดรวมแล้วล่าสุดปรับลงไป 10.80%


ทางกรมธนารักษ์ขอขึ้นค่าเช่าที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากเดิม 5% ของส่วนแบ่งกำไรเป็น 5% ของส่วนแบ่งกำไรและตามมูลค่าของสินทรัพ/ปี ซึ่งกรมธนารักษ์ต้องการเงินชดเชยตั้งแต่ ต.ค. 2012 – ก.ย. 2016 คิดเป็นมูลค่า 1.51 หมื่นล้านบาท และในปี 2016 อีก 5.55 พันล้านบาท รวม 2.06 หมื่นล้านบาท สำหรับสุวรรณภูมิ ซึ่งทาง AOT ได้ปฏิเสธทั้งอัตราค่าเช่าใหม่


บล.ทรีนิตี้ ระบุว่า จากการสอบถามไปยังบริษัทมองว่ามีแนวโน้มเป็นไปได้ว่าจะมีการเรียกเก็บอัตราส่วนแบ่งรายได้ในร้อยละที่สูงขึ้นสำหรับรายได้อันเกิดจากสนามบินที่มีรายได้สูงอย่างสุวรรณภูมิและดอนเมือง และมีการเรียกเก็บอัตราส่วนแบ่งรายได้ในสัดส่วนใกล้เคียงเดิมสำหรับรายได้อันเกิดจากสนามบินที่ยังขาดทุน


ทรีนิตี้มองว่า การเรียกเก็บในรูปแบบดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างสูง


พร้อมประเมินว่า แนวทางที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ กรณีที่ 1.เรียกเก็บอัตราส่วนแบ่งรายได้ใน 7% สำหรับรายได้อันเกิดจากสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง เรียกเก็บอัตราส่วนแบ่งรายได้ในร้อยละ 5 สำหรับรายได้อันเกิดจากสนามบินเชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่ และเรียกเก็บอัตราส่วนแบ่งรายได้ใน 2% สำหรับรายได้อันเกิดจากสนามบินแม่ฟ้าหลวง-เชียงราย ซึ่งจะส่งผลให้ AOT ต้องชำระค่าตอบแทนการใช้พื้นที่ราชพัสดุราว 700-800 ล้านบาทต่อปี


พร้อมชำระค่าตอบแทนย้อนหลังสำหรับปี 59 จำนวน 5.5 พันล้านบาท ให้ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 42 บาทต่อหุ้น




ส่วนอีก 2 กรณีที่บล.ทรีนิตี้ ประเมิน จะแตกต่างกับกรณีที่1 ตรงค่าตอบแทนการใช้พื้นที่ราชพัสดุที่พุ่งสูงขึ้นไปถึง 2,800-4,900 ล้านบาท กดดันราคาเหมาะสมไปอยู่ที่ราว 37.50-39.80 บาทต่อหุ้น


บล.ทรีนิตี้ ให้ความเห็นว่า แนวโน้มการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ดี และการเติบโตของสายการบินต้นทุนต่ำที่ขยายตัวถึง 18%YoY พร้อมแนวโน้มรายได้ค่าบริการ และส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่จะขยายตัวเพิ่มได้อีกอย่างก้าวกระโดดตามแผนการขยายท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จึงคงแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” ที่ราคาเป้าหมาย 42 บาท


ด้านบล.กสิกรไทย มองว่า ประเด็นการปรับค่าเช่ายังเป็นหนังยาวที่ต้องติดตามและรอความชัดเจนกันอีกนาน ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูงว่าสุดท้ายแล้ว AOT จะต้องจ่ายเท่าไหร่


ทั้งนี้ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 37.5 บาทยังไม่ถือว่าน่าสนใจมากนัก เนื่องราคาพื้นฐานที่ KS Research วางไว้คือ 39.5 บาท การเข้าซื้อในปัจจุบันจึงเหมาะแค่ Trading เพื่อหวัง Technical Rebound เท่านั้น แต่การซื้อเพื่อลงทุนระยะยาวควรรอให้ Upside เปิดกว้างกว่านี้

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com