ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 พ.ค.60 ปิดที่ 1,537.42 จุด ลดลง 6.52 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 40,391.15 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 508.84 ล้านบาท

“วรุตม์ ศิวะศริยานนท์” กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเชีย เวลท์ มองตลาดสัปดาห์นี้ยังเดินหน้าลำบาก ทั้งเรื่องการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลในอังกฤษ และระบบคอมพิวเตอร์ของ FedEx ซึ่งเป็นบริษัทส่งสินค้าใหญ่ระดับโลก และคอมพิวเตอร์กว่า 2 แสนระบบทั่วโลก มากกว่า 150 ประเทศ เป็นปัญหาที่น่ากังวลพอสมควร!!

นอกจากนี้ เกาหลีเหนือได้ทดลองยิงขีปนาวุธอีกครั้ง ทำให้ตลาดกลับมากังวลปัญหาเกาหลีเหนือ ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯยังมีความวิตก กรณี “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลด “เจมส์ โคมีย์” ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ที่กำลังเกิดความขัดแย้งในรัฐสภารอบใหม่ ที่อาจส่งผลให้การออกกฎหมายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ “ทรัมป์” หาเสียงไว้ต้องช้าออกไปอีกได้

ส่วนปัจจัยในประเทศ สภาพัฒน์ฯประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 1 อยู่ที่ 3.3% ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่ทั้งปี 60 คาด GDP จะขยายตัว 3.3-3.8% โดยมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของการส่งออก การขยายตัวของการลงทุนภาครัฐและการบริโภคภาคครัวเรือน การปรับตัวดีขึ้นของการผลิตสินค้าเกษตรและราคาสินค้าเกษตร การขยายตัวภาคท่องเที่ยว และการปรับตัวดีขึ้นของตลาดรถยนต์ในประเทศ ซึ่งจะช่วยหนุนตลาดหุ้นไทย

แต่จากความไม่แน่นอนที่มีอยู่ทั่วโลก ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ปรับลดการลงทุนในหุ้น และหันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ! ทั้งนี้ บล.เอเชีย เวลท์ มองกรอบดัชนีแกว่งแคบในช่วง 1,532-1,556 จุด

ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ชะลอตัวในไตรมาส 1 คาดว่าจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสต่อๆไป น่าจะอยู่ในระดับใกล้ 200,000 ล้านบาทต่อไตรมาสทั้งปี น่าจะโตขึ้น 13-14% จากปี 59 อยู่ระดับเหนือ 1 ล้านล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ แนะเลือกหุ้นที่มี Theme การลงทุนที่เป็นหลักของภูมิภาคและไทยด้วย คือหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และมีอัตราเงินปันผลสูง แนะนำหุ้น SCCC เป็นหุ้น Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ ราคาเป้าหมายปี 60 ของ Bloomberg ที่ 293 บาท

คาดว่า จะได้ประโยชน์มากจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการในเอเชียและไทยนับจากนี้ไปอีกหลายปี!!

อินเด็กซ์ 51