ก่อนหน้านี้ที่ได้เขียนบทความถึง EARTH เกี่ยวกับเรื่องการทำ block trade เพราะรู้ว่าบริษัทนี้มีการใช้ block trade และบัญชีมาร์จิ้นเป็นเครื่องมือในการบริหารหุ้นของตัวเอง



และก็ยังเขียนไปด้วยว่า มันแปลกพิกลที่คนที่รู้เรื่องทุกอย่างกลับขาดทุนจากธุรกรรม block trade เหล่านี้เสียเอง



ที่ไหนได้ เกมส์อาจจะพลิกเสียแล้ว กลายเป็นว่า อาจจะมีการล่วงรู้ข้อมูลภายในนำมาใช้ประโยชน์ในการขายหุ้นก้อนใหญ่ออกมาเสียก่อนหรือไม่

จากแหล่งข่าว บมจ.เอ็นเนอร์ ยี่ เอิร์ธ (EARTH) แจ้งว่าตามที่บริษัทได้ออกตราสารหนี้ประเภทตั๋วแลกเงิน (B/E) เสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัด จำนวน 3 ฉบับ มูลค่ารวม 40 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3.95% ต่อปี (หักชำระแล้วในวันที่ออกตั๋ว) กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง เพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนธุรกิจภายในบริษัทนั้น ตั๋วแลกเงินดังกล่าวออกเมื่อวันที่ 6 มี.ค.60 และถึงกำหนดชำระวันที่ 6 มิ.ย.60 แต่บริษัทได้ผิดนัดชำระหนี้เนื่องจากขาดสภาพคล่องและอยู่ระหว่างทบทวนวงเงินกับสถาบันการเงิน



เพราะวันนี้ทาง EARTH ได้ชี้แจงว่า ขาดสภาพคล่องและไม่สามารถชำระคืนเงินกู้ตั๋ว B/E ได้ จำนวนเงิน 40 ล้านบาท แถมยังมีคนไปขุดมาว่า EARTH มีการออกตั๋ว B/E มากมายเป็นหางว่าว



ก็ขึ้นอยู่กับว่า "การขาดสภาพคล่อง" ที่พูดถึงนั้น จะนานขนาดไหน และจะกระทบไปถึงตั๋ว B/E อีกกี่ชุดหลังจากนี้ แม้บริษั่จะชี้แจงว่ากำลังอยู่ระหว่างการทบทวนวงเงินกับสถาบันการเงิน



เท่าที่ได้รู้มา การถูก forced sell ลงมาก่อนหน้านี้ เป็นปัญหาทางเทคนิค กล่าวคือ broker ที่ทำ block trade กับ EARTH ไม่ยอมให้มีการ roll สัญญาออกไป ทำให้ถูกบีบให้ปิดสัญญา จึงมีการเทขายล็อตใหญ่ขนาดนั้น และก็คงไม่ได้เกิดจากแค่โบรกเดียวที่ไม่ยอม roll ให้ เพราะงานนี้ลุกช้าก็จ่ายรอบวง แล้วโบรกไหนจะยอมล่ะ



แล้วโบรกเหล่านี้เห็นความผิดปกติอะไร หรือรับรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทหรือไม่ ถึงได้ไม่ยอมให้ต่อสัญญา block trade ทั้งๆที่โดยปกติโบรกจะชอบกินดอกเบี้ยจาก block trade



และการที่ลามมาถึงตั๋ว B/E ด้วยนั้น เป็นเพราะอะไร เป็นเพราะคนซื้อตั๋วเขาไม่ยอมต่ออายุตั๋วใช่หรือไม่?



ถ้าใช่แสดงว่าเขาอาจจะเห็นอะไรไม่ชอบมาพากลในบริษัทหรือเปล่า ถึงไม่กล้าที่จะต่อตั๋วให้กับบริษัท

กลัวแต่ว่า เหตุการณ์มันจะบานปลายเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับ IFEC น่ะสิ

ทีนี้ก็เลยเป็นคำอธิบายได้ว่า ทำไมถ้าหุ้นถูกเทขายลงมาเพียงเพราะแรง forced sell แต่ราคากลับวิ่งขึ้นไปไม่ได้มากนัก



ที่แท้มันมีอะไรในกอไผ่นี่เอง และคนนอกอย่างเราจะรู้หรือ??



คนที่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็มีเพียงไม่กี่คน



ดังนั้น แม้จะขาดทุนจากการถูก forced sell ลงมาก่อนหน้านี้ แต่ก็อาจจะน้อยกว่าหากรอให้เนิ่นนานจนเรื่องการขาดสภาพคล่องถูกเปิดเผยก็เป็นได้



แล้วจะมีอีกกี่บริษัท ที่จะเป็นเช่นนี้ จะหวังพึ่งหน่วยงานกำกับดูแล ..... เอิ่ม ไม่พูดดีกว่า...



Cr. Wattana Stock Page