thaihoon สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 14,583 | วันที่: 29/08/2017 @ 08:38:08 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต มีข้อมูลน่าสนใจ บล.เอเซียพลัส เพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยเป็น 50% โดยระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนที่ underperform เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก โดยให้ผลตอบแทนไม่ถึง 2% ซึ่งสะท้อน EPS Growth ของหุ้นไทยที่ต่ำในปีนี้คือ เพียง 7.1%
และต่ำกว่าบางตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่ EPS Growth สูงสุด 15.4% ตามด้วยมาเลเซีย 7.9% แต่ตลาดได้ปรับตัวขึ้นตอบรับไปแล้วคือ ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปรับขึ้นถึง 11% ตลาดหุ้นมาเลเซีย ปรับขึ้น 8%
ขณะที่หากเทียบในเชิง Valuation ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างถูก คือ มีค่า Expected P/E ต่ำสุดในภูมิภาคคือ 15.5 เท่า ในปี 60 และ จะลดลงเหลือ 14.3 เท่า ในปี 61 ต่ำกว่าตลาดหุ้นอินโดนีเซียที่มี Expected P/E ปีนี้ 16.8 เท่า ฟิลิปปินส์ 19.2 เท่า ส่วนมาเลเซียอยู่ที่ 16.4 เท่า
แม้ปัจจัยขับเคลื่อนหุ้นไทยที่สำคัญคือ แรงซื้อจากต่างชาติ ซึ่งปีนี้ยังเป็นผู้ขายสุทธิอยู่ 95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ด้วย valuation ที่ถูกกว่าตลาดเพื่อนบ้าน และเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวชัดเจน เอเซียพลัสเชื่อว่า จะเป็นจุดที่ทำให้หุ้นไทยกลับมาได้รับความสนใจจากต่างชาติอีกครั้ง
ดังนั้น เชื่อว่า Momentum ในการขับเคลื่อนหุ้นไทยจะอยู่ที่ครึ่งปีหลัง โดยเน้นไปที่หุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังปี 60 โตโดดเด่น อาทิ กลุ่มอสังหาฯ คาดว่าเติบโต 64% จากยอดโอนที่จะสูงสุดในไตรมาส 4 หลักๆมาจาก SENA และ SC
กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม คาดว่าโต 18% เข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หุ้นเด่น ERW และ CENTEL กลุ่มเช่าซื้อ-ลิสซิ่ง คาดเติบโต 18% ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลักๆมาจาก MTLS และ SAWAD กลุ่มยานยนต์ คาดโต 12% ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัวหลักๆมาจาก AH
กลุ่มโรงพยาบาล คาดโต 12% จากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลหุ้นเด่น RJH และ LPH กลุ่มส่งออกอาหาร คาดโต 8% หลักๆมาจาก CPF, GFPT
ขณะที่หุ้นอิงเศรษฐกิจภายนอกเด่นคือ IRPC, IVL, MCS, HANA และหุ้นอิงเศรษฐกิจในประเทศหุ้นเด่นเลือก VGI, JWD, HMPRO, COM7, BEAUTY, RS!!
อินเด็กซ์ 51
|