โบรกฯ คาดวันนี้ SET บวกต่อกรอบจำกัด ระหว่างวันอาจผันผวน หลังบวก 9 วันติด เข้าข่าย Overbought ชี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ-การประชุมเฟด เน้นเก็งกำไรหุ้น TCAP-WHA-ROJNA ประเมินแนวรับ 1,640-1,638 จุด แนวต้าน 1,650 จุด
  
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังได้รับ Sentiment เชิงบวก นักลงทุนคลายความกังวลปัญหาความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และพายุเออร์มาที่อ่อนกำลังลง จนทำให้ดัชนีดาวโจนส์กลับมายืนเหนือ 22,000 จุดได้อีกครั้ง
  
ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงสั้น คือ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่ามากแล้ว จะสามารถกลับไปแข็งค่าขึ้นมาได้หรือไม่ โดยให้ติดตามอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันพฤหัสฯ นี้ ว่าจะเริ่มทรงตัวหรือชะลอการหดตัวได้หรือไม่ ซึ่งจะเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญต่อการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ย แต่จะปรับลดลงดุล
  
ทั้งนี้ หากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด และเฟดปรับลดงบดุลจริง จะกระตุ้นให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมา
  
สำหรับวันนี้ คาดหุ้นไทยขยับบวกต่อในกรอบแคบ เพราะดัชนีหุ้นฯ ที่ปิดบวกต่อเนื่องมาถึง 9 วันทำการติดต่อกัน จนเกิดภาวะ Overbought ในทางเทคนิค จึงทำให้ upside จำกัด และยังต้องระวังความผันผวนระหว่างชั่วโมงซื้อขายด้วย
  
ด้านกลยุทธ์ เน้นเก็งกำไรหุ้น laggard อาทิ TCAP-WHA-ROJNA พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,640-1,638 จุด แนวต้าน 1,650 จุด

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย


นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดยุโรปที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ภายหลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนเออร์มาอ่อนกำลังลง ทำให้ความเสียหายน้อยกว่าที่คาดไว้ และสถานการณ์ทางเกาหลีเหนือก็เงียบไปแล้ว

ทั้งนี้ ตลาดฯ บ้านเราเล่นหุ้นกลุ่มค้าปลีกเพราะราคายัง Laggard

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ ว่าจะกล่าวถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไร เนื่องจากขณะนี้กระแสการปรับขึ้นเริ่มเบาลง เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯไม่ได้ดีมาก ซึ่งต่างก็ลุ้นว่าเฟดคงจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.นี้ เนื่องจากประธานเฟดใกล้จะหมดวาระการดำรงตำแหน่ง และรองประธานเฟดก็ได้ลาออกไปแล้ว ดังนั้นคนที่จะเข้ามาเป็นประธานเฟดคนใหม่อาจเป็นคนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ซึ่งทำให้อาจไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน ธ.ค.นี้ก็ได้ จึงต้องติดตามดู

แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ (13 ก.ย.) นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะอยู่ในแดนบวกได้ พร้อมให้แนวรับ 1,637 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650 จุด

อินโฟเควสท์