ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ม.ค.61 ปิดที่ 1,778.53 จุด เพิ่มขึ้น 24.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 88,076.86 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,694.79 ล้านบาท

หุ้นที่มูลค่าซื้อขายสูงสุด GULF ปิด 68.75 บาท บวก 3.75 บาท, AOT ปิด 70.50 บาท บวก 2.50บาท, SCB ปิด 150 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, PTT ปิด 450 บาท บวก 10 บาท และ BANPU ปิด 19.50 ไม่เปลี่ยนแปลง

บทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า หุ้นไทยขึ้นต่อ โดยฟันด์โฟลว์ที่น่าจะแข็งแกร่งขึ้นมากในเดือนนี้เป็นต้นไป เพราะภาวะ “global risk-on” ชัดเจน ท่ามกลางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับขึ้นแทบทุกตลาด (สถิติชี้ว่าการที่หุ้นโลกบวกในวันทำการแรกเป็นสัญญาณดี)

ขณะที่เศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.60 เร่งตัวขึ้น และน่าจะหนุน GDP ไตรมาส 4 ปี 60 และแนวโน้มปี 61 นอกจากนี้ ช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า สนช.จะพิจารณากฎหมายสำคัญ เช่น พ.ร.บ. อีอีซี และกฎหมายลูกประเด็นที่มาของ ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งเป็นสิ่งที่ต่างชาติรอมานานและน่าจะหนุนให้โฟลว์แข็งแกร่งขึ้นอีก

ทั้งนี้ เคจีไอประเมินเป้าดัชนีไตรมาสแรกไว้ที่ 1,800 และเป้าเบื้องต้นปี 61 ที่ 1,850 ส่วนแรงขายเพื่อไถ่ถอนกองทุน LTF นั้น ไม่น่ากังวล เนื่องจากต้นทุน LTF จากปลายปี 57 ค่อนข้างสูง ไม่จูงใจ และฟันด์โฟลว์แข็งแกร่งน่าจะรับแรงปรับพอร์ตของฝั่งกองทุนได้

ด้าน “อภิชัย เรามานะชัย” รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บล.แอพเพิล เวลธ์ ส่องดัชนีหุ้นไทยปี 61 ทะยานไปได้ถึง 1,925-2,000 จุด คาด Fund Flow จะเข้ามาลุยหุ้นไทยรับเลือกตั้ง แถมแนวโน้มกำไร บจ. มีโอกาสกลับมาขยายตัวได้ที่ระดับ 11.20%

ขณะที่มองเฟดปรับลดงบดุล, แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น , ความไม่สงบในตะวันออกกลางและเกาหลีเหนือ และเลือกตั้งในไทยไม่เป็นไปตาม Road Map ถือเป็นปัจจัยเสี่ยง!!

แนะกลยุทธ์ลงทุนปี 61 ทยอยซื้อลงทุน หุ้นกลุ่มธนาคาร BBL, KBANK, SCB, KT, TMB, BAY แนวโน้มดอกเบี้ยโลกเป็นขาขึ้นและสินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวได้ระดับ 7-8 % ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และมูลค่าหุ้นกลุ่มธนาคารยังเทรดต่ำกว่าค่าเฉลี่ย P/BV ย้อนหลัง 3 ปี

กลุ่มพลังงานปิโตรเคมี PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง CK, STEC, UNIQ, SEAFCO, PYLON สื่อโฆษณา PLANB, VGI กลุ่ม Soft Commodity ชอบ STA, TRUBB, KSL!!