ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 ม.ค.61 ปิดที่ 1,819.32 จุด ลดลง 9.56 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 81,684.61 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 234.69 ล้านบาท

หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด AOT ปิด 70.25 บาท ลบ 0.25 บาท, BANPU ปิด 22.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท, EA ปิด 67.50 บาท ลบ 0.25 บาท, BEAUTY ปิด 21.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท และ PTT ปิด 480 บาท ลบ 4 บาท

บล.ทรีนีตี้ ระบุดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนอิงทางลบเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในการซื้อขายภาคบ่าย สวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยตลาดเผชิญแรงกดดันหลัก 3 สาเหตุ คือค่าเงินบาทอ่อนค่า หลังมีข่าวระบุ ธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังตรวจสอบสถาบันการเงินบางแห่งที่มีธุรกรรมทางการเงินเอื้อต่อการเก็งกำไรค่าเงิน จึงทำให้มีแรงเทขายทำกำไร จนเงินบาทอ่อนค่า

ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯขยับขึ้น โดยพันธบัตรอายุ 10 ปี ผลตอบแทนขยับขึ้นมาทะลุ 2.6% ซึ่งทำสถิติใหม่ในรอบเกือบ 1 ปี ทำให้การลงทุนในพันธบัตรสหรัฐฯมีความน่าสนใจมากขึ้น ขณะที่ความเสี่ยงต่ำ

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่โบรกเกอร์ต่างชาติรายหนึ่งปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยเหลือ underweight โดยมองว่าดัชนีที่ปรับขึ้นแรงในช่วงนี้มาจากสภาพคล่อง และ Sentiment โดยที่ EPS หรือกำไรของบริษัทจดทะเบียนไม่ได้ขยับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงต้องระวังแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติในช่วงนี้!!

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยลบประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่สูงกว่าคาดเล็กน้อย แต่เป็นผลกระทบต่อหุ้นบางกลุ่มเท่านั้น ที่มีการพึ่งพาแรงงานมาก เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ราคาหุ้นต่างปรับลงแรง

ขณะที่ประเมินทิศทางหุ้นไทยวันสุดท้ายของสัปดาห์ คาด Sideway down โดยให้ติดตามแนวโน้มค่าเงินบาท และทิศทางผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ หากเงินบาทยังอ่อนค่า และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังขยับเพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบต่อกระแสเงินทุนไหลเข้า

แนะกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ ให้สลับไปเก็งกำไรหุ้นที่ราคายังปรับขึ้นไม่มากเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม หรือหุ้นที่ยัง laggard และมีปันผลสูง เช่น อสังหาริมทรัพย์รายตัว ด้านเทคนิคให้ประเมินแนวรับ 1,805 จุด แนวต้าน 1,830 จุด!!

อินเด็กซ์ 51