*สิ่งหนึ่งที่ “โมนิก้า” เห็นเต็มๆ ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือ ดัชนียังคงพยายามฝ่าแนวต้าน 1,840 จุด เพื่อขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมตลอดเวลา มันทำให้สถานการณ์หลายอย่างยังอยู่ในลู่ทางที่ดี จึงไม่ควรทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมเป็นอันขาด แต่ควรทำตัวพลิ้วไหวไปตามอารมณ์ของตลาดหุ้น ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนมองเกมหุ้นได้อย่างแตกฉานพะย่ะค่ะ

*ยิ่งเห็นดัชนีกวัดแกว่งในลักษณะ “ขึ้นๆ ลงๆ” ก่อนจะปิดที่ระดับ 1,833.60 จุด บวกไป 6.74 จุด ด้วยมูลค่า 6.17 หมื่นล้านบาท เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า “ขึ้นขาย ลงซื้อ” น่าจะเป็นแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมสุดในจังหวะนี้ เพราะภาพใหญ่ๆ ยังเป็นฝรั่งตาน้ำข้าว จูงมือกับรายย่อย ขายหุ้นกันอย่างสนุกมือ ขณะที่กองทุนขี้ตืดก็ร่วมมือกับปอบผีฟ้า ยังช่วยกันช้อนหุ้นเข้าพอร์ตกันอย่างเมามัน ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดหุ้นยังอยู่ในโพซิชั่นที่ดีไงล่ะค่ะ

*ประกอบกับสัญญาณเทคนิคปรากฎจุดไข่ปลากำลังดันก้นแท่งเทียนแบบสุดลิ่มทิ่มประตู “โมนิก้า” ถึงมองไซเคิลของดัชนีวานนี้ยังเป็นแบบ “ย่อเพื่อขึ้น” และหากจุดไข่ปลายังเรียงตัวขึ้นแบบ 45 องศา ย่อมทำให้เชื่อว่า ดัชนีจะทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่า 1,840 จุด เผลอๆ อาจพุ่งขึ้นไปยืนเหนือ 1,850 จุดเสียด้วยซ้ำ! แต่ที่แน่ๆ คือ วันนี้ห้ามจุดไข่ปลาขึ้นไปอยู่บนหัวแท่งเทียนเป็นอันขาด เพราะมันฟ้องว่า หุ้นจะลงนะซี

*เหมือนกับในรายของ BANPU อุตส่าห์กระชากขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับทำท่าจะแรลลี่ยาว พอทำไปทำมากลับเกิดสัญญาณค้อนหัวกลับแบบไม่ทันตั้งตัว “โมนิก้า” ถือเป็นภาพที่ทำให้โมเมนตัมของหุ้นดูไม่สวยงามสักเท่าไหร่! วันนี้ถึงต้องลุ้นให้มีแรงซื้อเข้ามาเยอะนิดหนึ่ง เพื่อทำให้โมเมนตัมของหุ้นอยู่ในลักษณะตั้งฐานเพื่อหาจังหวะกระชากขึ้นต่อไป เพราะราคาปิดที่ 22.50 บาท ลบไป 0.30 บาท ด้วยมูลค่า 2.36 พันล้านบาท มันใกล้ถึงจุดเด้งนะคะ

*ส่วนหุ้นที่ดูดีมีชาติตระกูลขึ้นมาในทันที “โมนิก้า” ต้องพุ่งความสนใจไปที่พี่เทพ PTTEP เพราะทันทีที่ประกาศแผนงานต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ก็ดูเหมือนจะเป็นที่ถูกอกถูกใจชาวหุ้นกันอย่างล้นหลาม แรงซื้อถึงไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 121.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่า 2.18 พันล้านบาท มันคือของดีที่ทำให้ทุกคนห้ามละสายตานะจะบอกให้

*ผลพวงดังกล่าวยังแผ่อานิสงส์มาถึง BJC เพราะเป็นอีกหนึ่งรายที่เข้าข่ายมีแรงซื้อเข้ามาไม่ขาดสาย และเรื่องนี้ก็มีการร่ำลือกันมานานพอสมควร เมื่อเห็นเจ้าแรกมีการนำร่องไปก่อน จึงมีผู้รู้ออกมาฟันธงกันอย่างมากมายว่า เดินมาทรงเดียวกัน? วานนี้ถึงเห็นหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 59.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่า 1.18 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมหุ้นที่ต้องตามให้ทัน วันนี้ถึงต้องติดตามดูกันต่อไปว่า เกมนี้จะเดินกันอย่างไร?

*ส่วนในรายของ BDMS ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่เลือกเดินบนเกมเสี่ยง และผู้คนกำลังถามไถ่ถึงโอกาสในการกลับขึ้นไปผงาดแถว 23 บาทเปิดกว้างเพียงใด? มันคือข้อมูลที่ทำให้นักลงทุนเข้ามารับหุ้นเพื่อเล่นเก็งกำไรตลอดวัน จนสุดท้ายหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 22.40 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่า 2 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะของพวกเสือปืนไวที่เข้ามาด้วยความเชื่อที่ว่า ทุกอย่างจะดีขึ้น..จริงหรือไม่..วันนี้รู้ผลเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ ERW มีข่าวจะทำโน่นทำนี่เพื่อสร้างรายได้และกำไร “โมนิก้า” ถือเป็นโมเมนตัมเดิมๆ ที่เห็นกันมาเป็นเวลานาน แต่ที่แย่หน่อยคือ วันนี้ขาดข่าวดีใหม่ๆ เข้ามาบิวท์อารมณ์นักเล่น ส่งผลให้แรงซื้อที่เคยมีเข้ามาอย่างหนาแน่น กลายเป็นแรงซื้อที่มีเข้ามาแบบกะปริบกะปอย หุ้นถึงปิดได้แค่ระดับ 8.75 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่า 104 ล้านบาท ถือเป็นจุดที่น่าวัดดวงดีเหลือเกิน เพราะหุ้นเคยวิ่งขึ้นไปแตะ 9 บาทพะย่ะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ TCMC ทำนักเล่นบาดเจ็บล้มคว่ำมาแล้วหลายตลบ สุดท้ายก็ยังมีคนเข้ามาเล่นกันอย่างคึกคัก แต่รอบล่าสุดดันโดนทุบกระจาย หุ้นถึงไหลลงมาปิดที่ 3.54 บาท ลบไป 0.22 บาท หรือลงไป 5.85% ด้วยมูลค่า 173 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมเสี่ยงที่นักเล่นต้องพิจารณากันให้ดีๆ เพราะแพทเทิร์นของหุ้นก็เป็นลักษณะ “ขึ้นๆ ลงๆ ” แบบนี้มานานแล้วนะซี

*สำหรับคนที่ชอบเล่นรอบ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดู ECF เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการลงทุน เพราะในช่วงที่ผ่านมา หุ้นวนเวียนไปมาอยู่ที่ระดับ 6.90-7.40 บาท ขณะที่วานนี้ประคองตัวปิดบริเวณ 7.20 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.40% ด้วยมูลค่า 260 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องเลือกแล้วว่าจะ “ตามน้ำ” หรือ “รอก่อน” เดี๊ยนบอกได้แค่นี้ล่ะค่ะ