ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 7 มี.ค.61 ปิดที่ 1,781.64 จุด ลบ 17.42 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 71,501.94 ล้านบาท

ต่างชาติขายสุทธิ 1,194.92 ล้านบาท กองทุนในประเทศ ขายสุทธิ 1,830.89 ล้านบาท, พอร์ตโบรกเกอร์ 319.10 ล้านบาท รายย่อยซื้อสุทธิ 3,344.91 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 540 บาท ลบ 12 บาท, EA ปิด 50.75 บาท บวก 0.50, BANPU ปิด 21.20 บาท ลบ 1.70 บาท, CPF ปิด 24.10 บาท บวก 0.30 และ PTTGC ปิด 91.50 บาท ลบ 4.25 บาท

หุ้นไทยแกว่งลงต่อจากปัจจัยต่างประเทศกดดัน จากสถานการณ์ทางการเมืองและนโยบายการกีดกันการค้าของสหรัฐฯ หลังหัวหน้าทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดี “ทรัมป์” ตัดสินใจลาออก

บล.โนมูระ พัฒสินระบุว่า จีนกำลังพิจารณาลดอัตราภาษี เพื่อป้องกันเงินทุนไหลออก ถือเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อ ASIA และไทย ล่าสุดเงินหยวนแข็งค่า 6.33 ต่อดอลลาร์ เช่นเดียวกับเงินบาทแข็งค่า 31.37 ต่อดอลลาร์

โดย Nomura ประเมินการขาดดุลการค้าที่รุนแรงของสหรัฐฯจะทำให้เงินเอเชียและไทยยังแข็งค่าต่อ คาดว่าการแข็งค่าของเงินบาท ณ สิ้นปีนี้และปีหน้าค่าเงินบาทจะอยู่ที่ 30.3 และ 30 ต่อเหรียญฯตามลำดับ

แนะกลยุทธ์การลงทุนประเมินว่าหุ้นลุ่มส่งออกยังไม่ใช่จุดเข้าลงทุนในขณะนี้ แต่ให้หาโอกาสลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งค่า

ชอบ TOA (ให้ราคาเป้าหมายตามปัจจัยพื้นฐาน 40 บาท), SNC (เป้า 20.6), JUBILE (เป้า 32 บาท) และ TVO (เป้า 39 บาท)