April 19, 2024   12:43:48 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > คัดหุ้นตัวท็อป เก็ง Window Dressing Q1 2561
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 26/03/2018 @ 08:48:46
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ประเด็นต่างประเทศเป็นเหตุหลักฉุดเซ็นติเมนต์ตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ นักลงทุนวิตกสงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ คือสหรัฐฯ และจีน ว่าจะดำเนินไปในทิศทางใด หรือแม้แต่หุ้น Tech stocks ที่ผันผวนในสหรัฐฯ นำโดยแรงขายหุ้น Facebook จากประเด็นอื้อฉาวเรื่องปล่อยข้อมูลผู้ใช้ จนลามมากระทบต่อหุ้น "Big 4" ที่เหลือทั้ง Google, Amazon และ Apple กดดันภาพรวมตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนในไทย นอกจากต้องรออัพเดตตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรกที่จะทยอยออกมาแล้ว ตลาดยังจับตาฟันด์โฟลว์ หรือแม้แต่เรื่องการเลือกตั้งทั่วไปของไทยว่าจะยังเป็นไปตามกรอบเดิมคือในเดือนก.พ. ปีหน้าหรือไม่

เมื่อตลาดยังไร้ข่าวใหม่ จึงเปิดทาง"Window Dressing" เข้ามาเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้น เหตุการณ์นี้ชี้ถึงความคาดหวังด้านบวกของนักลงทุนในโค้งสุดท้ายของทุกไตรมาส กับเม็ดเงินลงทุนของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน หรือบริษัทที่ลงทุนในตลาดหุ้น มักจะปรับพอร์ต/บริหารจัดการพอร์ตหุ้นเพื่อมุ่งให้ตัวเลขทางบัญชีแสดงผลกำไรดูดีในการปิดบัญชีรอบไตรมาส

ข้อดีของเหตุการณ์นี้คืออาจจะช่วยผลักดันให้ตลาดคึกคักได้ในช่วงสั้น แต่ขณะเดียวกันนักลงทุนก็ต้องระวังการขึ้นแรงแบบผิดปกติ โดยเฉพาะในหุ้นขนาดใหญ่ ที่นักลงทุนสถาบันและรายใหญ่มักถือครองอยู่ จึงมีคำแนะนำให้อิงปัจจัยพื้นฐานก่อนตัดสินใจซื้อหุ้น

บล.กสิกรไทย ชูสถิติ 5 ปีย้อนหลัง (2556-60) ปรากฎการณ์ "Window Dressing" มีโอกาสเกิดขึ้นในทุกสัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นสุดไตรมาส โดยพบว่าในไตรมาส 1 และ 2 มีโอกาสเกิดสูงถึง 80% รองลงมาคือไตรมาส 4 ที่มีความน่าจะเป็น 60% ส่วนไตรมาส 3 มีโอกาสน้อยสุด แค่ 20% เท่านั้น หรือแทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลย

โบรกเกอร์รายนี้ยังได้แสดงสถิติผลตอบแทนในสัปดาห์สุดท้ายในไตรมาส 1 เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง พบว่า Non-SET50 Index ผลตอบแทนสูงสุด 1.9% ส่วน SET50 Index ผลตอบแทน 1.3% และ SET Index ผลตอบแทน 1.5% นอกจากกลุ่มที่กล่าวมาจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกแล้ว กลุ่มหุ้นใน SETHD Index หรือหุ้นปันผล พบว่าราคาหุ้นมักจะปรับขึ้นเช่นเดียวกัน ด้วยความน่าจะเป็นถึง 80% ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ย 1.5%

ถ้าสำรวจนักลงทุนสถาบันในประเทศ ที่มักจะเป็นผู้ซื้อหุ้นใน 5 วันสุดท้ายก่อนสิ้นสุดไตรมาส ตามสถิติ 7 ปีย้อนหลัง (2553-2560) พบว่านักลงทุนสถาบันเข้าซื้อ 5 วันสุดท้ายก่อนสิ้นสุดไตรมาส 2 และ 4 มูลค่าเฉลี่ย 3.3 พันล้านบาท และ 4.8 พันล้านบาท ตามลำดับ ส่วนในไตรมาสแรกซื้อสุทธิเฉลี่ยแค่ 500 ล้านบาทเท่านั้น

โบรกเกอร์กสิกรไทยได้รวบรวมหุ้นที่นักลงทุนสถาบันนิยมถือครองกันมากที่สุด โดยรวมจากกองทุนขนาดใหญ่ที่สุด 30 กองแรก และมีการถือซ้ำมากที่สุด ประกอบด้วย :

PTT, MINT, ADVANC, AOT, KBANK, BBL, CPN, SCB, PTTGC, PTTEP, CPALL, SCC, BDMS, IVL, IRPC, SAWAD, INTUCH, HMPRO, LH และ ROBINS เป็นต้น

นักวิเคราะห์ระบุว่าหุ้นใน Non-SET50 Index มีโอกาสเกิด "Window Dressing" ไม่แพ้กับหุ้นใน SET50 โดยลักษณะการถือครองหุ้นขนาดกลางและเล็ก มักเป็นกระจัดกระจาย ทำให้การถือครองหุ้นซ้ำกันจะมีน้อย

กสิกรไทยจำแนกหุ้นที่มีกองทุนถือครองซ้ำกันระหว่าง 6-11 กองทุน และมีน้ำหนักถือครองเฉลี่ย 1% ของพอร์ตขึ้นไป ประกอบด้วย :

BANPU, GLOBAL, HANA, BEM, BCP, BCP, ESSO, GPSC, KCE, THANI, QH, CK, RS, MAJOR, LPN, AAV, TPIPP, CBG, COM7 และ MEGA

โดยกลุ่มหุ้นที่ยังปรับขึ้นตั้งแต่ต้นปีไม่มากและมีอัพไซด์สูงเกิน 10% ได้แก่ :

COM7, LH, GLOBAL, AAV, QH, CK, ROBINS, KCE และ HANA

กสิกรไทย คัดกรองหุ้นที่เหมาะแก่การเข้าซื้อเพื่อลุ้นโอกาสเกิด "Window Dressing" ในสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสแรกนี้ จำนวน 8 หุ้น ได้แก่ :

BBL, CK, DELTA, INTUCH, PTTEP, PTTGC, QH และ ROBINS

ฝั่ง "เอเซียพลัส" ชูกลยุทธ์การเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัวเพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของปัจจัยภายในและนอกประเทศ นักวิเคราะห์ประเมินการเคลื่อนไหวของ SET index แม้จะฟื้นตัวขึ้นได้ ภายหลังลงไปทดสอบ 1,780 จุด อย่างไรก็ดี หาก SET ยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,815 จุดได้ในสัปดาห์นี้ ความเสี่ยงที่จะย่อตัวลงก็มีโอกาสเช่นกัน กับคาดการณ์ความผันผวนในกรอบ 1,780-1,815 จุด

นักวิเคราะห์มองภาวะตลาดภายใต้สถานการณ์การค้าโลกที่ยังปกคลุมด้วยกระแสการกีดกันทางการค้า แต่การเติบโตเศรษฐกิจในประเทศยังมีทิศทางเชิงบวก การลงทุนในช่วงนี้จึงเหมาะเลือกหุ้น Domestic Paly ที่มีตัวเลือกเด่นคือ BCH (ราคาพื้นฐาน 19.30 บาท) และ BPP (ราคาพื้นฐาน 33.20 บาท) ส่วนหุ้นอีกประเภทที่น่าสนใจคือ Dividend Play ที่เป็นตัวเลือกที่ดีภายใต้สภาพแวดล้อมดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเอเซียพลัสระบุถึงหุ้นที่มีราคาลดลงสวนทางกับผลประกอบการที่โดดเด่นอย่าง QH (ราคาพื้นฐาน 4.30 บาท)

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com