April 19, 2024   7:04:37 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดาน โมนิก้าและทีมงาน
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 28/05/2018 @ 08:59:42
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*การได้เห็นดัชนีท้ายสัปดาห์ถีบตัวขึ้นมาหลังจากทรุดลงไปถึง 21 จุดเมื่อกลางสัปดาห์อาจทำให้ใครหลาย ๆ คนออกอาการดี๊ด๊า แต่ “โมนิก้า” กลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น เพราะการเคลื่อนไหวของดัชนีออกอาการสวิงสวายอย่างกับเล่นไวกิ้งจากเปิดบวกไป 6 จุด พลิกลงมาอยู่แดนลบลงไปต่ำสุดที่ 1,725 จุดให้เสียวสันหลังเล่น แต่กลับมาบวกอีกครั้งช่วงท้ายตลาด เป็นแพตเทิร์นปกติที่พบเห็นได้เป็นประจำจากนิสัยของคนที่ชอบเล่นแทงกั๊กถึงได้เห็นแรงซื้อและแรงขายคอยสู้กันอยู่ตลอดเวลายังไงล่ะเจ้าคะ

*หากมองหาปัจจัยที่ทำให้ดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,741.21 จุด บวกไป 8.70 จุด หรือขึ้นไป 0.50% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.48 หมื่นล้านบาท คงต้องบอกว่า “เดี๊ยน” ยังมองไม่เห็น เพราะบรรยากาศตลาดหุ้นเพื่อนบ้านยังอึมครึม แถมในประเทศยังไม่มีตัวแปรที่จะช่วยดันดัชนีให้กลับไปยืนที่ 1,800 จุดได้อีกครั้ง การขึ้นรอบนี้ถึงเป็นการขึ้นที่น่าเป็นห่วงมากกว่าน่ะสิเจ้าคะ

*อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มองว่าสถานการณ์ลงทุนยังไม่ถึงจุดต่ำสุดคงเป็นเทศกาลเทกระจาดอย่าง Sell in May ที่เสี่ยงเจอแรงขายอย่างหนักน่ะซิ หากย้อนรอยดูสถิติจะเห็นว่าความน่าจะเป็นมากกว่า 50% ที่ตลาดหุ้นจะปรับลดลงในเดือนพฤษภาคม สัปดาห์นี้ “เดี๊ยน” ถึงอยากให้จับตาแนวรับ 1,720 จุด เอาไว้ให้ดี ๆ เพราะหากการเคลื่อนตัวลงมาสู่จุดนี้เมื่อไหร่ถึงคราวที่ตลาดหุ้นจะเปลี่ยนโมเมนตัม สิ่งที่เหลือต่อจากนี้คงมีแต่ปัจจัยที่กดหุ้นให้ลงมากกว่าขึ้น

*อย่างในรายของ BEAUTY ยังไม่หมดเคราะห์หมดโศกถึงแม้จะถูกกระหน่ำขายจนล้มไม่เป็นท่ามาแล้วหลาครั้งหลายหน ก็ยังคงถูกเทขายออกมาอย่างหนักหน่วงจนหุ้นรูดไปกองอยู่แถว ๆ 17.30 บาท ลบไป 1.80 บาท หรือ 9.42% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.72 พันล้านบาท ในเมื่อหุ้นรูดมาถึงจุดนี้ประเด็นที่ต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้เสียก่อนว่าหุ้นถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง

*ถือเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อหุ้นถูกเทขายจนน่าเป็นห่วง คำถามของนักลงทุนคือกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ทิ้งหุ้นออกมาให้เม่านอนหนาวหรือเปล่า? งานนี้ผู้บริหารผู้ช่ำชองธุรกิจความงามถึงได้ตกเป็นเป้าถูกเพ่งเล็ง คุณหมอโร่แจงทันทีว่ายังทำธุรกิจตามปกติ ไม่ได้เคาะซ้ายขายหุ้นออกมาแต่อย่างใด การที่หุ้นร่วงหนักอาจเพราะมีมือมืดปล่อยข่าวลือทุบหุ้น แถมยังรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่ายังคงรักษาสัดส่วนถือหุ้นที่ 22% เอาเป็นว่ามิตรรักแฟนเพลงของเดี๊ยนเข้าใจตรงกันนะว่าของเก่า 2 พันล้านคราวก่อนยังเหลืออยู่อีกเยอะใช่มั้ยคะคุณหมอออ…อิอิ

*ในรายของ PTTEP หลังโดนทิ้งอย่างสาหัสสากรรจ์มาหลายวัน ราคาหุ้นเมื่อวันศุกร์เริ่มดีดกลับมาปิดที่ 140.50 บาท บวก 0.50 บาท หรือบวกไป 0.36% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.73 พันล้านบาท เป็นช็อตตามกระแสของแหล่ง “บงกช–เอราวัณ” ที่วันนี้จะประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติ PQ ด้วยความที่เป็นตัวเต็งจากการเป็นผู้ประกอบการเดิม อาศัยความเชี่ยวชาญในการผลิตยังงั้ยยังไงก็ผ่านฉลุย! นักลงทุนเขามองเห็นอนาคตสดใสอยู่รำไรถึงได้เคาะขวารัว ๆ ยังไงล่ะเจ้าคะ

*ในรายของ AKR แสดงอภินิหารม้ามืด ถีบตัวขึ้นมาที่ 1.36 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 7.94% ด้วยมูลค่า 65.74 ล้านบาท มูลค่าซื้อขายสูงสุดในรอบเกือบ ๆ 3 ปี บิ๊วท์อารมณ์จากการบุ๊ครายได้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ให้กับ “TOYOTA” กว่า 100 ล้านบาทในไตรมาส 2 “โมนิก้า” อยากให้ลองย้อนดูเทรนด์ของหุ้นที่ผ่านมาก่อนจะลุยแบบสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะเทรนด์หุ้นแบบนี้ต้องคนคิดเร็วทำเร็วเท่านั้นถึงจะอยู่รอดเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ SCI เห็นทีจะกู่ไม่กลับ ราคาหุ้นทำจุดต่ำสุดไม่หยุดหย่อน ล่าสุดราคาไหลมาปิดที่ 3.02 บาท ลบไป 0.26 บาท หรือลงไป 7.93% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21.21 ล้านบาท แถมงบการเงินยังต้องกุมขมับ ถึงจะออกมาสร้างสตอรี่ด้วยแผนขยายการลงทุนหนุนกำไรปีนี้สดใส แต่หากไตรมาส 1 ผลงานออกมาเป็นแบบนี้ไตรมาสต่อ ๆ ไปจะกู้ผลงานให้กลับมาต้องลุ้นกันจนหืดขึ้นคอหน่อยนะเจ้าค่ะ

*เม้าท์ส่งท้ายกันที่ GOLD หลังเหลือบไปเห็นหุ้นวิ่งเป็นม้าคึก แถมบรรดาเซียนหุ้นต่างปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้กันครึกโครมการันตีด้วยผลงานครึ่งปีแรก ผสมโรงกับสัญญาณเทคนิคขาขึ้น หุ้นถึงได้กระชากขึ้นมาปิดที่ 10.80 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 5.88% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 155.06 ล้านบาท แรงสุดในรอบเกือบ 4 ปี สะท้อนให้เห็นว่าเป็นการไล่ราคารอบใหม่ถือเป็นทีเด็ดสำหรับช่วงนี้นะจะบอกให้

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com