thaihoon สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 14,583 | วันที่: 30/05/2018 @ 08:37:09 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต มีมุมมองความเห็นจากหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ คมศร ประกอบผล ที่ระบุว่าช่วง 5 เดือนแรกปี 61 ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยไปแล้วกว่า 110,000 ล้านบาท นับเป็นการขายมากที่สุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในอดีต
ซึ่งการเทขายของต่างชาติครั้งนี้ สะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น หลังการเติบโตของตลาดเกิดใหม่เริ่มมีอุปสรรคจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นท่ามกลางการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ขณะที่สภาพคล่องโลกมีแนวโน้มลดลงจากการลดขนาดงบดุลของเฟด และการลดนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือคิวอี ของธนาคารกลางยุโรป
รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นเกือบ 50% ส่งผลกดดันกำลังซื้อและทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดของตลาดเกิดใหม่ลดลง
ทั้งนี้ นักลงทุนควรติดตามการประชุมเฟดวันที่ 13 มิ.ย.นี้ หากเฟดส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด จะจุดชนวนให้ต่างชาติเทขายหุ้นไทยและหุ้นในตลาดเกิดใหม่อีกรอบ ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดนี้ จะกดดันการลงทุนในตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทยไปตลอดทั้งปี 61
นักลงทุนคาดเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ 3 ครั้ง ซึ่งปรับขึ้นไปแล้ว 1 ครั้งในเดือน มี.ค.และคาดว่าจะขึ้นอีกครั้งเดือน มิ.ย. แต่หากทั้งปีเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้ง หรือเร็วกว่าที่คาดจะทำให้นักลงทุนเริ่มเทขายหุ้นในตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทย
ดังนั้น ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ ยังคงแนะให้ลงทุนด้วยความระมัดระวังในช่วงที่เหลือของปี และควรให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ และญี่ปุ่น มากกว่าตลาดเกิดใหม่ พร้อมทั้งแนะนำให้นักลงทุนถือเงินสดเพิ่มขึ้น เพราะจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 61
ทั้งนี้ ยังประเมินว่าความเสี่ยงจะมีมากขึ้นไตรมาส 4 มีประเด็นต้องจับตาได้แก่ สภาพคล่องที่ลดลงจากการลดขนาดงบดุลของเฟด และการยุติคิวอี ของธนาคารกลางยุโรปและความเสี่ยงจากการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ พ.ย.นี้ ซึ่งพรรครีพับลิกันมีโอกาสสูญเสียเสียงข้างมากทั้งในสภาบนและสภาล่าง เป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจและเป็นความเสี่ยงให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกนำเข้ากระบวนการถอดถอนได้!!
|