*เดิมที “โมนิก้า” ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ว่า ดัชนีจะลงลึกไปถึงระดับ 1,700 จุด แต่เมื่อเหลือบมองปัจจัยลบต่างประเทศที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้เชื่อในทฤษฎี side way down มากขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับหลายอย่างได้พิสูจน์ให้เห็นเต็มสองลูกตา เลยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ มาหักล้างประเด็นดังกล่าวได้สักที จึงต้องปล่อยไปเลยตามเลยไงล่ะตัวเอง!

*จุดที่น่าสนใจอยู่ตรงท่าทีของฝรั่งตาน้ำข้าวยังเทขายหุ้นออกมาไม่หยุดหย่อน เท่ากับเป็นการแสดงเจตนาให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ต้องการลดพอร์ตในตลาดหุ้นไทยให้ได้มากสุด เพราะการลงทุนอย่างอื่นให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ดัชนีถึงทรุดลงมาปิดที่ 1,725.14 จุด ลบไป 9.40 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.74 หมื่นล้านบาทอย่างง่ายดาย และมีความเป็นไปได้ที่จะอ่อนตัวลงไปอีกนะจะบอกให้

*โดยจุดแนวรับสำคัญที่ทุกคนมองไว้อยู่บริเวณ 1,700 จุด ซึ่งเป็นระดับที่สะท้อนมูลค่าเหมาะสมของตลาดหุ้นไทยได้เป็นอย่างดี หากดัชนีทรุดตัวลงต่ำกว่าบริเวณดังกล่าว “โมนิก้า” ขอตีความว่า กำไรไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนออกมาแย่กว่าไตรมาส 1 ส่งผลให้ระดับเหมาะสมถูกปรับลดลงไปโดยปริยาย เดี๊ยนถึงจั่วหัวข่าวไปเมื่อวันก่อนว่า “ต้องเข้าใจเกม” ไงล่ะคะ

*เหมือนกับการทรุดตัวของหุ้นปูนใหญ่ SCC ลงมานอนกลิ้งอยู่ที่บริเวณ 452 บาท ลบไป 12 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.93 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกำไรที่จะประกาศออกมาอย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่งบไตรมาส 1 ออกมาไม่ดี สถานการณ์ของหุ้นก็ดูย่ำแย่ลงไปในทันที และมองไม่เห็นหนทางที่จะตีตื้นขึ้นมาได้อีกเลยพะยะค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่น่าห่วงสุด ๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้นบันเทิงเริงรำ RS โดนถล่มแบบไม่ปรานีกันอีกเลย จนหุ้นลงมานอนอยู่ที่ระดับ 18 บาท ลบไป 2.10 บาท หรือลงไป 10.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 611 ล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่เรียกได้เต็มปากเป็นคำว่า “แพแตก” ขาใหญ่พากันทิ้งหุ้นหนีตายกันอุตลุด บวกกับลูกหาบใส่เกียร์ถอยแบบสุดซอย สภาพของหุ้นถึงได้เละเป็นโจ๊กเจ้าคะ

*ส่วนอีกหนึ่งลูกหลงที่โดนผลกระทบไม่ว่างเว้นในแต่ละวัน จนสภาพของหุ้นดูไม่ดีเอาเสียเลยนั้น “โมนิก้า” คงต้องเอ่ยถึงหุ้น MTC ภายใต้การคุมบังเหียนของ “ป๋าชู” เป็นลำดับถัดมาในทันที เพราะเมื่อดูจากคำสัญญาที่บอกให้ชาวโลกรู้ว่าปี 2561 กำไรของบริษัทโตตามเป้าที่วางแผนไว้แน่นอน แต่ราคาหุ้นดันทรุดลงมากองอยู่ที่ระดับ 32 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 840 ล้านบาท มันหมายความว่าอย่างไร?…ใครรู้ช่วยบอกที!

*เช่นเดียวกับในรายของ IVL โดนเทขายหนักทั้งที่รู้อยู่เต็มอกตูม ๆ ว่า ผลงานในปี 2561 แจ่มแจ๋วอย่าบอกใครเชียว! หุ้นกลับไหลลงมาปิดที่ 57.50 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 4.55% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.46 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถึงมองเป็นการตัดขายหุ้นเพื่อเล่นรอบใหม่ ไม่ได้มีอะไรที่แปลกพิสดารไปกว่าเดิม จึงกลายเป็นหุ้นที่ต้องลุ้นให้เด้งขึ้นแรงในวันนี้ เพื่อทำให้ทิศทางของหุ้นกลับสู่โมเมนตัมที่ดีเจ้าคะ

*เมื่อองค์ประกอบหลายอย่างไม่เอื้อให้ลุยแบบสุดซอย แรงเทขายเลยไหลออกมาเต็มท้องตลาดไปหมด KCE เลยโดนเทขายไปแบบช่วยไม่ได้ และเป็นเหตุให้ราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ 32.50 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 480 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่นักเล่นต้องเข้าใจด้วยว่า เปิดหัวไตรมาสแรกขึ้นมาทั้งที..กำไรก็ไม่เป็นไปตามเป้าซะแล้ว! เลยโดนกระหน่ำเทขายรัว ๆ ก็เท่านั้นเอง

*ส่วนรายที่ออกไปในโทนประหลาด ๆ สวนกระแสตลาดแบบงง ๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้น CBG เป็นรายถัดไปในทันที หลังหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 54 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.85% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 332 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่สะเทือนอารมณ์แมงเม่าอย่างแท้จริง เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งโดนลากไปเชือดแหม็บ ๆ วันนี้ก็ยังลากขึ้นไปกระทำชำเราอีกแบบนี้..มันใช่อะป่าว!

*สำหรับรายที่ต้องระวังไว้หน่อยในเที่ยวนี้ คงไม่มีใครเกินหน้าไปกว่าหุ้น BGRIM เพราะดูเหมือนควันไฟจะไม่จางลงสักเท่าไหร่! จึงอาจมีการปะทุรอบใหม่ขึ้นมาได้อีก “โมนิก้า” ถึงเกิดอาการตงิด ๆ เมื่อเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมายืนที่ 24.50 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 727 ล้านบาท เดี๊ยนถึงอยากถามใจแฟนคลับว่า ทุกอย่างเคลียร์ชัดจัดเต็มแล้วใช่ไหม?

*หากเคลียร์ไม่ชัดเจนสักที และยังมีปัญหาค้างคาใจ ก็คงดูตัวอย่างได้จากสภาพของหุ้น MINT วันนี้เละเทะขนาดไหน? ทำไมนักเล่นถึงทิ้งไม่เลิกสักที ขนาดวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ 34 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 2.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 920 ล้านบาท ก็ยังมีเสียงร่ำลือจากทางไกลว่า มีความเสี่ยงที่จะโดนเทขายออกมาเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ขอถามหน่อยเถอะว่า ทำอะไรผิดเหรอ? จำกันได้ไหม?..หากคิดไม่ออก ไปย้อนดูข่าวเก่าบน www.kaohoon.com เอาเองนะคะ