***นักลงทุนต่างชาติขายออกจากตลาดหุ้นไทยอีกกว่า 2,424 พันล้านบาท แต่กลับเข้าไปซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 3,447 ล้านบาท ทำให้ค่าเงินบาทผันผวน และแกว่ง Sideway ตลอดวันเมื่อวานนี้ ขณะที่ ดัชนีปิดลบ 5.65 จุด ลงมาที่ 1,733 จุด สวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่พากันปิดตลาดในแดนบวก โดยมีแรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคารออกมา นำโดย KBANK และ SCB รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่ CPALL AOT และ PTTEP ที่กดดันดัชนีมาตลอดวัน

***เรื่องของหุ้น SUPER ของ “จอมทรัพย์” ผ่านมาจนป่านนี้ ก็ยังคุยกันไม่เลิกว่าใครกันแน่ที่ลากหุ้นขึ้นมาและทุบลงไป และเชื่อกันว่าหุ้นที่ปรับลงไม่ได้เกิดจากการ “แพนิก” แน่นอน แต่มองอีกด้าน ก็ถือว่าเป็นเกมที่เพลี่ยงพล้ำของรายย่อย แม้ในยุคนี้รายย่อยจะเก่งขึ้น แต่คน “ทำหุ้น” ก็มีพัฒนาการไปมากเช่นกัน ทำงานกันแนบเนียนมาก ๆ แต่ก็ต้องดูตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต.ต่อไปว่า จะดำเนินการได้แค่ไหน กระชากหน้ากากคนอยู่เบื้องหลังได้หรือไม่

***เสี่ยพิชญ์ โพธารามิก บอสของ JAS ใจดีอีกแล้ว ช่วยดันการจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.30 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 21 มิ.ย. 2561 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 ก.ค.นี้ หากดูจากเงินปันผลและราคาหุ้นล่าสุด จะได้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล เกือบ ๆ 5% ส่งผลให้เมื่อวานนี้ไล่ราคาหุ้นกันสนุกสนานในระหว่างวัน แต่พอปิดตลาดกลับบวกเพียง 0.10 บาท มาที่ 6.10 บาท

***เรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่อีกกับกรณี ป.ป.ช.ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวหา “ทักษิณ ชินวัตร” ใช้อำนาจโดยมิชอบ ให้กระทรวงการคลังเข้าไปช่วยฟื้นฟูกิจการ TPI ซึ่งเรื่องนี้ หากใครติดตามข่าวจะทราบว่า คลังดำเนินการไปตามคำสั่งของศาลล้มละลายกลาง และประเด็นนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินเคยยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้วด้วย และศาลฯ บอกว่า คลังทำได้ ไม่ผิด ก็ไม่รู้ว่าจะแค้นอะไรกันนักหนา จนหลักการพังกันไปหมด

***สัปดาห์หน้า ตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะประกาศหุ้นที่จะเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 แล้ว อย่าง SET50 ที่คาดว่าเข้า มี GULF (โอกาส 90%), GLOW, DELTA, KTC, TOA, RATCH และ BGRIM ส่วน SET100 คือ BLA, VGI, JAS, MBK, RS, ERW และ THANI ทั้งหมดนี้คือคาดการณ์ของโบรกฯ ใช้เกณฑ์เดียวกับที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดไว้ แต่ผลเป็นทางการต้องไปลุ้นกันอีกครั้ง ว่าจะมี “ดุลยพินิจ” หรือเปล่า เพราะในบทวิเคราะห์หลาย ๆ โบรกฯ ก็บอกชัดเจนว่า มันมีเรื่องดุลยพินิจด้วย

***วันก่อนหน้านี้ MINT แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน NH Hotel เพิ่มอีก 25.6% ด้วยมูลค่าเงินลงทุนรวม 622.4 ล้านยูโร หรือเทียบเท่า 2.4 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้บริษัทเข้าถือครอง NH Hotel รวมทั้งสิ้น 34.7% บนเงินลงทุนทั้งหมด 3.2 หมื่นล้านบาท พอวันถัดมา บรรดานักวิเคราะห์ต่างดีดลูกคิด พร้อมแนะนำ “ซื้อ” หุ้น MINT กันแบบพร้อมหน้า ราคาเป้าหมายอยู่ระหว่าง 45-50 บาท ส่วนราคาหุ้นเมื่อวานนี้ ปิดที่ 35.75 บาท ถือว่ามีอัพไซด์น่าสนใจ

***คณะกรรมการบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ บสก. (BAM) ในการประชุมครั้งที่ 9/2561 เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา และความเห็นชอบของกระทรวงการคลังให้แต่งตั้ง นายสมพร มูลศรีแก้ว ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2561 เป็นต้นไป ส่วนแผนการเข้าตลาดหุ้น มีข่าวว่าน่าจะอยู่ภายในปี 2561 แน่นอน