*ช่วงนี้ “โมนิก้า” อาจมีอารมณ์แปรปรวนขึ้น ๆ ลง ๆ ตามทิศทางการแกว่งตัวของดัชนีบ้างก็จริง แต่อาการดังกล่าวไม่ได้ทำให้กระบวนการทางความคิดเฉื่อยชาลงแต่อย่างใด เพราะกรอบการเคลื่อนตัวใหญ่ ๆ ยังเป็นไปตามที่ประเมินไว้ทุกอย่าง เดี๊ยนถึงไม่ค่อยแคร์พวกโลกสวยที่ชอบจิตนาการว่า ตัวเองเดินเล่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ เพราะโลกของความเป็นจริงมันเต็มไปด้วยขวากหนามนะจะบอกให้

*เดี๊ยนถึงมองการขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,700 จุดเป็นการเปลี่ยนโพสิชั่นของตลาดหุ้นอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการตั้งฐานใหม่สำหรับการเล่นเที่ยวนี้ “โมนิก้า” เลยไม่มีอาการตื่นตระหนกเมื่อดัชนีเทกตัวขึ้นแรง หรือในบางวันโดนเทขายลงมาหนัก ๆ เพราะตัวเลขกำไรของแบงก์ที่ประกาศออกมาดีกว่าคาด รวมทั้งบริษัทขนาดใหญ่ที่มีผลงานไม่สวยสดงดงามก็แก้เกมด้วยการงัดปันผลระหว่างกาลมาจ่าย จึงไม่มีอะไรต้องกลัวอีกต่อไปนะซี

*นอกจากนี้ หากใช้สัญญาณเทคนิคมาเป็นตัวเดินเกมหุ้น “โมนิก้า” ย่อมมีอาการมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เพราะตลาดหุ้นไทยได้ผ่านกระบวนการทดสอบแรงเทขายจนสะเด็ดน้ำ บวกกับกลุ่มสถาบันตัวแสบก็กลับเข้ามากว้านซื้อหุ้นแบบไม่ลังเลใจ ดัชนีถึงยืนปิดที่บริเวณ 1,701.87 จุด บวกไป 11.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.94 หมื่นล้านบาทแบบชิว ๆ ไงล่ะคะ

*ผลดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” พุ่งประเด็นการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ไปที่การตั้งต้นใหม่ เพื่อทำให้แมงเม่าได้เห็นภาพความขมุกขมัวก่อนจะเผยภาพที่ชัดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา พร้อมกับขอเม้าท์ถึงหุ้นร้อน ๆ ที่มีประเด็นให้ขบคิดจนหัวแตก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เดี๊ยนมีความถนัดถนี่เป็นทุนเดิมอยู่ จึงไม่มีอาการเขินอายที่จะพูดถึงจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เจ้าค่ะ

*ประเด็นนี้เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ CPALL โดนถล่มเทขายจนหาทางกลับบ้านไม่เจอ ขนาดเขาเม้าท์กันให้แซดว่า ดีอย่างนั้น..ดีอย่างนี้ สุดท้ายกลับทำตัวสวนภาวะตลาดหุ้นด้วยการปิดที่ 76 บาท ลบไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.94 พันล้านบาทนั้น “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ทำให้รู้ว่า เมื่อหุ้นอยู่ในโหมดโอเว่อร์แวลูนานเกินไป ต่อให้หุ้นลงมาเยอะขนาดไหน ก็ไม่มีใครกล้าเล่นหรอกนะคะ

*ส่วนรายที่กำลังจะตามไปอย่าง IVL ก็เป็นอะไรที่ต้องระวังมากเป็นพิเศษ หลังมีข่าวไปเทกของเน่ามาไว้ในการครอบครอง แถมเที่ยวนี้เป็นการซื้อของแพงที่ให้กำไรต่ำเรียดดิน “โมนิก้า” ถึงสังหรณ์ใจเหลือเกินว่า หุ้นจะถึงคราวลงหนักก็เที่ยวนี้แหละ! แถมบรรดาคนรู้จักก็ล้างพอร์ตหุ้นตัวนี้จนหมดเกลี้ยง เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 60 บาท บวกไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 856 ล้านบาท ไม่มีความเซ็กซี่อีกแล้วนะซี

*คล้ายกับกรณีของ WORK พยายามยกตัวเพื่อทำฐานราคาใหม่ตลอดเวลา แต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจให้สักทีแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่เหนื่อยสำหรับคนที่เข้าเล่นหุ้นบันเทิงตัวนี้ เพราะบริษัทได้ผ่านจุดพีกของการทำธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว เดี๊ยนเลยไม่รู้ว่า จะเอาอะไรมาดันให้หุ้นวิ่งแบบสุดลิ่มทิ่มประตูเหมือนเมื่อก่อน บวกกับหุ้นเทรดบนค่า P/E สูง จึงมองราคาปิดที่ 46.75บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 3.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 143 ล้านบาท เป็นจังหวะขายนะคะ

*ส่วนรายที่อยู่ในข่ายต้องวัดใจอย่างหุ้น KTC ยังคงเป็นช็อตที่นักเล่นต้องระวังเหมือนเดิม เพราะหุ้นย้อยตัวลงมาป้วนเปี้ยนที่แนวรับสุดท้ายบริเวณ 27 บาทสองสามวัน หากไม่มีแรงซื้อที่หนาแน่นเข้ามาดันหุ้นแบบสุดซอย หุ้นมีโอกาสทรุดตัวหลุดแนวรับดังกล่าวค่อนข้างสูง บวกกับมีพวกโรบอตจ้องเล่นงานตลอดเวลา เลยทำให้การปิดที่ระดับ 28 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.41 พัน ล้านบาท กลายเป็นช็อตที่น่าเสียวไส้สุด ๆ เจ้าค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวคล้ายกับการโดนหางเลขของหุ้นน้องใหม่ TEAMG ถูกมรสุมข่าวเขื่อนแตกเล่นงานทั้งที่ไม่มีเอี่ยวกับงานก่อสร้าง เพราะตัวเองมีหน้าที่แค่ทำเรื่องสิ่งแวดล้อม (EIA) จู่ ๆ กลับมีคนไปผูกโยงเรื่องดังกล่าวเข้าให้ หุ้นเลยทิ้งดิ่งลงมาปิดที่ 2.36 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 2.50% พร้อมกับหลุดจองไอพีโอที่ระดับ 2.42 บาทลงมาอย่างง่ายดายแบบนี้ บอกได้แค่ว่า เคราะห์หามยามซวยจริง ๆ นะจะบอกให้

*อีกหนึ่งรายที่ออกอาการเป๋อย่างไม่น่าเชื่อ “โมนิก้า” คงต้องพุ่งเป้าไปที่หุ้น WHA หลังโดนรินเทขายตลอดทั้งวัน จนทรุดตัวลงมาปิดที่ 4 บาท ลบไป 0.04 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 225 ล้านบาท แถมเป็นทิศทางที่อ่อนตัวลงอย่างชัดเจนแบบนี้ มันเป็นช็อตที่ทำให้คนเล่นระทึกใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เพราะสัญญาณเทคนิคฟ้องว่า หากหลุดกรอบแนวรับบริเวณ 3.90 บาท ไปเจอกันอีกทีแถว 3.60 บาทนะคะ