ตลาดหุ้นไทยประจำวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา มีความผันผวน โดยเฉพาะช่วงบ่ายที่เจอแรงกดดันจากต่างประเทศเหตุมีความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจของจีนที่ส่อเค้าชะลอตัวเพราะผลจากสงครามการค้าและความกังวลในเรื่องการโจมตีค่าเงินในกลุ่มตลาดเกิดใหม่

ส่งผลให้แม้ตลาดหุ้นในช่วงเช้าของวันที่ 9 ต.ค.จะดูดีสีเขียวขจีสดใส โดยมีแรงซื้อเก็งกำไรก่อนประกาศผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน (บจ.) งวดไตรมาส 3 ปี 2561 แต่พอช่วงบ่ายกลับมีแรงเทขายต่อเนื่องจนตลาดเริ่มปักหัวลง ยังดีที่ช่วงท้ายตลาดมีแรงไล่ซื้อจากนักสู้ผู้กล้าช่วยดันตลาดไม่ให้ติดลบ

ส่งผลให้ปิดตลาดเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2561 ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,696.92 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด หรือ +0.04% มูลค่าซื้อขาย 52,507.45 ล้านบาท

ระหว่างวันมีการเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,708.72 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,690.92 จุด

โดยหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,161.49 ล้านบาท 2.PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,865.67 ล้านบาท 3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,566.58 ล้านบาท 4.GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,507.70 ล้านบาท และ 5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,427.56 ล้านบาท

เป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงท้ายตลาดได้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานและโรงไฟฟ้า

โบรกเกอร์มองว่าตลาดหุ้นไทยรวมทั้งตลาดหุ้นในประเทศต่างๆ ที่วูบวาบในช่วงนี้เป็นผลมาจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดจีดีพีโลกในปีนี้จาก 3.9% เหลือ 3.7% ในปีนี้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ อันเป็นผลจากสงครามทางการค้า ทำให้เกิดความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกที่จะปรับตัวลดลง

ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคนี้ ซึ่งรวมทั้งค่าเงินบาทได้อ่อนค่าต่อเนื่องสะท้อนเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่และในภูมิภาคหลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯในหลายๆตัวได้ปรับตัวดีขึ้น

ทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นไม่ง่ายนัก

จากความวิตกในเรื่องเศรษฐกิจโลกที่ส่อเค้าจะชะลอตัวจากผลของสงครามการค้าและการโจมตีค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ ทำให้แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันที่ 10 ต.ค.นี้ ยังคงผันผวนต่อเนื่อง

จับตาหุ้นกลุ่มพลังงานยังคงร้อนแรง!!!