*ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” เกิดความรู้สึกไม่ค่อยแฮปปี้ช่วงนี้มีเพียงเรื่องเดียวคือ นักเล่นกลุ่มสถาบันชอบดันหุ้นสุดซอย หลังจากนั้นมักฉวยจังหวะสาดหุ้นอย่างโหด จนทำให้มิตรรักแฟนเพลงเกิดอาการหวาดกลัวกันเป็นแถว จึงกลายเป็นประเด็นที่ทำให้เดี๊ยนต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อช่วยนักเล่นกำหนดทิศทางการเล่นในแต่ละรอบได้คล่องตัวขึ้นไงล่ะคะ

*ยิ่งวานนี้เห็นอาการเหวี่ยงตัวในแดนบวกค่อนข้างรุนแรง ยิ่งทำให้เดี๊ยนต้องตระหนักถึงความเสี่ยงมากขึ้นเป็นกอง บวกกับพฤติกรรมการเล่นเที่ยวนี้เริ่มออกไปในโทน 3 ช่องออก “โมนิก้า” ถึงต้องออกมาเตือนสติเหล่านักเล่นอย่าเพลิดเพลินจนลืมขายหุ้นทำกำไร เพราะหุ้นคงแกว่งตัวที่แนวรับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,700 จุดอีกนานพอสมควรนะจะบอกให้

*ด้วยเหตุนี้ถึงต้องมองการพุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,708.72 จุด ต่อจากนั้นไหลลงมาทำจุดต่ำสุด 1,694.70 จุด ก่อนดัชนีจะปิดไปที่บริเวณ 1,696.92 จุด บวกไปแค่ 0.70 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.25 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการรีบาวด์หลังจากดัชนีทิ้งตัวลงแรง และช็อตที่ต้องติดตามให้ดีในวันนี้คงต้องดูแรงซื้อมีเข้ามาเยอะขนาดไหน ? หากยังออกอาการเปาะ ๆ แปะ ๆ คงต้องกล่าวคำว่า นิ่งสงบ..สยบความเคลื่อนไหว ! ..อิอิอิ

*เหมือนกับอาการของ KTC ถูกรินขายหุ้นออกมาเรื่อย ๆ จนโดนสาดโครมใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัว จนสุดท้ายหุ้นลงมานอนอยู่ที่ 33.75 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 4.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.18 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการหมดรอบธรรมดาอีกครั้ง เพราะถ้าย้อนดูเหตุการณ์ในช่วงไตรมาส 2 ที่หุ้นทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง ต่อจากนั้นโดนเทขายออกมาเรื่อย ๆ จนลงมานอน 28 บาท ต่อจากนั้นเด้งกลับขึ้นไปที่ยอด 37 บาท มันคือภาพจำลองเหตุการณ์นี้ดี ๆ นั่นเองจ้า !

*ส่วนในรายของ MTC โดนเทขายหนักไม่แพ้กับรายข้างต้น แต่ยังรักษาทรงหุ้นได้อย่างยอดเยี่ยม จึงทำให้การลงมาปิดที่บริเวณ 49 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 815 ล้านบาท มีโอกาสเด้งกลับค่อนข้างสูงในวันนี้ หลังหุ้นประคองตัวปิดเหนือเส้น 10 วันที่บริเวณฐานแรก 48 บาทได้อย่างฉิวเฉียด ทำให้วันนี้มีเรื่องต้องลุ้นระทึกอีกแล้วล่ะค่ะ

*ในเมื่อพูดถึงเรื่องชอบลุ้นขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องหันมาดู AMATA เพื่อบอกเล่าอาการที่ไม่น่าพิศมัยได้เกิดขึ้นแล้ว หลังหุ้นทรุดตัวลงหนักเป็นเวลา 3 วันติด และตามตำราดวงของฝรั่งถือเป็นลางร้าย วันนี้ถึงต้องจับตาให้ดีเป็นพิเศษ และต้องลุ้นให้ดีดกลับเพื่อทำให้โพสิชั่นหุ้นเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หลังหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 23.30 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1 พันล้านบาทแล้วนะซี

*สำหรับรายที่ไป ไม่กลับ..หลับไม่ตื่น..อีกนานฟื้น คงต้องยกตำแหน่งดังกล่าวให้กับปูนใหญ่ SCC ไปครองแบบไร้คู่แข่ง (คัดเลือกเฉพาะหุ้นในกลุ่มบลูชิพ) เพราะทันทีที่ป่าวประกาศต่อสาธารณชนว่า ปีนี้ธุรกิจไม่โตเหมือนในอดีต แรงเทขายจากพวกกองทุนตัวแสบ กับฝรั่งตาน้ำข้าวก็ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง จนหุ้นร่วงลงเป็นเวลา 6 วันติด เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นลงมายืน 424 บาท ลบไป 4 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.16 พันล้านบาท พร้อมกับต้องลุ้นกันอีกเที่ยวว่า 400 เอาอยู่ไหม ?

*ส่วนรายที่มองไม่เห็นก้นเหวอยู่ตรงไหน ? และไม่มีคำชี้แจงออกมาจากปากฝ่ายบริหาร ! “โมนิก้า” คงต้องย้ำหัวหมุดไปที่หุ้นดาวร่วง CPT เป็นรายแรกอีกเช่นกัน หลังหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 1.41 บาท ลบไป 0.12 บาท หรือลงไป 7.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น พ่วงด้วยการทำ all time low แบบไม่หยุดหย่อน เดี๊ยนมองไม่เห็นประโยชน์ในการเข้าไปรับหุ้นเจ้าค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวอาจใช้ไม่ได้กับหุ้น NPPG หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 1.05 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 29.60% ทั้งที่ก่อนหน้านี้หุ้นไหลลงมาเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน จู่ ๆ มีมือดีเข้ามาดันหุ้นแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว “โมนิก้า” มองเป็นเกมโหดที่นักเล่นต้องเข้าใจสตอรี่ที่เกิดขึ้นก่อนหน้ามีการบิลต์อารมณ์แบบสุดขั้ว แต่เผอิญตัวเลขกำไรไม่มาตามที่โม้ไว้เยอะ เดี๊ยนถึงมองไม่ออกสักทีว่า หุ้นจะไปยาว ๆ ได้อย่างไร ?

*คล้ายกับกรณีของ OCEAN พยายามเคาะหุ้นเพื่อเลี้ยงกระแสไว้แบบสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ทันทีที่หุ้นเพิ่มทุนชุดใหม่เข้ามาซื้อขายอย่างเป็นทางการวานนี้ ราคาหุ้นก็ทรุดลงมายืนปิดที่ 2.86 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 6.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 94 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ต้องดูกันต่อไปว่า วันนี้จะเป็นอย่างไร ? เพราะหลายประเด็นที่เคยเป็นข้อกังขาเริ่มถูกเฉลยออกมาทีละช็อตนะซี