*อันที่จริง “โมนิก้า” เป็นสาวมาดมั่นที่พกพาความอ่อนโยนติดตัวมาเป็นประจำ แต่เผอิญโลกของการลงทุนมันอยู่ยากมากขึ้นทุกวัน จึงทำให้เดี๊ยนกลายเป็นคนพูดตรง ๆ แทงกลางใจดำของใครหลายคนเป็นประจำนั้น เดี๊ยนมองเป็นเรื่องที่ทุกคนรับรู้รับเห็นกันจนชินตา จึงเข้าใจสิ่งที่อีเมี้ยนปากมากพยายามอธิบายให้ทุกคนเข้าใจปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนะจะบอกให้

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องย้อนกลับมาเม้าท์ถึงเรื่อง “อีกาสามตัว” เพื่อทำให้เห็นการอ่อนตัวลง 2 วันติดก่อนหน้านี้ มักตามด้วยการอ่อนตัวลงเป็นวันที่ 3 (อีกาตัวที่สาม) ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นไทยอยู่ในทิศทางขาลงดั่งเช่นที่เคยเกิดขึ้นในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา แถมเที่ยวนี้ตลาดหุ้นไทยอาจถูกถล่มซ้ำด้วยตัวเลขผลประกอบการที่ออกมาแย่กว่าคาดการณ์ไว้ หลายอย่างเลยดูไม่โอเคไงละค่ะ

*เหมือนกับการอ่อนตัวของดัชนีลงไปถึงระดับ 1,656.51 จุด ก่อนจะตีกลับขึ้นมาปิดที่บริเวณ 1,675.33 จุด บวกไป 6 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.06 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากกว่าเที่ยวก่อน เพราะไม่รู้จะเอาประเด็นไหนมาเป็นตัวบิลต์ให้นักลงทุนเข้ามาไล่ซื้อหุ้น ภาพของการลงทุนถึงดูอึมครึมเยอะขึ้นทุกขณะ จึงต้องเผื่อใจสถานการณ์อันไม่พึงประสงค์ไว้ด้วยนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับรายของหุ้นน้องใหม่ NER โดนมือที่มองไม่เห็นถล่มหนักตั้งแต่ pre-open (2.22 บาท) จนทำให้แมงลือเม้าท์กันสนุกปากว่า หัวเรือใหญ่อย่างเฮีย “นิมิต” ฝีมือตกเป็นเพราะแจกหุ้นเยอะไปหน่อย วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดได้แค่ระดับ 2.38 บาท ต่อจากนั้นโรยตัวลงมาปิดที่ 2.06 บาท ลบไป 0.52 บาท หรือลงไป 20.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.26 พันล้านบาท เทียบกับจองซื้อที่ราคา 2.58 บาท..ชีช้ำกระหล่ำแฉะกันถ้วนหน้านะคะ

*ส่วนรายที่หมดสภาพแบบเห็นได้ชัดอย่าง KCE ทั้งหมดเกิดจากผลงานไม่เข้าเป้าตามแผนที่วางไว้ บวกกับพวกนกรู้มองผลงานในไตรมาส 4 มีสิทธิ์ออกมาย่ำแย่ จึงโดนกระหน่ำเทขายตั้งแต่เช้าจรดเย็นอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จนสุดท้ายปิดไปที่ระดับ 31 บาท ลบไป 4.75 บาท หรือลงไป 13.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 947 ล้านบาท แถมเป็นการลงมาปิดบริเวณจุดเด้งกลับครั้งก่อนพอดีแบบนี้..เสียวซ่านเหลือเกินเจ้าค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่พลิกผันสุด ๆ “โมนิก้า” คงยกตำแหน่งดังกล่าวให้กับ BGC อุตส่าห์ตั้งลำอย่างสวยงามตามท้องเรื่อง แต่ดันโดนเทขายแบบไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น จนหุ้นทรุดตัวลงมายืนอยู่ที่ 2.40 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 304 ล้านบาท มันเป็นเกมที่บีบหัวใจเหลือเกิน เพราะหุ้นลงมาปิดกึ่งกลางระหว่าง “ขึ้น” กับ “ลง” เลยมีสิทธิ์ออกได้ทั้ง 2 หน้านะจะบอกให้

*สำหรับหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ทำให้นักเล่นรู้สึกหนักใจเหลือเกินในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่ IRPC เป็นรายถัดไปในทันที หลังผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ลดลงมากถึง 21% ซึ่งเป็นชนวนเหตุที่ทำให้นักเล่นเร่งระบายหุ้นออกมาเรื่อย ๆ จนหุ้นไหลลงมายืนที่ 5.85 บาท ก่อนจะดันกลับขึ้นมาปิดที่ 6 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 804 ล้านบาท เดี๊ยนบอกได้ทันทีว่า วันนี้มีลุ้นเด้งขึ้นยาว ๆ หลังหุ้นทรุดตัวรับข่าวร้ายแล้วนะซี

*เหมือนกับในรายของ DDD วิ่งขึ้นมาปิดที่ 31 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 9.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 123 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ซึมซับรับข่าวร้ายอย่างเต็มที่ หุ้นถึงพยายามผงกหัวขึ้นรอบใหม่สองสามครั้งด้วยกัน เพียงแต่เที่ยวนี้ดูมีภาษีมากกว่ารอบก่อน ๆ จึงเป็นช็อตที่น่าตามไปดูอย่างใกล้ชิด หลังแมงลือเม้าท์กันสนุกสนานว่า ยอดขายไตรมาส 4 ดีขึ้นไงละค่ะ

*ส่วนรายที่ทำผลงานดีทุกไตรมาสอย่าง EA ยังคงเป็นช็อตที่ “โมนิก้า” ชอบพูดถึงบ่อยเมื่อมีโอกาสตั้งวงเสวนา เพราะของมันเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า สตอรี่ของหุ้นเพียบพร้อมไปหมดทุกด้าน และตอนนี้กำลังรอจิ๊กซอว์บางอย่างเพื่อทำให้กลายเป็นหุ้นโตแบบยั่งยืน จึงอย่าแปลกใจที่วานนี้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 50.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.29 พันล้านบาทนะจ๊ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นที่มีสตอรี่เด่น ๆ “โมนิก้า” คงต้องหันไปมอง DOD เพื่อทำให้ทุกคนรู้ถึงแวลูของหุ้นควรอยู่สูงกว่านี้ อีกทั้งแผนขยายตลาดเพื่อปั๊มรายได้ก็ชัดเจนขึ้นทุกสเต็ป เดี๊ยนถึงรู้สึกเฉย ๆ เมื่อหุ้นขึ้นมาปิดที่ 14.40 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 108 ล้านบาท มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็ยังต่ำกว่าราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ไว้เยอะนะคะ