ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 พ.ย.61 ปิดที่ 1,630.77 จุด บวก 8.67 จุดมีมูลค่าการซื้อขายที่ 33,744.44 ล้านบาท

นักลงทุนทุกกลุ่มขายสุทธิ ยกเว้นกองทุนสถาบันในประเทศที่คาดว่าจะเป็นแรงซื้อจากกองทุน LTF/RMF

หุ้นมูลค่าการซื้อขายสูงสุด SCC ปิด 448 บาท บวก 4 บาท, KBANK ปิด 193.50 บาท บวก 1 บาท, PTTEP ปิด 129 บาท ลบ 2 บาท, PTT ปิด 48.50 บาท ลบ 0.25 บาท, PTTGC ปิด 76.50 บาท ลบ 1.50 บาท

ตลาดปรับตัวขึ้น แม้จะถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลง แต่มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มอื่นช่วยหนุนตลาดปรับตัวขึ้น

ปีนี้เป็นปีที่ตลาดเกิดใหม่อ่วมที่สุด โดยเฉพาะตั้งแต่กลางปีมา โดนปัจจัยกดดันจากทุกทิศทางแทบไม่เห็นอนาคต ขนาดหุ้นไทยขึ้นทำนิวไฮได้ช่วงต้นปี ยังต้องร่วงมาติดลบไปแล้วกว่า 10%

มาดูมุมมองทิศทางตลาดเกิดใหม่จากการรายงานล่าสุดของสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่รายงานว่า มอร์แกนสแตนเลย์คาดว่า ภาวะการลงทุนของตลาดหุ้นตลาดเกิดใหม่จะฟื้นตัวดีขึ้นปีหน้า เนื่องจากคาดว่า แรงกดดันภายนอกประเทศจะบรรเทาลง ซึ่งรวมถึงแรงกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด

โดยในรายงานแนวโน้มการลงทุนของมอร์แกนสแตนเลย์ระบุว่า การสิ้นสุดของวงจรการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟด การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และการลดลงของราคาน้ำมันจะทำให้แรงกดดันที่ตลาดเกิดใหม่เผชิญลดลง

“โดยความเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายนอกประเทศจะกลับมาเป็นผลดีต่อตลาดเกิดใหม่อีกครั้งในปีหน้า และจะทำให้กลายเป็นผู้นำในการขยายตัวของเศรษฐกิจอีกครั้ง”

ขณะเดียวกันมอร์แกนสแตนเลย์คาดว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวลง เนื่องจากผ่านจุดสูงสุดของวงจรการขยายตัวแล้ว และจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมากขึ้น

ขณะที่ผลดีจากนโยบายการคลัง ซึ่งรวมถึงการลดภาษี มีแรงส่งด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจลดลง!!

อินเด็กซ์ 51