ก่อนที่จะลุ้นตลาดหุ้นสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนธันวาคม เดือนสุดท้ายของปีนี้ ปีที่ต่างชาติขายหุ้นไทยหนักสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 2 แสนล้านบาท นักวิเคราะห์ประเมินว่าหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับฐาน ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสในการซื้อกองทุน LTF และ RMF ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี

ขณะที่หากราคาหุ้นปรับตัวลงแรง ก็เป็นโอกาสในการเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีรายตัวที่ราคาปรับลงไปมาก เพื่อลุ้นตลาดปีหน้าที่หลายสำนักวิเคราะห์ประเมินว่า น่าจะกลับขึ้นไปยืนที่ระดับ 1,800 จุดได้!!

ส่วนประกาศสำคัญของตลาดหลักทรัพย์ เมื่อปลายสัปดาห์ก่อนมาย้ำอีกครั้งกันลืม เรื่องที่ตลาดหลักทรัพย์และฟุตซี รัสเซล (FTSE Russell) ได้ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series มีผลวันที่ 24 ธ.ค.61 เป็นต้นไป

สรุปได้ดังนี้ หลักทรัพย์เข้าใหม่ในดัชนี FTSE SET Large Cap Index ได้แก่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF

ส่วนหลักทรัพย์เข้าใหม่ในดัชนี FTSE SET Mid Cap Index ได้แก่
บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS,
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP,
บริษัทราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI และ
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU

ขณะที่หลักทรัพย์เข้าใหม่ในดัชนี FTSE SET Shariah Index ได้แก่
บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR,
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง ออฟฟิศ หรือ B-WORK,
บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) หรือ EE, บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC,
บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART,
บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK
รวมทั้งบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA,
บริษัท เนาวรัตน์ พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR,
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP,
บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9,
บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB,
บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH,
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI และ
บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER!!

อินเด็กซ์ 51