**สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด วันที่ 18-19 ธ.ค.นี้ คาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% แต่ที่ต้องเฝ้าติดตามคงเป็นแผนการปรับขึ้นในปีหน้า หลังจากมีสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจทำให้เฟดชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ย อย่างที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการ รวมทั้งรอลุ้นการประชุมคณะกรรมนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยด้วย อาจมีเซอร์ไพรส์ เนื่องจากเสียงของกรรมการครั้งก่อนเริ่มเสียงแตกมากขึ้น ส่วนปัจจัยภายนอกสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โอกาสที่หุ้นไทยจะรีบาวด์มีสูง

**PTTEP ของพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.สผ. ราคายังไม่สะเด็ดน้ำแม้จะมีข่าวดีชนะประมูล แต่ล่าสุดเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ทำหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ยกเลิกการประมูลสัมปทานปิโตรเลียมแหล่งบงกช และเอราวัณเข้ามาอีก งานนี้แม้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชียร์ให้ซื้อ โดยประเมินเบื้องต้นคาดว่าผลจากการชนะประมูลจะช่วยเพิ่มมูลค่า 17 บาทต่อหุ้นให้กับ ปตท.สผ. แต่ถ้าจะซื้อคงต้องเป็นพวกใจถึงพึ่งได้ที่กล้าเข้าไปเก็บสะสม ระยะยาวถือว่าดีสำหรับหุ้นตัวนี้ ราคาเป้าหมาย 150-160 บาท

**หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หวาดเสียว กนง.อาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 19 ธันวาคมนี้ ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ปรับตัวลดลงเป็นลำดับ ทั้ง LPN SIRI ของเฮียเศรษฐา ทวีสิน และ LH ของตระกูลอัศวโภคิน นักวิเคราะห์ก็มองว่าแนวโน้มยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากยอดจองที่ชะลอตัวลง อัตรากำไรอ่อนแอจากการแข่งขันที่รุนแรง และหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้ ยิ่งกดดันต่อกลุ่มนี้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ LH จะได้รับผลกระทบจากมาตรการวางเงินดาวน์ใหม่น้อยกว่ารายอื่น เพราะมีนโยบายเงินดาวน์ที่สูงถึง 15-20% อยู่แล้ว และพอร์ตธุรกิจมีการกระจายความเสี่ยงได้ดี ดังนั้นราคาหุ้นที่ย่อลงมาจึงเป็นโอกาสที่จะเข้าซื้อสะสม เป้าหมาย 11.50 บาท

**กลุ่มแบงก์ใหญ่ ทั้ง BBL ของเสี่ยโทนี่ KBANK ของเสี่ยปั้น และ SCB ของเสี่ยอาทิตย์ รอส้มหล่น ดอกเบี้ยขาขึ้น ที่กำลังจะมาต้อนรับปีใหม่ กลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่น่าจะได้รับอานิสงส์มากกว่าแบงก์เล็ก เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อเป็นแบบลอยตัวเป็นส่วนใหญ่ เมื่อมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยก็จะทำให้รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องรอครบดีลเหมือนดอกเบี้ยในกลุ่มเช่าซื้อ หรือดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคล ราคาขณะนี้ก็ถือว่าน่าลงทุนทุกตัว โดยเฉพาะแบงก์กรุงเทพ ที่ P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า เป้าหมาย 231 บาท

**หุ้น AOT น่าสนใจ ล่าสุดนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างท่าอากาศยาน ร่วมกับบริษัท Airports Company South Africa ผู้บริหารท่าอากาศยาน 9 แห่งในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ส่งเสริมเที่ยวบินตรงระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกับท่าอากาศยานในเมือง Johannesburg และเมือง Cape Town สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ หลังจากนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางจากสาธารณรัฐแอฟริกาใต้มายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าจะทดแทนนักท่องเที่ยวจีนไม่ได้ แต่ก็เป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดี ไม่ฝากความหวังไว้กับประเทศใดประเทศหนึ่ง ราคาเป้าหมาย 75 บาท อัพไซด์เหลืออีกมาก

**MBKET ของเฮียมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ต้องยอมรับปีนี้เหนื่อย หลังจากหุ้นไอพีโอต่ำจอง ลูกค้าที่อยู่ในมือชะลอแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไว้ก่อน กำไรก็ลดลงด้วย แต่ปีหน้าขอสู้ใหม่ ตั้งเป้ากวาดมาร์เก็ตแชร์ลูกค้ารายย่อยเพิ่ม และขยายฐานลูกค้ารายใหม่ งานนี้เมื่อเจ้าใหญ่ขยับ โบรกฯ รายอื่นคงอยู่เฉยไม่ได้แล้วสินะ

**กลุ่มสื่อสารยังอ่วม ทั้ง ADVANC, DTAC ของบุญชัย เบญจรงคกุล TRUE ของเฮียศุภชัย เจียรวนนท์ หลังจากแบกต้นทุนจากการประมูลคลื่นสัญญาณโทรคมนาคมไปครบทุกค่าย กว่าจะคืนทุนก็คงอีกหลายปี มิหนำซ้ำ กสทช.ยังจะเปิดประมูลคลื่น 5 จีอีก ไม่รอให้ตั้งตัวกันเลย ดังนั้นจึงเห็นราคาหุ้นอยู่ในลักษณะไซด์เวย์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าปีนี้ TRUE จะมีกำไร หมื่นกว่าล้านบาท โตกว่า 343% ให้ราคาเป้าหมาย 8.10 บาท

**เมธ์วดี ประเสริฐสินธนา เอ็มดี บลจ.บีแคป ฝากแจ้งช่วงโค้งสุดท้ายของปีสำหรับคนที่กำลังมองหากองทุน LTF ไว้ลดหย่อนภาษี ขอแนะนำ กองทุนเปิดน้องใหม่ “BCAP–MSCITH LTF” โดยกองทุนนี้เน้นลงทุนในหุ้นใหญ่ มีสภาพคล่องตามมาตรฐานสากลของ MSCI

**หุ้นร้อนประจำวัน 14 ธ.ค. 2561 ที่มีราคาและมูลค่าซื้อขายปรับขึ้นแรงและอยู่ระหว่าง (Trading Alert List) และขยายช่วงดำเนินการ คือ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ UREKA ทำให้เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ต้องใช้เกณฑ์ Cash Balance (ซื้อขายด้วยเงินสดทั้งจำนวน) มีผลตั้งแต่ 17 ธ.ค. 2561-4 ม.ค. 2562