ทันทีที่บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ประกาศว่า จะมีการเพิ่มทุน 1,100 ล้านบาท และเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น “บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)” ใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ FPT ถูกตั้งคำถามตามมาทันทีว่า เอ๊ะ!! มีนัยอะไรแอบแฝงหรือไม่…อย่างไร ???

ถ้าไปดูโครงสร้างผู้ถือหุ้น TICON พบว่า มีบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทของ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 40.95% ตามมาด้วย บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA สัดส่วน 26.10% และอันดับสาม DBS BANK LTD สัดส่วน 2.70%

แต่ดูเหมือนว่าสัดส่วน 40.95% ไม่น่าเพียงพอสำหรับชายที่ชื่อ “เจริญ สิริวัฒนภักดี”..!?

จึงเป็นที่มาของการเพิ่มทุนและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ ที่ระบุว่าจะมีทั้งเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป และเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด

นั่นเท่ากับว่าการใส่เงินเพิ่มเข้าไปจะทำให้เจ้าสัวเจริญถือหุ้น TICON ได้มากกว่า 50% มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการบริหารจัดการ TICON ทันที

เพราะโดยคาแรกเตอร์เจ้าสัวเจริญ ไม่ว่าจะไปชื้อกิจการไหน ต้องถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% เพื่อกินรวบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ !!!

การเพิ่มทุน TICON ครั้งนี้ จึงมองได้ว่าเป็นการเดินหมากตัวหนึ่งของเจ้าสัวเจริญ เพื่อให้มีอำนาจเบ็ดเสร็จใน TICON เท่านั้น..!?

แน่นอนว่าเมื่อได้เงินมาแล้วสเต็ปต่อไปที่ TICON จะเดินหน้าต่อ คือนำเงินไปต่อยอดพัฒนาที่ดิน 4,300 ไร่ ที่บริษัท ทีอาร์เอ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ (เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง TICON ถือหุ้น 50% ROJNA 25% และนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย ถือหุ้น 25%) เพิ่งประมูลได้มาจากบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ ราคา 8,900 ล้านบาท (ว่ากันว่าเป็นราคาที่ถูกแสนถูก)

ที่ดินดังกล่าวถือว่าทำเลดีเยี่ยม อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ด้านหนึ่งติดถนนบางนา-ตราด อีกด้านหนึ่งติดถนนมอเตอร์เวย์ ซึ่ง TICON มีแผนจะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสด้านอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรม โรงงาน คลังสินค้า และโลจิสติกส์ในอนาคต

ขึ้นชื่อว่าเจ้าสัวเจริญ สะกดคำว่าเล็กไม่เป็นจริง ๆ..!?

ส่วนแนวคิดของการเปลี่ยนชื่อบริษัทนั้น หากยังจำกันได้ เมื่อ 6 ปีที่แล้วเจ้าสัวเจริญ (ที่หลายคนยกให้เป็นเจ้าพ่อเทกโอเวอร์) ทุ่มเงินกว่า 300,000 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการบริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ จำกัด (มหาชน) หรือ F&N ซึ่งนอกจากเป็นกลุ่มธุรกิจอาหารเครื่องดื่ม และอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของสิงคโปร์แล้ว ยังเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์รายใหญ่ในเอเชียอีกด้วย

สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ TICON ที่จะนำที่ดิน AQ มาพัฒนาเป็นคลังสินค้า โลจิสติกส์ เช่นกัน

ดังนั้นแม้ไม่ฟันธง…คงพอเดากันได้ว่า การเปลี่ยนชื่อใหม่ของ TICON เพื่อเป็นจิ๊กซอว์การต่อยอดธุรกิจ ภายใต้ชื่อ F&N ที่เจ้าสัวเจริญ ไปเทกฯ กิจการมานั่นเอง..

เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งฝูง !!!

แหม๊มม!!! วิธีคิดของคนเป็นเจ้าสัวนี่มันช่างแหลมคมจริง ๆ..!?

…อิ อิ อิ…