หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 46.75 บาท ลบ 0.25 บาท, PTTEP ปิด 116.50 บาท ลบ 1.50 บาท, KBANK ปิด 188 บาท ลบ 0.50 บาท, TQM ปิด 22.80 บาท ลบ 0.20 บาท และ PTTGC ปิด 72 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

ตลาดปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ กังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดคาดการณ์จีดีพีสหรัฐฯปีนี้และปีหน้าลง

มีมุมมองกูรูนักวิเคราะห์ในงาน สัมมนา “โค้งสุดท้ายหุ้นไทยฟุบ หรือไปต่อ” น่าสนใจ โดย “วิจิตร อารยะพิศิษฐ” ผอ.ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มองปี 62 กำไรรวมของบริษัทจดทะเบียน จะโต 7% หรืออยู่ที่ 116 บาทต่อหุ้น บนพื้นฐาน P/E 15 เท่า คาดว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 1,743 จุด หุ้นน่าลงทุน คือ AOT ที่จะเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ดีขึ้น รวมถึงการประมูลสัมปทานพื้นที่เชิงพาณิชย์ครั้งใหม่ให้ราคาเป้าหมาย 72 บาท

หุ้น CPALL ให้ราคาเป้าหมาย 81 บาท ได้ผลดีจากนโยบายรัฐ,EGGO ให้ราคาเป้าหมาย 259 บาท, VGI ให้เป้าหมาย 10.20 บาท มีแนวโน้มเติบโตดีปีหน้า จากการจับจ่ายใช้สอย และ JMT ราคาเป้าหมายที่ 15.30บาท

ด้าน “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” กรรมการผู้จัดการ บล. ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) คาดดัชนีปีหน้าไปได้ที่ 1,850 จุด หุ้นน่าลงทุน เช่น PTTEP ให้ราคาเป้าหมายที่ 167 บาท, WHA เป้าหมาย 5.5 บาท, BEC เป้าหมาย 7-8 บาท

ขณะที่ “กัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา” กรรมการบริหาร บล.ฟินันเซีย ไซรัส ชี้หุ้นน่าลงทุนปีหน้า เช่น SISB ให้ราคาพื้นฐานที่ 8.84 บาท, AOT ราคาพื้นฐาน 73 บาท, ADVANC ให้ราคาพื้นฐาน 210 บาท, CK ให้พื้นฐาน 33 บาท และ BCH ให้ราคาพื้นฐาน 21 บาท

ส่วน “เผดิมภพ สงเคราะห์” กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บล.กสิกรไทย มองดัชนีหุ้นไทยปีหน้าไปได้ที่ 1,760 จุด โดยมีหุ้นที่น่าสนใจ คือ กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มโรงพยาบาล หุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน แนะนำ JAS ให้ราคาเป้าหมายที่ 11.45 บาท, PTG ที่ราคา 10.25 บาท, AAV ให้ราคาเป้าหมาย 5.10 บาท และ BBL ที่ 240บาท!!

อินเด็กซ์ 51