ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 ธ.ค.61 ปิดที่ 1,595.33 จุด ลดลง 0.77 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 46,997.44 ล้านบาท

ช่วงโค้งสุดท้ายของปี มาฟังความเห็นผู้จัดการกองทุนใหญ่อย่าง บลจ.ไทยพาณิชย์ ถึงกลยุทธ์และการแนะนำกองทุน LTF-RMF โดย “ณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ไทยพาณิชย์ มองหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,650 จุดแนะนำให้ลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ต่อเนื่อง โดยเฉพาะกองทุน LTF ที่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายเพราะมีความน่าจะเป็นสูงที่รัฐจะให้สิทธิประโยชน์ภาษีถึงปี 62

และมองว่าช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับผู้ที่ยังไม่มีกองทุน LTF อยู่ในพอร์ต เพราะราคาหุ้นเมื่อเทียบต้นปีปรับตัวลงมา 8% ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าสนใจ แม้ปัจจุบันสภาพตลาดยังผันผวน

โดย บลจ.ไทยพาณิชย์ มีกองทุน LTF ที่แนะนำ คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว ซีเล็คท์ (SCBLTSE) มีนโยบายบริหารกองทุนเชิงรุก ภายใต้การควบคุมความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตลาดในแต่ละช่วงเวลา เพื่อสร้างผลตอบแทนเหนือตลาดที่สม่ำเสมอ โดยเลือกลงทุนหุ้นใหญ่-กลางและเล็กราว 30-50 ตัว เน้นหุ้น Growth เป็นหลัก

และ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต (SCBLTT) มีนโยบายบริหารกองทุนแบบเชิงรุกเน้นโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวอย่างมีเสถียรภาพ โดยเลือกลงทุนแบบผสมผสาน ระหว่างหุ้นที่มีอัตราการจ่ายปันผลสูงกับหุ้นที่ผู้จัดการกองทุนมีความเชื่อมั่นสูง 60-80 ตัว เน้นหุ้น Value เป็นหลัก

ส่วนกองทุนรวม RMF แนะ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM4) มีนโยบายลงทุนเชิงรุก โดยใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณผ่าน Machine Learning เพื่อคัดหุ้น 60-80 ตัว และสามารถปรับเปลี่ยนสไตล์การลงทุน และเลือกพิจารณาหุ้นที่มีผลต่อการสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาดตามภาวะตลาด

ส่วน กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Population Trend เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMPOP) มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Fidelity Global Demographics Funds ที่ลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร การขยายตัวของชนชั้นกลางและสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเทรนด์ระยะยาว เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาว ขณะที่มีความผันผวนต่ำกว่ามาตรฐานการลงทุนในหุ้นโดยทั่วไป!!

อินเด็กซ์ 51