April 16, 2024   3:42:04 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ประสานเสียง เลื่อนเลือกตั้งไม่สะเทือนหุ้นไทย-ฝรั่งเทขายเกือบ 4 พันลบ.
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 04/01/2019 @ 08:41:17
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นไทยสะดุด หลัง "วิษณุ" แจงอาจเลื่อนเลือกตั้ง เหตุกิจกรรมการเมืองทับซ้อนพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมรอ กกต.เคาะวันใหม่ แต่ยันอยู่ในกรอบ 150 วัน หรือไม่เกิน 9 พ.ค. 62 ตามโรดแมพ ฟากนักวิเคราะห์ เชื่อหากเลื่อนไม่เกิน 1-3 เดือน ยังเป็นบวกต่อหุ้น แต่อาจมีแพนิกช่วงสั้น ยันแนวรับ 1,550 จุดยังไหว ด้านนักลงทุนต่างชาติเทขายเกือบ 4 พันล้านบาท

*** "วิษณุ" แย้มขยับวันเลือกตั้ง เหตุทับซ้อนพิธีบรมราชาภิเษก
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยในการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงเรื่องการกำหนดวันเลือกตั้งและวันหาเสียง ว่าไม่ได้กระทบต่อพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแต่อย่างใด แต่ยังมีกิจกรรมหลังการเลือกตั้งที่ต้องดำเนินการภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญหลายขั้นตอน ซึ่งต้องไปดูว่ากิจกรรมเหล่านั้น จะทับซ้อนกับห้วงเวลาที่มีพระราชพิธีฯ หรือไม่ ซึ่งต้องคำนวณกิจกรรมหลังเลือกตั้งให้เหมาะสมและไม่ให้ทับซ้อนกันและต้องเป็นวันที่เร็วที่สุด

"ต้องดูว่ากิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ไปตรงกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกหรือไม่ เราเลื่อนพระราชพิธีไม่ได้ เช่นเดียวกับวันเวลากิจกรรมการเมือง เพราะเดินหน้าไปแล้ว ดังนั้นอาจจะต้องยกวันเลือกตั้งออกไปจากเดิม เพื่อคำนวณกิจกรรมหลังจากนั้น ไม่ให้ไปทับซ้อนพระราชพิธี เพราะกิจกรรมหลังการเลือกตั้งไม่ใช่กิจกรรมกำหนดเองส่งเดช แต่เป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ซึ่งตอนนั้นกำหนดแบบไม่มีพระราชพิธีฯ แต่วันนี้ต้องเอาปฏิทินพระราชพิธีฯลงไปเพิ่ม จึงมีความทับซ้อนเกิดขึ้น เลยต้องมาดูปฏิทินใหม่ว่าวันใดเป็นวันที่เหมาะสมที่สุด " นายวิษณุ กล่าว

โดยนายวิษณุ เปิดเผยว่า การกำหนดวันเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของกกต. ซึ่งตนเองได้ชี้แจงปฏิทินพระราชพิธีฯ ไปแล้ว แต่ยืนยันว่าวันเลือกตั้งจะต้องอยู่ในกรอบ 150 วันตามกฎหมาย หรือไม่เกินวันที่ 9 พ.ค.62

ทั้งนี้หลังจากทราบข่าวเรื่องเลื่อนการเลือกตั้งตลาดหุ้นไทย (3 ม.ค.62) ปิดในแดนลบ 5.91 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1,560.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,800 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,962.17 ล้านบาท นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 3,186.45 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 608.02 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 1,383.74 ล้านบาท

*** IAA ชี้หากอยู่ในโรดแมพ ไม่กระทบตลาดหุ้น
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการและกรรมการผู้อำนวยการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) เปิดเผยว่า การเลือกตั้งหากเลื่อนออกไปประมาณ 1-3 เดือน หรือไม่เกิน 9 พฤษภาคม 2562 มองว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทย เนื่องจากเป็นช่วงระยะเวลาเพียงเล็กน้อย แต่หากว่าเลื่อนหลายเดือนหรือเกินเดือนพฤษภาคม จะส่งผลให้นักวิเคราะห์ต้องปรับมุมมองประมาณการณ์ใหม่ทั้งหมดจากผลกระทบที่เกิดขึ้น

ผลสำรวจชี้ว่านักลงทุนไทยทั้งสถาบันและรายย่อย ยังมองประเด็นการเลือกตั้งเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนหุ้นไทย ซึ่งคาดการณ์เรื่องการเลือกตั้งเกิดส่งผลให้เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงหาเสียงทุกพรรคการเมืองทั้งพรรคเดิมและพรรคใหม่จะมีแนวคิดเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคตหลายโครงการที่น่าสนใจขึ้นมา ซึ่งแนวคิดของพรคคต่างๆที่ออกมาจะมีความหวังในทางบวก

*** มอง SET ปีนี้ อยู่ในกรอบ 1,529-1,834 จุด
ด้านกรอบการเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยปี 2562 ผลสำรวจ IAA Survey ชี้ว่า จะอยู่ในกรอบดัชนีเฉลี่ยไว้ที่ 1,529-1,834 จุด และคาดว่าสิ้นปีดัชนีเฉลี่ยอยู่ที่ 1,782 จุด โดยมองกำไรสุทธิต่อหุ้น(EPS) ของตลาดเฉลี่ยที่ 115.12 บาท ซึ่งสิ้นปีคาดอัตราการเติบโตของEPS เฉลี่ยอยู่ที่ 7.35% ในช่วงสิ้น Q1/62 คาดดัชนีเฉลี่ยอยู่ที่ 1,682 จุด โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบยังมาจากการเลือกตั้งไทย,สงครามการค้า และทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ

ปัจจัยบวกที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยทั้งปีจากการสำรวจพบว่าการเลือกตั้งในประเทศหนุนจิตวิทยาการลงทุนมากสุด รองลงมาคือภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่วนปัจจัยอื่นๆ มาจากFund Flow ,ผลประกอบการรวมของบริษัทจดทะเบียน ส่วน ปัจจัยลบที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมาจากเศรษฐกิจต่างประเทศทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย รองลงมาคือการเมืองในต่างประเทศ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ตามลำดับ ขณะที่ผลสำรวจส่วนใหญ่คาดคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน(กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีนี้ 0.25%

แนะ 5 หุ้นเด่นรับอานิสงส์การเลือกตั้ง ,ธุรกิจอ้างอิงการบริโภคในประเทศน่าสนใจมากกว่าภาคส่งออก และรับการลงทุนภาครัฐและเอกชน ได้แก่ 1 .ธนาคารกรุงเทพ(BBL) , บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือ BEM ,บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เนื่องจากรายได้เติบโตตามจำนวนสาขาและผลิตภณฑ์ All Cafe ที่มีมาร์จิ้นสูง 4. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC เพราะแนวโน้มรายได้และกำไรสูงจากงานในมือ 1.2 แสนล้านบาท เพียงพอรับรู้รายได้อย่างน้อย 3 ปีข้างหน้า และยังมีโอกาสได้งานใหม่เพิ่ม และ5. บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA จากการเดินหน้าเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้มูลค่าที่ดินมีกว่า 1 หมื่นไร่ปรับสูงขึ้นในอนาคต

*** ยันนลท.รับได้ - SET ไม่หลุด 1,550 จุด
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง กระแสข่าวเรื่องการเลื่อนเลือกตั้ง ว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยมากนัก เนื่องจากคาดว่ากรอบระยะเวลาการเลื่อนเลือกตั้งยังเป็นไปตามโรดแมพในครั้งนี้จะออกไปเพียง 2-3 สัปดาห์หรือประเมินว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นปลายมีนาคม 2562 และประกาศผลการเลือกตั้งในปลายพฤษภาคม เพื่อไม่ให้กิจกรรมต่างๆไปทับซ้อนกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยยังถือว่าอยู่ในกรอบระยะเวลา 150 วัน ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นกรอบระยะเวลาที่นักลงทุนและตลาดคาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ตามแรงขายที่เกิดขึ้นหลังจากทราบข่าวเป็นแค่ความกังวลในระยะสั้น เนื่องจากกรอบระยะเวลาการเลือกตั้งที่ยังไม่ชัดเจน จะมีผลต่อความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน แต่หากมีประกาศกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนและเลื่อนออกไปตามกรอบระยะเวลา 150 วัน ก็เชื่อว่าจะนักลงทุนและตลาดยังคงมีความเชื่อมั่น ซึ่งอาจจะมีผลแก่ดัชนีตลาดหุ้นมีการปรับลดลงเล็กน้อยหรืออาจมีทิศทางที่ทรงตัว โดยประเมินว่าดัชนีจะไม่หลุด 1,550 จุด

*** "นายแบงก์" มั่นใจไม่กระทบแผนธุรกิจ
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ กรรมการจัดการใหญ่ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ TISCO เปิดเผยกับ “สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” ระบุ การเลื่อนเลือกตั้งออกไปไม่กระทบต่อแผนธุรกิจของธนาคารในปีนี้แต่อย่างใด โดยมองเป็นมุมบวกมากกว่าที่มีการกระจายกิจกรรมทางเศรษฐกิจออกไปเพื่อไม่ให้เกิดการกระจุกตัว ซึ่งการเลือกตั้งยังถือว่าอยู่กรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้

"ผมมองว่าการเลื่อนออกไปเป็นเรื่องที่ดี ยังไงก็ยังอยู่ในกรอบ และ ไม่กระทบต่อแผนธุรกิจของเรา ซึ่งการทำธุรกิจต้องมองบวก" นายศักดิ์ชัย กล่าว

ด้านนายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ CIMBT เปิดเผยกับ “สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” ระบุการเลื่อนเลือกตั้งออกไปไม่น่าจะกระทบต่อแผนธุรกิจของธนาคารในปีนี้

*** คาดเงินนอกไหลเข้าช่วงเลือกตั้ง 8.29 พันลบ.
บล.เอเซียพลัส เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นไทยในปี 2562 มีโอกาสฟื้นตัว หลังจากปี 2561 ได้ลดลงไปถึง 10.8% ซึ่งถือว่าลดลงมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหลักๆ น่าจะ เกิด Fund Flow ไหลออกจากภูมิภาค โดยตลาดหุ้นไทยในปีที่ผ่านมา มียอดขายสุทธิรวมกว่า 2.87 แสนล้านบาท จากนี้เชื่อว่าตลาดหุ้นโลกน่าจะสะท้อนปัจจัยกดดันหลักๆ ทั้งสงครามการค้าที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ส่วนต่างดอกเบี้ย ไทย - สหรัฐ เริ่มแคบเข้ามา เมื่อสหรัฐชะลอการขึ้นดอกเบี้ย และไทยเริ่มเข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้มีโอกาส Fund Flow ไหลกลับทั้งภูมิภาค

ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ปีนี้ไทยจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง จะเป็นอีกแรงดึงดูดเม็ดเงินไหลกลับเข้ามา ดังสถิติในอดีตของการเลือกตั้ง 4 ครั้งหลังสุด พบว่า กระแส Fund Flow มักจะไหลเข้ามาทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง 1 สัปดาห์ เฉลี่ยรวมกว่า 8.29 พันล้านบาท

ตลาดหุ้นไทยมี P/E เพียง 13.96 เท่า ซึ่งไม่สูงมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกลุ่ม TIP คือ ฟิลิปปินส์ 15.68 เท่า และอินโดนีเซีย 14.51 เท่า แม้ EPS Growth ตลาดหุ้นไทยปีนี้จะไม่ได้เติบโตโดดเด่นมากนัก แต่หากพิจารณาความแข็งแกร่งเงินทุนระหว่างประเทศ ที่มีระดับสูง มีความปลอดภัยในการชำระหนี้สินต่างประเทศ ดังนั้น ในภาวะที่ตลาดหุ้นไทยปรับฐานลงแรง จึงถือเป็นจังหวะเหมาะสมในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน ทั้ง BBL, KBANK,BJC, CPALL,DTAC, ADVANC, PTTEP

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com