*หากมองสูตรการลงทุนแบบเจาะลึกถึงแก่นแท้ของการเล่นรอบ “โมนิก้า” พูดได้ในทันทีว่า เหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่างน้ำ ซึ่งไม่มีอะไรดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และไม่มีอะไรเลวร้ายกว่าที่เห็นในทุกวันนี้ เดี๊ยนถึงไม่มีความจำเป็นต้องขวนขวายหาข่าวดีเข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นในการลงทุน เพราะตัวแปรหลักที่ทำให้นักเล่นทุกกลุ่มยังแทงกั๊กกันตลอดเวลา มันมาจากอิทธิพลของดัชนีดาวโจนส์นะคะ

*เมื่อตลาดหุ้นไทยเดินมาในทรงนี้ “โมนิก้า” ถึงเชื่อเหลือเกินว่า กรอบการเล่นก็คงเหมือนเดิมไปเรื่อย ๆ รวมทั้งการอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่ 1,582.57 จุด ลบไป 14.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.15 หมื่นล้านบาท มันไม่ได้ทำให้อะไรแย่ลงกว่าเดิมอย่างมีนัยสำคัญ ยกเว้นแนวโน้มกำไรในปี 2562 ไม่ได้เป็นเหมือนกับที่คาดการณ์ไว้ ย่อมเป็นแรงกดดันที่ทำให้จุดเด้งกลับแรกบริเวณ 1,580 จุดมีปัญหานะจะบอกให้

*ตรงนี้เป็นเรื่องที่นักเล่นต้องจิตนาการภาพขั้นต่อไปให้ออก เพื่อกระชับการเล่นให้ยืดหยุ่นมากกว่าเดิมจากที่เป็นอยู่ รวมทั้งต้องนึกถึงข้อเท็จจริงเรื่องมูลค่าการซื้อขายต้องหนาแน่นถึง 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน เพื่อทำให้ฐานแนวรับมั่นคงแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ยังทำไม่สำเร็จเหมือนที่อยากให้เป็น สุดท้ายเลยต้องมานั่งชีช้ำกะหล่ำแฉะอย่างนี้ไงล่ะคะ

*เหมือนกับเหตุการณ์ของหุ้น IVL โดนมือดีถล่มยับตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนราคาหุ้นรูดลงมาปิดที่ 48 บาท ลบไป 5.50 บาท หรือลงไป 10.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.85 พันล้านบาท หลังมีข่าวเม้าท์ถึงยอดขายตกฮวบฮาบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขณะเดียวกันยังได้รับแรงกดดันจากมาร์จิ้นลดลงด้วยเช่นกัน หุ้นถึงไหลรูดหลุดกรอบเดิมที่เคยเล่นลงมาอย่างง่ายดาย จึงกลายเป็นประเด็นที่ทำให้กูรูต้องมานั่งประเมินแวลูหุ้นใหม่อีกครั้งนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ KTC ถูกเทขายอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง จนหุ้นหลุดกรอบแนวรับสุดท้าย 30 บาทเป็นครั้งที่ 2 กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองราคาปิดที่ 28.75 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 582 ล้านบาท ยังมีโอกาสเด้งกลับขึ้นไปเหมือนเที่ยวก่อนหรือเปล่า ? แถมเมื่อมองดูจากปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวข้องในเที่ยวนี้ มันทำให้เดี๊ยนต้องเอ่ยคำว่า ยากจริง ๆ นะจะบอกให้

*คล้ายกับกรณีของ PTTGC อยู่ในทิศทางโค้งตัวลงอย่างช้า ๆ เป็นเวลาหลายเดือน บวกกับแต่ละครั้งที่เด้งกลับขึ้นมาก็มีจุดต่ำกว่าครั้งก่อนเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงเกิดอาการลังเลใจที่จะเม้าท์ถึงราคาปิดที่ 67.50 บาท ลบไป 3.25 บาท หรือลงไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.94 พันล้านบาท น่าจะเป็นจุดทยอยสะสมหุ้นไว้ในพอร์ต เพราะมองจากมุมต่าง ๆ หุ้นมีโอกาสลงต่อค่อนข้างสูงนะซี

*แพตเทิร์นดังกล่าวคล้ายคลึงกับในรายของ TRUE มีแรงเทขายออกมาไม่ขาดสาย จนมองไม่เห็นหนทางที่จะทำให้หุ้นกลับทิศเป็นขาขึ้นอย่างบูรณาการ “โมนิก้า” ถึงมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 4.80 บาท ลบไป 0.04 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 807 ล้านบาท น่าจะเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องกลับไปคิดทบทวนดูก่อนเข้าตะลุย เพราะช่วงนี้หุ้นสื่อสารอาการไม่ค่อยดีสักตัวเจ้าค่ะ

*ส่วนที่ดูดีขึ้นมานิดหนึ่ง “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้นปันผลสวยอย่าง QH เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่ชอบ “ราคาถูก รีเทิร์นแจ่ม” บวกกับช่วงนี้มีเรื่องเม้าท์ไม่เว้นแต่ละวัน มันเป็นจังหวะที่ต้องกระโจนใส่แบบสุดติ่งกระดิ่งแมว แถมวานนี้หุ้นพุ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 2.84 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 130 ล้านบาท มันทำให้หุ้นน่าสนใจขึ้นเป็นกอง อีกทั้งบุ๊กแวลูของหุ้นก็อยู่แถว 2.39 บาท มันงามหยดย้อยจริง ๆ นะตัวเอง

*อีกหนึ่งรายที่เริ่มเด้งขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน “โมนิก้า” ขอเทใจให้กับช่องน้อยสี BEC แบบออกนอกหน้า เพราะการเด้งขึ้นเที่ยวนี้มีอะไรที่น่าสนใจมากมาย จึงเป็นช็อตที่พวกขาลุยน่าตามไปดูทุกไม้ ยิ่งวานนี้หุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 5.10 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 ล้านบาท ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ต้องคิดอะไรมากมายอีกต่อไป เพราะเห็นชัด ๆ ว่า ไม่ได้อิงกับภาวะตลาดหุ้นนะซี

*เม้าท์ถึงเรื่องหุ้นที่น่าตามไปดูขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้นป้ายโฆษณา PLANB ไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากเลือกตั้ง เพราะตอนนี้เริ่มมีการหาเสียงกันโจ่งครึ่มทั่วถนนทุกสาย และดูเหมือนเจ้านี้จะชิงพื้นที่โฆษณาได้มากกว่าใครเพื่อน บรรดาแมงเม้าท์เลยส่งภาพป้ายหาเสียงของพรรคต่าง ๆ กันสนุกสนาน จึงอยากให้แฟนคลับพิจารณาราคาปิดที่ 5.85 บาทน่าสนใจไหมจ๊ะ