*…ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาด 1,582.57 จุด ลดลง 14.47 จุด มูลค่าซื้อขาย 41,570 ล้านบาท ปรับตัวลงจากความกังวลเศรษฐกิจจีน จับตาความคืบหน้าการชัตดาวน์สหรัฐฯ ยืดเยื้อ ปัจจัยในประเทศต้องติดตามงบการเงินกลุ่มธนาคาร แนวโน้มวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลง ประเมินแนวรับ 1,575 จุด แนวต้าน 1,590-1,595 จุด…

*…BDMS เริ่มตั้งตัวได้มีข่าวดีเข้ามาเสริมทันที จากการขายหุ้น RAM ทำให้งบไตรมาส 1/61 กำไรพิเศษกว่า 5,000 ล้านบาท ส่วนเรื่องมติกกร.อาจเป็นเพียงเซ็นติเมนต์เชิงลบระยะสั้นเท่านั้น..เชื่อว่ากว่าจะได้ข้อสรุปรออีกยาว...

*…TRUE เจอแรงกดดันว่า TRUE จะใช้โมเดลเดียวกับ DTAC เพื่อยุติข้อพิพาทกับ กสท จนราคารูดจนเสียทรง..ล่าสุดมีเสียงวงในมาจาก TRUE ว่ามีการเจรจาระงับข้อพิพาทกับ กสท ไปเรียบร้อยแล้วก่อน DTAC ซะอีก..ใครที่บอกลอกการบ้าน DTAC ไม่จริ๊งไม่จริง ไม่จริงนะ..เสียชื่อ “เจ้าสัวน้อย” หมด..แหม๊..ถ้าเป็นอย่างที่ว่าน่าจะออกมาชี้แจงแถลงไขกันซะตั้งแต่สัปดาห์ก่อน จะได้ไม่ต้องแพนิกกัน..แต่เอ๊ะ..หรือว่ามัวแต่ไล่ซื้อของถูกเลยลืมบอกไป…

*…PTTEP คว้าบงกช-เอราวัณ มันยังไม่จบ ล่าสุดชนะประมูลอีก 2 แหล่งในยูเออี..น่าสนใจการการลงทุนใน UAE ครั้งนี้จะประสบความเสร็จมากน้อยแค่ไหน หลายคนแอบเป็นห่วงเล็ก ๆ ว่า “จะเป็นเหมือนออยล์แซนด์และมอนทารา” ไหมหนอ.!? คงต้องวัดฝีมือ ENI พันธมิตรเจ้าถิ่นซะแล้วล่ะ…

*…TISCO มาตามนัดปี 2561 กำไรใกล้เคียงกับที่หลายโบรกเกอร์ประมาณการไว้ แต่ดูไส้ในงบการเงินอดคิดไม่ได้ว่าเป็นเรื่องอัตราการเติบโตไม่น้อย จากสินเชื่อรวมถดถอยลงเฉลี่ย 4.3% สินเชื่อธุรกิจลดลง 11% สินเชื่อเอสเอ็มอีลดลง 1.6% สินเชื่อรายย่อยลดลง 2.8% ส่วนตัวเลข NPL ขยับเพิ่มเป็น 2.86% เอาเป็นว่าปีก่อนดี แล้วปีนี้ล่ะจะเป็นไง..!?…

*…IVL ดูเกมจะพลิกซะแล้ว..ว่ากันว่าไตรมาส 4/61 กำไรจะออกมาไม่สวยหรู เหมือนที่เคยถูกชูเป็นจุดขายมาช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้หุ้นเจ้าพ่อเทกโอเวอร์ เจอแรงขายหนักทันที อย่างว่าละหุ้น IVL ซื้อมา 12 กิจการเมื่อปีก่อน..ไม่มีการบอกมูลค่าว่าซื้อเท่าไร..กิจการที่ว่ามีกำไรหรือไม่ (มีแต่กำลังการผลิต) จึงชวนให้คิดต่อว่าซื้อแล้วดีกับ IVL จริงหรือไม่..ทำให้ไม่รู้ว่าอัพไซด์ที่เกิดจาก M&A มีมากน้อยเพียงใด…

*… DIGI พบบิ๊กล็อต 4 รายการ มูลค่าซื้อขาย 71.10 ล้านบาท ราคาหุ้นละ 0.21 บาท และ DIGI-W2 มูลค่า 2.40 ล้านบาท ราคา 0.01 บาท ปัญหาอยู่ที่ว่า “ใครเป็นผู้ขายและใครเป็นผู้ซื้อ” ผู้ต้องสงสัยหนีไม่พ้น “ปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์” ที่ถือหุ้นใหญ่ 54.23% ตัดขายออกมาหรือไม่..! แต่พูดตรง ๆ ดูจากปัจจัยพื้นฐานไม่ว่าใครซื้อหรือขายดูไว้ห่าง ๆ ดีกว่า..ถ้าไม่อยากเจ็บตัว (อีก)…