April 19, 2024   4:37:01 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > SET มองไปถึงบริเวณ 1700 จุดได้ก่อนเลือกตั้ง
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 01/02/2019 @ 08:38:35
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ช่วงนี้หลายท่านน่าจะสบายใจขึ้นมากันแล้วนะครับ สำหรับภาวะตลาดที่ปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดเริ่มเห็นประเด็นบวกมากกว่าลบ ซึ่งเรียกว่าเป็นหนังคนละม้วนกันเลย เมื่อเทียบจากปีก่อนซึ่งมีแต่ข่าวร้ายหรือปัจจัยกดดันตลาดทำให้ดัชนี SET ปรับตัวลงต่อเนื่อง นักลงทุนหลายๆ ท่านต่างหวาดกลัวถึงภาวะตลาดที่จะปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม มาถึง ณ ตอนนี้ ผมคิดว่าความรู้สึกได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยความกลัวค่อยๆ จางหายไป ในขณะที่ความมั่นใจเริ่มเข้ามาแทนที่ ทั้งนี้ ในบทความประจำสัปดาห์นี้ผมจะมาวิเคราะห์ถึงปัจจัยต่างๆ ที่จะทำให้ตลาดหุ้นบ้านเราสามารถปรับตัวขึ้นไปหาระดับ 1700 จุดได้ก่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มี.ค. ตามหัวข้อที่ระบุไว้ข้างต้นซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนมุมมองของผมดังต่อไปนี้

1) การเกิด Election Rally (ก่อนการเลือกตั้ง ตลาดหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นได้จากนโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง สร้างความคาดหวังต่อการเติบโตของเศรษฐกิจรวมถึงกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในด้านต่างๆ จากเม็ดเงินที่สะพัดเข้ามาในระบบมากขึ้น) ซึ่งจากนี้คาดว่าจะเกิดความชัดเจนขึ้น หลังกกต.มีการกำหนดวันเลือกตั้งออกมาแล้ว คือ วันที่ 24 มี.ค. ซึ่งในอดีต SET จะปรับตัวขึ้นได้ในช่วงประมาณ 1 เดือนก่อนวันเลือกตั้ง และค่าเฉลี่ยจะปรับตัวขึ้นได้ประมาณ 6% ดังนั้น ก่อนที่กกต.จะประกาศวันเลือกตั้งดัชนีในช่วงนั้นเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 1600 จุด และถ้าหากขึ้นได้ตามค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 6% จะทำให้ดัชนีขึ้นมาที่บริเวณ 1700 จุดได้ นอกจากนี้ อีกปัจจัยหนุนโดยตรงต่อตลาดหุ้นนั่นคือ นโยบายของทุกพรรคต่อตลาดทุน มีความเห็นตรงกันว่าควรต่ออายุมาตรการ LTF (มาตรการจะหมดอายุสิ้นปีนี้) เพื่อส่งเสริมการออมต่อไป

2) ธนาคารกลางสำคัญของโลก ดูเหมือนจะพร้อมใจกันใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน โดยเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ หลังปีก่อนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 4 ครั้ง และล่าสุดมีการส่งสัญญาณจะยุติโครงการลดขนาดงบดุลเร็วกว่ากำหนด (แต่เดิมมีเป้าหมายลดงบดุลเหลือ 1.5-3.0 ล้านล้านเหรียญ ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า จากระดับปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4.0 ล้านล้านเหรียญ) เป็นอีกปัจจัยหนุนด้านสภาพคล่องในตลาดการเงินโลก ขณะที่ ECB ส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้จนกว่าจะถึงฤดูร้อนปีนี้ หรือช่วงประมาณ Q3 นอกจากนี้ ด้านจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ท่าทีของธนาคารกลางสำคัญของโลกออกมาในลักษณะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากเศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวอันเนื่องมาจากผลกระทบของสงครามทางการค้า

3) ทิศทาง fund flow มีโอกาสไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นที่เป็นตลาดเกิดใหม่หลังดอลลาร์สหรัฐซึ่งผมมองว่ามีโอกาสอ่อนค่าลงได้ต่อ (จากเฟดส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย) เป็นปัจจัยกระตุ้น fund flow ไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ เป็นปัจจัยหนุนต่อ SET

4) ดอลลาร์ที่คาดว่าจะอ่อนค่าลงได้ต่อ นอกจากจะเป็นปัจจัยหนุนด้าน fund flow แล้ว คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นได้ (ส่วนใหญ่ความสัมพันธ์ระหว่างดอลลาร์สหรัฐ และราคาน้ำมัน จะเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม) รวมถึงความคืบหน้าที่ดีด้านการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน อันนำไปสู่การยุติสงครามการค้าจะเป็นอีกปัจจัยหนุนราคาน้ำมันให้ปรับตัวขึ้นได้ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุน SET ผ่านกลุ่มพลังงานซึ่งได้รับประโยชน์

คราวนี้เรามาดูทางด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคผ่านกราฟระดับสัปดาห์ (ตามรูปที่แสดงไว้) ซึ่งจะเห็นว่ามีการสร้างสัญญาณฟื้นตัว โดยสัญญาณ Stochastic ตัด Signal line ขึ้นมาจากบริเวณพื้นที่ Oversold ด้านสัญญาณ MACD ฟื้นตัว เช่นเดียวกันเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ดัชนีจะปรับตัวขึ้นได้ โดยมีแนวต้านตามสัดส่วน Fibonacci เมื่อเทียบกับรอบการปรับตัวลงในช่วงปีก่อน จะได้แนวต้านที่ระดับ 1665 1700 และ 1735 จุด ตามลำดับ ขณะที่หากใช้การนับวงจรเวลามองว่ารอบการปรับขึ้นในชุดนี้จะอยู่ในช่วงการปรับตัวขึ้นได้ไปจนถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมี.ค. ถึงจะเจอแนวต้านทางเวลาเพื่อเกิดจุดเปลี่ยนแนวโน้มอีกครั้ง ดังนั้น แนวโน้ม SET ผมสรุปได้ว่าจะปรับขึ้นมาได้ที่บริเวณแนวต้าน 1665 1700 และ 1735 จุด ตามลำดับ ไปจนถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมี.ค. ซึ่งพอดีกับในช่วงเลือกตั้งที่กำหนดในวันที่ 24 มี.ค. เป็นคำตอบที่ผมคาดว่า SET จะสามารถปรับตัวขึ้นได้ไปที่บริเวณ 1700 จุด ก่อนการเลือกตั้งนั่นเอง และพบกันใหม่ในฉบับหน้าครับ..ด้วยรักและหวังดี

ที่มา https://www.thunhoon.com/192339/30/52/

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com