กุมภาพันธ์ 1, 2019THIDARAT HENPROMคิดเป็นเห็นก่อนSET

ตลาดหุ้นไทยยังดูดี ดูใช้ได้และน่าจะไปได้ต่อ หลังธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.25-2.50% ตามคาด พร้อมกับระบุว่า จะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป และอาจจะพิจารณาปรับลดขนาดงบดุลตามพัฒนาการด้านเศรษฐกิจและการเงิน เพียงเท่านี้ก็ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกบวกเขียว ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าทันทีเป็นบวกต่อสกุลเงินในเอเชียและเงินบาท ส่งผลต่อกระแสเงินทุนต่างชาติที่มองมูลค่าของตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น นอกจากเรื่องการเลือกตั้งที่ชัดเจนแล้ว เห็นได้จากการเข้าเก็บหุ้นของต่างชาติอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีความผันผวนเกิดขึ้นได้ จากเรื่อง ผลการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ว่าจะออกมาเป็นบวกหรือลบ

ตลาดหุ้นบ้านเรา และตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น หุ้นพื้นฐานดี ที่มี Market Cap ใหญ่มีส่วนสำคัญในการผลักดันขับเคลื่อนตลาดหุ้นให้เดินหน้าขึ้นต่อไปได้ ซึ่งภาพการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนโดยเฉพาะมือใหม่ได้เรียนรู้ถึงความเป็นไปของตลาดทุน ที่ไม่มีอะไรที่บ่งชี้ถึงราคาของหุ้นในตลาดได้อย่างแน่ชัด การลงทุนจึงต้องมีความหนักแน่น มีเหตุผลและความเป็นได้มากที่สุด ต้องเรียนรู้ที่จะแยกแยะให้ออกว่าอะไรของจริงอะไรของปลอมตลอดจนสามารถคาดการณ์ทิศทางแนวโน้มของตลาดได้ทั้งระยะสั้น กลางและยาวได้ เพื่อกำหนดกลยุทธ์การลงทุนได้ถูกต้องตามสถานการณ์นั่นเอง

ในการขับเคลื่อนของราคาหุ้นนั้นจะมีตัวแปรอยู่หลากหลายประเด็น ซึ่งจะส่งผลต่อการขึ้นลงของราคาหุ้น ดังนั้นการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงให้ทันต่อเหตุการณ์ย่อมเป็นสิ่งที่นักลงทุนที่ดีควรปฏิบัติให้ได้ ทั้งนี้นักลงทุนต้องรู้จักประเมินเบื้องต้นได้ว่าทิศทางของตลาดจะเป็นเช่นใด หุ้นเป้าหมายของเรามีทิศทางสอดคล้องไปกับตลาดหรือไม่อย่างไร มีพื้นฐานรองรับที่เป็นตัวชี้นำว่าราคาหุ้นในอนาคตจะเป็นอย่างไร โดยที่เราสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เรื่องราวต่างๆที่เป็นความจริง ก็จะสามารถประเมินมูลค่าของหุ้นที่แท้จริงในอนาคตได้ และตัดสินใจเข้าลงทุนในหุ้นเป้าหมายได้ถูกตัวและสามารถสร้างผลตอบแทนคืนกลับที่งดงามครับ

ดังนั้นการลงทุนในหุ้นช่วงนี้จึงยังไม่มีอะไรที่น่าหวั่นวิตกหรือน่ากลัวแต่อย่างใด ถึงระหว่างการขับเคลื่อนที่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้าจะมีแรงกระตุกให้แกว่งอยู่บ้างก็เป็นเพียงการปรับฐานเพื่อจะเดินต่อไปอย่างมั่นคงก็เท่านั้นครับ สุดท้ายแล้วหลังการปรับเปลี่ยนพัฒนาในด้านต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจการเมือง เริ่มเกิดผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น ชัดเจนขึ้น ก็ยิ่งตอกย้ำให้ภาพรวมของตลาดหุ้นบ้านเรายิ่งน่าสนใจเพิ่มขึ้น ในช่วงนี้จึงเหมาะที่จะเลือกเฟ้นหาหุ้นดี พื้นฐานแกร่ง มีอนาคตเติบโตดี ทั้งในเรื่องของผลการดำเนินงาน รายได้โตและกำไรที่งดงาม บนความคาดหวังที่มีเหตุผลรองรับได้ แล้วเข้าเก็บสะสมซื้อเข้าพอร์ตเพื่อลงทุนแล้วก็ถือรอคอย น่าจะทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จได้ด้วยดีครับ

สรุปแนวโน้มทิศทางของตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้มีการขยับปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังปัจจัยเชิงลบทั้งในและต่างประเทศคลี่คลายลง มีสัญญาณในเชิงบวกเข้ามาหนุนนำเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงไปก่อนหน้าจนราคาหุ้นนั้นต่ำกว่าพื้นฐานที่แท้จริง ในทางเทคนิคที่นักวิเคราะห์มองกันโอกาสที่ดัชนีจะเดินหน้าทะลุทะลวงผ่าน 1700 จุดได้ในอีกไม่นานนัก ส่วนจะไปได้ไกลแค่ไหนนั้นคงต้องหันมามองในตัวของผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในช่วงไตรมาสแรกปีนี้นั้นจะฟื้นตัวดีขึ้น และทิศทางภาวะเศรษฐกิจของบ้านเราจะดีกว่าปีที่ผ่านมาได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามตลาดทุนไทยยังคงเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญเป็นกลไกหลักประการหนึ่งต่อการพัฒนาประเทศให้เติบโตก้าวหน้า ดังนั้นนักลงทุนในตลาดทุนจึงมีโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยกันได้ เพียงแต่ว่าใครจะสามารถทำได้อย่างที่ตั้งเป้าหมายและคาดหวังนั้นได้มากน้อยเพียงใดครับ