*ความชัดเจนทางการเมืองที่เกิดขึ้นในคราวนี้ทำให้นักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ เริ่มมองเห็นทิศทางการลงทุนได้ง่ายขึ้น และคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามหลังได้เลา ๆ ย่อมเป็นประเด็นที่ทำให้ทุกคนรู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง และพร้อมจะกลับเข้ามาลงทุนแบบเต็มตัว ล้วนเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องติดตามดูกันต่อไปเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้ทุกคนมองเหตุการณ์ไปทีละสเต็ปเพื่อความชัวร์นะคะ

*เหมือนกับการแกว่งตัวไปมาของดัชนี ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,651.68 จุด ลบไป 1.43 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.68 หมื่นล้านบาท ล้วนเป็นผลมาจากดัชนีกำลังอยู่ในช่วงย่ำฐานเพื่อหาแนวรับที่มั่นคง ต่อจากนั้นถึงจะพุ่งกระฉูดขึ้นไปทดสอบแนวต้านใหม่ที่สูงกว่าเดิม “โมนิก้า” มองเป็นไทม์ไลน์ปกติที่นักเล่นสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และนำมาใช้ประกอบการลงทุนได้ตลอดเวลาเจ้าค่ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” ไม่ค่อยวอร์รีกับประเด็นต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้าใส่ตลาดหุ้นไทย เพราะท้ายสุดก็เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น ๆ หลังจากนั้นตลาดหุ้นไทยจะเด้งกลับขึ้นมาดีดังเดิม ผนวกกับช่วงนี้เป็นฤดูกาลของการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ย่อมเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้ามาไล่ซื้อหุ้นมากกว่าสาดหุ้นทิ้ง ภาพโดยรวมของตลาดหุ้นไทยถึงยังดูดีไงล่ะจ๊ะ

*ออร่าเปล่งปลั่งมากสุดในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้น INTUCH หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 57 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.35 พันล้านบาท และเมื่อคิดย้อนหลังกลับไปประมาณ 2 สัปดาห์ครึ่ง หุ้นยังยืนต๊อกต๋อยที่บริเวณ 47 บาท ย่อมเป็นช็อตที่นักเล่นต้องตามไปดูเรื่อย ๆ เพราะทีเด็ดยังไม่หมดแค่นี้แน่ ๆ จึงต้องเคาะขวาเบา ๆ เพื่อเกาะติดเหตุการณ์นะคะ

*คล้ายกับกรณีของ ADVANC มีแรงซื้อไหลเข้ามาไม่ขาดสาย จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 188 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือขึ้นไป 2.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.01 พันล้านบาท เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดให้นักลงทุนได้รู้ว่า หุ้นกำลังไต่เพดานขึ้นไปหาฐานเก่าบริเวณ 200 บาทอีกครั้ง แถมการขึ้นเที่ยวนี้มีนักวิเคราะห์จำนวนมากเชียร์ให้ซื้อหุ้นแบบสุดซอย จึงต้องไหลตามน้ำในทันทีเจ้าค่ะ

*ดาวเด่นอีกหนึ่งตัวที่ห้ามกะพริบตาเป็นอันขาด “โมนิก้า” ขอหันไปมองหุ้นดาวเทียม THCOM กระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.65 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 6.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 122 ล้านบาท ก็ยังมีสตอรี่การถูกเทกโอเวอร์ในราคาสูงเป็นตัวบิลต์อารมณ์ ผนวกกับเข้าสู่โหมดของการเล่นรอบใหม่ เดี๊ยนมองจากมุมไหน ด้านไหน ก็ต้องไล่ราคากันอีกยกอย่างแน่นอนพะยะค่ะ

*ส่วนในรายของปูนใหญ่ SCC ทะยานขึ้นมาปิดที่ 472 บาท บวกไป 6 บาท หรือขึ้นไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.92 พันล้านบาท น่าจะเป็นช็อตที่อนุมานได้ทันทีว่า พวกสถาบันเข้ามาเก็บหุ้นเพิ่มเติม ราคาหุ้นถึงพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมีความหวังจะได้เห็นหุ้นขึ้นไปยืนแถว 500 บาทในไม่ช้า เดี๊ยนคงมองแค่เรื่องผลงานในปี 2562 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเพียงเรื่องเดียว..เรื่องอื่นไม่กล้าคิดหรอกนะ..อิอิอิ

*เมื่ออารมณ์ของนักเล่นเริ่มฮึกเหิมขึ้นมาอีกรอบ ย่อมเป็นตัวจุดชนวนการไล่ราคาพ่อดอกมะลิ JAS แบบสุดติ่งกระดิ่งแมวด้วยเช่นกัน จึงไม่ต้องแปลกใจที่เห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 5.55 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 6.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 585 ล้านบาท เพราะเที่ยวนี้ต้องเอาใจช่วยให้หุ้นขึ้นไปสร้างฐานบริเวณ 6 บาทให้ได้เป็นลำดับแรก จึงน่าจะมีการเคาะขวารัว ๆ เกิดขึ้นทุกวัน หลังหุ้นผงกหัวขึ้นเต็มตัวแล้วนะซี

*คล้ายกับทิศทางการขยับตัวของ BEM อยู่ในโมเมนตัม side way up เป็นเวลานานหลายเดือน ซึ่งในบางจังหวะอาจแกว่งตัวย่ำฐานสักสามสี่วัน ต่อจากนั้นก็ขยับขึ้นไปสร้างฐานแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมได้เป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงมองการย่อตัวลงมาปิดที่ 10.50 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 490 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการเข้าไปเก็บหุ้นเพื่อทำกำไรสั้น ๆ นะตัวเอง

*ตบท้ายกันที่หุ้นโรงเรียนของหนู SISB มีแรงซื้อไหลเข้ามาไม่ขาดสาย จนราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.35 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 128 ล้านบาท พร้อมกับยืนเหนือ IPO ที่ราคา 5.20 บาทได้อีกครั้ง “โมนิก้า” ย่อมต้องมองเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำแบบไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เพราะการขึ้นเที่ยวนี้ของหุ้นไม่ได้มาเล่น ๆ เหมือนเที่ยวก่อนอย่างแน่นอนจ้า !