*เมื่อถึงวันศุกร์สุดหรรษาทีไร “โมนิก้า” มักได้ยินคำพูดกรอกหูเป็นประจำว่า วันนี้ต้องระวังแรงขายให้มาก ๆ เพราะไม่มีใครอยากนอนกอดหุ้นข้ามสัปดาห์ จึงมีสิทธิ์เห็นการ take profit เพื่อลดความเสี่ยงออกมาตลอดทั้งวันนั้น ! เดี๊ยนถือเป็นข้อมูลที่น่ารับฟังอย่างมาก แต่เมื่อมองถึงรายละเอียดของเรื่องราวที่เกิดขึ้นแบบเจาะลึกลงไปอีกขั้น กลับกลายเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เห็นแรงช้อนซื้อหุ้นเยอะเพียงใดนะจะบอกให้

*นั่นหมายความว่า การกวัดแกว่งไปมาของดัชนีจะไม่มีความหมายอะไร หากแรงช้อนซื้อมีไม่มากพอเหมือนก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” ถึงพยายามให้นักเล่นเข้าใจกรอบเล่นเที่ยวนี้ยังไปแบบเรื่อย ๆ ไม่มีการดันหุ้นแบบโฉ่งฉ่างให้เห็นอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้หุ้นแต่ละตัวกำลังสร้างสตอรี่ใหม่ ๆ เพื่อทำให้นักเล่นเกิดอาการอินกับแผนงานในอนาคต จึงกลายเป็นช็อตของการเคาะขวาไงล่ะจ๊ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” มองการยืนปิดที่ 1,652.64 จุด ลบไป 3.09 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.59 หมื่นล้านบาท มันเป็นจังหวะของการเล่นธรรมดา ๆ ไม่ได้มีอะไรต้องซีเรียส เพราะมองจากมุมไหน ด้านไหน ก็ยังลงทุนได้สบาย ๆ จึงเป็นช็อตที่เดี๊ยนอยากให้นักเล่นเข้าใจเกมเที่ยวนี้ให้แตกฉาน เพื่อกำหนดรูปแบบการเปลี่ยนตัวเล่นไปเรื่อย ๆ ได้คล่องตัวขึ้น..ทราบแล้วช่วยบอกต่อด้วยนะคะ

*เหมือนกับการทะยานขึ้นของหุ้น TRUE ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 5.45 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.81% ทั้งที่ยืนซึมกะทือเป็นเวลานาน “โมนิก้า” คงต้องชี้เป้าไปยังเรื่องตัวเลขกำไรเป็นลำดับแรก (ยืดเวลาจ่ายค่าคลื่น 900 MHz) เพราะเป็นประเด็นที่ทำให้หุ้นขึ้นอย่างแข็งขันอีกรอบ ผนวกกับเป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันชอบเข้ามาดันเป็นรอบ ๆ เดี๊ยนถึงมองการขึ้นเที่ยวนี้มีนัยสำคัญพอสมควรพะยะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ADVANC พอหุ้นกระชากขึ้นแรงทีไร ก็มีประเด็นให้พูดถึงทุกที และในช่วงที่ทิ้งตัวลงแรง ก็มีเรื่องให้สังคมต้องกลับไปครุ่นคิดเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นแยกประเด็นที่เข้ามากระทบให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ตัวเองหลงเข้าไปเล่นเกมคนอื่น เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 184.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 1.37% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.67 พันล้านบาท มันเป็นแวลูที่หุ้นควรจะได้ไม่ใช่เหรอคะ

*คล้ายกับกรณีของพ่อดอกมะลิ JAS ยังมีแรงซื้อไหลเข้ามาไม่ขาดสาย จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ 6.15 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 786.42 ล้านบาท มีประเด็นให้พูดถึงมากมายหลายเรื่องด้วยกัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจเรื่องกระแสกำลังมาก็เป็นแบบนี้แหละ ! งานนี้ถึงต้องเกาะติดแบบช็อตต่อช็อต เพราะการขึ้นรอบก่อนก็มาแค่ระยะสั้น ๆ นะจะบอกให้

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้น KCE เพื่อส่งสัญญาณเตือนให้นักเล่นระมัดระวังมากขึ้น เพราะมันเห็นเต็ม 2 ลูกตาว่า ผลงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาถดถอยลงอย่างชัดเจน แถมในปีนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของกำไรเหมือนกัน เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 29 บาท ลบไป 3.50 บาท หรือลงไป 10.77% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.51 พันล้านบาท ยังเป็นระดับที่ต้องเพิ่มความระวังเจ้าค่ะ

*ไหน ๆ เม้าท์ถึงเรื่องที่ต้องระวังขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องเม้าท์ถึงข่าวมั่วที่เกิดขึ้นกับ GBX จนทำให้เจ้าของต้องออกมาชี้แจงเรื่องดีลการควบรวมกับโบรกเกอร์หยวนต้า มันเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน เพราะทิศทางในการทำธุรกิจไม่เหมือนกัน ส่งผลให้การทะยานขึ้นมาปิดที่ 0.82 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 12.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 162.16 ล้านบาท น่าจะเป็นการลากออกของมากกว่า งานนี้ ก.ล.ต. ลุยสอบอีกตามเคยจ้า !

*ส่วนรายที่ทรงดีจริง ๆ “โมนิก้า” คงพุ่งเป้าไปยังหุ้น NER เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ กำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ แถมเมื่อมองดูจากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ในระดับ 5% ย่อมเป็นทางเลือกให้กับคนที่มีเงินเย็นไล่ซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ต เพราะมันเห็นกันอยู่แล้วว่า กำไรปีนี้มีแนวโน้มโตขึ้น 20% เลยทำให้ราคาปิดที่ 2.52 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 4.13% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 372.51 ล้านบาท เล่นต่อได้สบาย ๆ นะจ๊ะ

*สำหรับรายที่แอบขึ้นอย่างช้า ๆ “โมนิก้า” คงเทใจหันไปมองหุ้นโรงหมอ BCH หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 17.10 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.79% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 408.50 ล้านบาท ถือเป็นการเปลี่ยนโมเมนตัมที่น่าสนใจในแง่ของสายเทคนิค เพราะเที่ยวนี้หุ้นมีโอกาสฝ่าเส้นแนวต้าน 200 วัน บริเวณ 17.30 บาทขึ้นไปได้ค่อนข้างสูง และน่าจะวิ่งขึ้นไปยืนแถวบริเวณ 18 บาทอีกรอบไงล่ะจ๊ะ