thaihoon สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 14,583 | วันที่: 27/02/2019 @ 08:20:42 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ก.พ.62 ปิดที่ 1,663.56 จุด ลดลง 8.19 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 53,064.97 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 620.64 ล้านบาท
หุ้นไทยปรับลง หลังก่อนหน้านี้ขึ้นติดต่อกันแรงตอบรับข่าวเรื่องสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯที่มีความคืบหน้าในทางที่ดี ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง กดราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน
บล.เออีซี มองแนวโน้มภาพรวมตลาดหุ้นไทยมีทิศทางเชิงบวกมากขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐฯจีนเป็นหลัก เนื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้าออกไปจากวันที่ 1 มี.ค. เพื่อให้มีเวลาในการเจรจามากขึ้น
และอาจมีการเจรจาการค้ากันช่วงปลายเดือน มี.ค. ที่รัฐฟลอริดา โดยสหรัฐฯได้มีข้อตกลงเบื้องต้นกับจีนจะมีการซื้อสินค้าทั่วไปและสินค้าโภคภัณฑ์จากสหรัฐฯ 10 รายการมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์
แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินแห่งชาติโดย โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อให้มีงบในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมาอาจถูกยับยั้งโดยสภาคองเกรสหากมีมติมากกว่า 2 ใน 3 ในสภาฯ แต่ทรัมป์ยังมีอำนาจในการคัดค้านหรือวีโตได้
ขณะที่มีปัจจัยที่ต้องติดตามคือ ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่ GDP ไตรมาส 4, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ประจำเดือน ก.พ.ที่ตลาดคาดว่าจะออกมาชะลอตัว และจับตาท่าทีของสหรัฐฯและยุโรปในช่วง 90 วันที่อยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ โดยก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยขู่ที่จะใช้มาตรการ Safe Guard ในสินค้ากลุ่มดังกล่าวด้วยการเก็บภาษีสูงถึง 25%
ขณะที่ปัจจัยบวกอื่นๆ คือ เม็ดเงินลงทุนของต่างชาติที่พลิกกลับมาซื้อสุทธิใน MTD ทำให้มองว่า SET Index มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,667 จุด และแนวต้านระยะกลางรอทดสอบที่ระดับ 1,678 จุด
แนะกลยุทธ์การลงทุนซื้อ 3 กลุ่มหุ้นเด่น ดังนี้
1. กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น แนะนำ SYNEX, FTE และ AAV
2.กลุ่มโรงพยาบาล เป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง แนะนำ EKH, RJH, BCH และ BDMS
3.กลุ่มจำนำทะเบียนรถ รับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น แนะนำ SAWAD และ MTC!!
อินเด็กซ์ 51
|