**ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก สำหรับตลาดหุ้นทั่วโลก รวมของไทย หลังอินเดียและปากีสถานสู้รบกันบริเวณพรมแดนจนหวั่นกันว่า ปัญหาจะลุกลามบานปลาย นักลงทุนจึงต้องปรับพอร์ตลดความเสี่ยงกันไปก่อน โดยเฉพาะหุ้น global play ทั้งหลาย ทำให้นักวิเคราะห์หันมาแนะนำกลุ่มอิงปัจจัยภายในกันเป็นหลัก

**หุ้น TQM ทำธุรกิจนายหน้าประกันใหญ่สุดของไทยของกลุ่มตระกูล “พรรณนิภา” ราคาทะยานทำนิวไฮ นับจากเข้ามาซื้อขายเมื่อเดือนธันวาคม 2561 ด้วยราคาปิด 26.00 บาท หลังจากบริษัทแจ้งผลประกอบการมีกำไรสุทธิไตรมาส 4 กว่า 127 ล้านบาท เติบโต 137% มากกว่าที่คาดกันไว้เล็กน้อย ส่วนแนวโน้มไตรมาส 1/2562 คาดว่ากำไรยังเติบโตอีก 23% ตามธุรกิจประกันวินาศภัย และประกันชีวิตที่ขยายตัวต่อไป ราคาเป้าหมายอยู่ระหว่าง 30.00-32.50 บาท ต่อหุ้น

**ต่อไปต้องมาลุ้นกันว่า ดีลควบรวมกิจการระหว่าง ทีเอ็มบี กับ ธนชาต จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ แต่จากข่าวที่ได้รับ เห็นว่าเรื่องดีลดิลิเจนซ์นี่นะ จะเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ล่ะ และกระบวนการต่าง ๆ ก็อาจจะเสร็จเร็วกว่าที่กำหนดกันไว้ เพราะหารือ พูดคุย ศึกษากันมาพักใหญ่ ๆ แล้ว ส่วนข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับทั้ง 2 องค์กรในแง่ของพนักงานไม่ค่อยแตกต่างกันมาก เช่น ของ ทีเอ็มบี ซีอีโอ อายุยังไม่ถึง 50 ปีเลย ส่วนผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ อายุเฉลี่ย 30-40 ปี ส่วนคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ตอนนี้มีไม่ถึง 50% ขณะที่ของธนชาต ส่วนใหญ่ เป็นคนรุ่นใหม่ ๆ เช่นเดียวกัน

**เมืองไทย แคปปิตอล หรือ MTC ของ “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” ราคาหุ้นร่วงติดต่อมาแล้ว 3 วัน หรือกว่า 2.00 บาท ล่าสุดลงมาปิด 47.00 บาท หลังจากแจ้งงบไตรมาส 4 มีกำไรสุทธิ 1.04 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% ต่ำกว่าที่คาดกันไว้เล็กน้อย แต่ล่าสุดจากงานให้ข้อมูลนักลงทุน เตรียมรุกธุรกิจใหม่ ตั้งบริษัทลูกขึ้นมาเพื่อทำ “เช่าซื้อ” เริ่มจากรถจักรยานยนต์ก่อน ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 20 ล้านบาท ตอนนี้อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตการประกอบธุรกิจ เฮียชูชาติ มั่นใจว่า สู้ในตลาดนี้ได้แน่นอน เพราะมีกลุ่มลูกค้าอยู่แล้ว

**วันนี้ JASIF ขึ้น XD เพื่อจ่ายเงินปันผล 0.23 บาทต่อหน่วย ราคาปิดเมื่อวานนี้ 10.40 บาท และให้จับตาดูราคาหุ้นกันดี ๆ มีโอกาสร่วงหนัก หรือลงมาระหว่าง 10.20–10.30 บาท หรืออาจจะลงไปลึกถึง 10.10–10.20 บาท คนที่เข้าเก็บช่วง ราคาหุ้นอยู่แถว ๆ 10.30–10.40 บาท ขาดทุนกันหมดแน่นอน เว้นแต่ซื้อถือยาว ๆ กันไปนั่นแหละ แต่แนะนำว่า ใครที่อยากจะถือยาว ๆ จริง ๆ รอราคาลงไปแตะ 9.90–10.00 บาทแล้วค่อยเก็บ จะคุ้มกว่า เพราะราคาหุ้น JASIF เคลื่อนไหวแบบนี้มาหลายรอบ

**ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) ตั้งเป้ารายได้ปี 2562-6254 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี กำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดใหม่แน่นอน ฟันธง !!! หลังจากเพิ่มแจ้งผลประกอบการปี 2561 มีกำไรสุทธิ 150.7 ล้านบาท เติบโต 16.2% ส่วนราคาหุ้นเมื่อวันก่อนหน้านี้พุ่งขึ้นมาร้อนแรงตอบรับกับผลประกอบการ แต่พอบริษัทแจ้งออกมาเป็นทางการ ทำให้เกิดการเทขายทำกำไรออกมาบ้าง แต่ปิดตลาดราคายังเสมอตัวจากวันก่อน 6.20 บาท

**TRITN พร้อมลุยโครงการยักษ์ รับทรัพย์จากเงินเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ครบแล้ว โดยได้รับชำระจากนักลงทุน 2 ราย ได้แก่ 1.) Asia Alpha Equity Fund 3 จำนวน 15,357,000 ดอลลาร์สหรัฐ (จำนวน 1,400,000,000 หุ้น) และ 2.) บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จำนวน 70,000,000 บาท (จำนวน 200,000,000 หุ้น) ซึ่งทั้ง 2 ราย จะไม่จะขอเงินคืนและตกลงอยู่ในกำหนดระยะเวลาห้ามขายหุ้น (Silent Period) ยาว 1 ปี อันสะท้อนให้เห็นความพร้อมและเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทฯ งานนี้ TRITN แค่รอเวลากดปุ่มเริ่มลุยโปรเจกต์เท่านั้น เพราะทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ทั้งเงินสดในมือราวพันล้านบาท แผนงาน บุคลากร อีกทั้งยังไร้ภาระหนี้สะสม มอง ๆ แล้ว 2562 คงเป็นปีทองของ TRITN อย่างแน่นอน