**หลังเลือกตั้ง 24 มีนาคมที่ผ่านมา นักลงทุนก็ให้ความสนใจกับหุ้นที่อิงกลุ่มการเมือง แม้ฟากไหนจะได้ก็ดีทั้งนั้น จะเป็นพลังประชารัฐ หรือ เพื่อไทย ก็ได้ แต่ต้องเป็นเสียงข้างมาก แต่กลุ่มตาอยู่ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกลับน่าสนใจกว่า โดยเฉพาะภูมิใจไทย ของอนุทิน ชาญวีรกูล ที่เป็นตัวแปรสำคัญของการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ หุ้นที่อิงกลุ่มนี้อย่าง STEC, STPI ขึ้นนำตลาดอย่างเห็นได้ชัดเจน สวนทางกับตลาดวานนี้ ขณะที่ปัจจัยภายนอกประเทศที่กดดันตลาดหุ้นไทยก็เป็นเรื่องของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ดังนั้นจังหวะนี้จึงต้องเลือกเล่นหุ้นที่อิงกลุ่มการเมืองเป็นหลัก กลุ่มไหนมา หุ้นกลุ่มนั้นก็จะขึ้น แต่ที่ขึ้นรับทุกกลุ่มก็ต้องเป็นกลุ่มอิงการบริโภคในประเทศ เนื่องจากทุกพรรคมีนโยบายตรงนี้ที่เหมือนกัน วานนี้ดัชนีร่วงหนัก รอตั้งรัฐบาลชัดเจน แนวรับ 1,600 จุด แนวต้าน 1,645 จุด

**TMB ของเสี่ยปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแบงก์ทหารไทยอาจต้องกุมขมับ หลังจาก FWD ไปจับขั้วใหม่กับ SCB ของเสี่ยอาทิตย์ หลังมีแผนเข้าไปถือหุ้น SCB Life นักวิเคราะห์เลยมองว่าโอกาสที่ FWD จะทิ้งทหารไทยย่อมมีมาก รายได้ที่ประกันต่างชาติที่จ่ายให้ปีละ 1.2 พันล้านบาทก็จะพลอยหายวับไปอยู่กับไทยพาณิชย์แทน เป้าหมาย SCB ให้ไว้ 140 บาท

**KTC ของระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบัตรกรุงไทย แนวโน้มไปต่ออีกหลังตั้งรัฐบาลใหม่ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจก็จะทยอยออกมา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย หรือ พลังประชารัฐ ก็มีนโยบายที่คล้ายกัน เน้นเรื่องของประชานิยมให้รากหญ้าและมนุษย์เงินเดือน แถมดอกเบี้ยก็ยังทรงตัว ราคาเป้าหมาย 41 บาท

**หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มคำนวณ หาก MSCI เพิ่ม NVDR ในการคำนวณใหม่ งานนี้ยกให้ INTUCH, DTAC ของอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, RATCH ของกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่, CENTEL ของตระกูลจิราธิวัฒน์ วันศุกร์ที่ 29 มีนาคมนี้รู้ผล

**กลุ่มแบงก์เช่าซื้อ TCAP ของเฮียสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่, KKP ของอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ BAY เตรียมคึกคักรับงานมอเตอร์โชว์ระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-7 เม.ย.นี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดว่ายอดจองกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่มีหลายค่ายมาเปิดตัว สร้างความคึกคักให้กับตลาด รวมทั้งรถยนต์ไฮบริด, ปลั๊ก-อิน ไฮบริด กลุ่มเช่าซื้อรับเละงานนี้

**นักลงทุนคงกำลังมองหาหุ้นปลอดภัย สำหรับตอนนี้โดยหุ้นปลอดภัยที่จ่ายปันผลดี ADVANC, BPP ของสุธี สุขเรือน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, RJH สุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญ ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลราชธานี ยีลด์ดี 4-5% ต่อปี ไม่หวั่นแม้ความผันผวนจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ ถ้าเป็นกิจการของโรงพยาบาลและกิจการไฟฟ้า รายได้เข้าสม่ำเสมอ ส่วน ADVANC ก็เป็นเจ้าตลาดฯ มือถือ เงินเข้าตลอด หากน้องแมงเม่าไม่อยากปวดหัวกับใครพรรคไหนจะมานั่งนายกฯ

**AOT ที่เสี่ยนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ดูแลอยู่ เริ่มสงบหลังจากที่ผู้บริหารยอมรอไม่เร่งที่จะเปิดประมูลดิวตี้ฟรี แนวโน้มอาจต้องรอให้กฎหมายลูก พ.ร.บ.ร่วมทุน PPP ลงตัว งานนี้คงต้องรอยาวลากไปรัฐบาลใหม่ที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ยังไง AOT ก็รับทรัพย์อยู่ดี