*ตลาดหุ้นไทยมีการเคลื่อนไหวลักษณะของการ “Sideway” ถือว่าเป็นจังหวะการทำกำไรที่ยากที่สุดสำหรับกลุ่มนักเล่นที่เทรดหุ้นแบบ Trend Follow เพราะตลาดหุ้นไทยลงไปลึกสุดที่ 1,707.77 จุด ลบไป 8 จุด และมีแรงดีดกลับขึ้นมาจนมาปิดที่ระดับ 1,721.33 จุด บวกไป 5.33 จุด ด้วยมูลค่า 6.51 หมื่นล้านบาท ทำให้เห็นว่าถึงแม้ดัชนีจะขึ้นมาปิดบวกแต่ยังคงต้องเผชิญกับความผันผวนอยู่เจ้าค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ไม่ได้รู้สึกแฮปปี้สักเท่าไหร่นักถึงแม้ดัชนีจะยืนเหนือ 1,720 จุดขึ้นมาได้ และยังคงไม่สนับสนุนเหล่านักเล่นวิ่งเข้าใส่หุ้นอย่างเต็มที่เพราะผลประกอบการไตรมาส 2 หลาย ๆ กลุ่มยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ พ่วงกับมีประเด็นการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งจะเป็นตัวกดดันผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นอย่างแน่นอน หนำซ้ำหุ้นที่ถูกเทขายออกมายังเป็นหุ้นตัวหลักในกระดาน Most Active จึงยังไม่ใช่สัญญาณที่ดีเท่าไหร่นัก

*ดังนั้นการที่ตลาดปรับตัวขึ้นมาวานนี้ ยังไม่ใช่จุดที่ควรจะรีบยินดียินร้าย เพราะภาพรวมยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ขณะที่ Upside ในหุ้นหลาย ๆ ตัวเริ่มมีจำกัดถึงแม้จะมีแรงซื้อของฝรั่งตาน้ำข้าวหนุน แต่กองทุนยังเทขายออกมาต่อเนื่อง เดี๊ยนถึงมองว่าการถือหุ้นในภาวะดัชนีชักหน้าไม่ถึงหลังถือเป็นภาพที่ฟ้องด้วยตัวมันเอง ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมากมายอีกแล้วพะยะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวดูเหมือนจะสะท้อนให้เห็นภาพได้ดีกับในรายของ BANPU หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แค่วันเดียวก็โดนทิ้งออกมา ก่อนจะมาลงเอยที่ระดับ 14.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 384.48 ล้านบาท แถมยังมีผลประกอบการไตรมาส 1 ที่ต่ำกว่าคาดเป็นปัจจัยกดดัน จึงทำให้ราคาหุ้นยังไม่สามารถฝ่าด่านหินซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญที่ 15 บาทไปได้ยังไงล่ะเจ้าคะ

*ด้านหุ้น TPIPL หลังจากวิ่งแรลลี่ติดต่อกันมานานเริ่มเห็นการย่อตัวลงมาเล็กน้อย จนมาปิดที่ระดับ 1.97 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือ 1.01% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 72.30 ล้านบาท ”โมนิก้า” มองเป็นจังหวะทองสำหรับคนที่เล็งหุ้นตัวนี้เอาไว้อยู่ เพราะการลดลงมารอบนี้เป็นโอกาสทยอยสะสม เพราะราคาเป้าหมายที่โบรกฯ มือทองเขาให้ไว้อยู่แถว 3 บาท โน้นเลยเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่ยังอยู่รอดในภาวะตลาดขาลงเห็นทียังคงเป็น S ที่ยังบวกสวนขึ้นมาล่าสุดมาปิดที่ 3.64 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 3.41% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 371.23 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเทรนด์หุ้นเป็นขาขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมหลังจากเห็นสตอรี่ที่จะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป สิ่งที่ทำให้หุ้นฟื้นได้รวดเร็วเห็นทีจะเป็นผลงานต่อจากนี้ที่แย้มว่าได้เห็นพัฒนาการอย่างแน่นอน พ่วงด้วยแผนนำบริษัทลูกเข้าตลาดทำให้มองว่าหุ้นน่าจะวิ่งได้อีกยาวนะเจ้าคะ…อิอิ

*แวะมาที่หุ้นจิ๋วแต่แจ๋วรายนี้กันบ้าง AGE ของเสี่ย “พนม ควรสถาพร” โดยวานนี้ราคาทะยานแรงโดนใจเม่าอย่างจัง ! วิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.12 บาท บวก 0.07 บาท หรือ 6.67% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 24.93 ล้านบาท แถมทำนิวไฮในรอบ 7 เดือน จากผลงานไตรมาสแรกออกมามีกำไร 80 ล้านบาทโตกระฉูด 150% แถมปักธงปีนี้รายได้แตะระดับ 9 พันล้านบาท เห็นแบบนี้เดี๊ยนว่ากำไรปี 2562 น่าจะแจ่มกว่าปีก่อนแน่นอนหลังหันมารุกธุรกิจโลจิสติกส์มากขึ้น ฟากราคาหุ้นเทรดบน P/E เพียง 11 เท่าเป็นตัวการันตีว่าหุ้นยังแรงได้อีกจ้า

*ด้าน EVER เริ่มเห็นแสงสว่างหลังผลการดำเนินงานที่บอบช้ำมาหลายปี ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่า 630 ล้านบาท ในไตรมาส 2 แถมปีนี้มีประเด็นเข้าหูเดี๊ยนว่าจะเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยว ไล่เรียงมาจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการที่ลงทุนไว้ ส่งผลให้วานนี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมารับข่าวที่ระดับ 0.46 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 4.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.69 ล้านบาท งานนี้ “โมนิก้า” ก็ได้แต่หวังว่าจะเห็นการเทิร์นอะราวด์ได้เสียทีนะเจ้าคะ

*ส่วนในรายของ IVL วานนี้มีวอลุ่มเทรดเข้ามาหนาแน่นเป็นพิเศษหลังถูกกูรูยกให้เป็นหุ้นปลอดภัยของกลุ่มปิโตรเคมี เลยเป็นตัวช่วยหนุนนำให้ราคาหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ระดับ 48.75 บาท บวก 1 บาท หรือบวกไป 2.09% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.82 พันล้านบาท แถมยังให้ราคาเป้าหนักหน่วงที่ระดับ 74 บาท ดันอัพไซด์พุ่งกระฉูด 52% ด้วยความหวังเต็มเปี่ยมว่ากำไรไตรมาส 2/2562 จะโตเด่นรับไฮซีซั่นนะซี

*ปิดท้ายที่ SAPPE เป็นอีกรายที่ได้ยินเสียงกระซิบมาว่าผลงานไตรมาส 2 จะออกมาเริ่ดสะแม็นแต็น เพราะคาดคะเนแล้วว่ายอดขายจะพุ่งกระฉูดตามไฮซีซั่น แถมตุนรายได้จาก 2 แบรนด์ใหม่เข้ากระเป๋าแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ราคาหุ้นถึงได้กระชากขึ้นมาปิดที่ 22.10 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 6.76% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 102.10 ล้านบาท แถมเทรดบนค่า P/E แค่ 18 เท่านิด ๆ “โมนิก้า” บอกได้คำเดียวว่าของดีราคาถูกอย่างนี้แนวต้าน 23 บาทคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเจ้าค่ะ