ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 23 ก.ค.62 ปิดที่ 1,724.87 จุด ลบ 2.71 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,139.10 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,720.68 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าการซื้อขายสูงสุด JAS ปิด 6.30 บาท ลบ 1.30 บาท, TRUE ปิด 6.40 บาท ลบ 0.20 บาท, BBL ปิด 185.50 บาท ลบ 4.50 บาท, KBANK ปิด 177 บาท ลบ 2 บาท, และ PTG ปิด 22.80 บาท บวก 1.20 บาท

ตลาดเคลื่อนไหวในแดนลบ จากแรงขายหุ้นกลุ่ม ICT กดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามการแถลงนโยบายรัฐบาลใหม่วันที่ 25-26 ก.ค.นี้ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) วันที่ 30-31 ก.ค.

ราคาหุ้น JAS ร่วงหนักกว่า 16% มาที่ 6.30 บาท ลดลง 1.30 บาท ลงไปต่ำสุด 5.90 บาท โดย บล.กสิกรไทย ระบุว่าราคาปรับลงต่ำกว่าราคาพื้นฐานของ KS research ที่ 6.70 บาท บวกกับปันผลพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองอีก 1.744 บาท/หุ้น ดังนั้น การปรับตัวลงมาต่ำกว่าพื้นฐานมองเป็นโอกาสในการทยอยสะสม

ส่วนหุ้นน่าสนใจช่วงนี้ บล.เอเซียพลัส เปิดเผยในบทวิเคราะห์คาดว่าหุ้น PTTEP-HMPRO เป็นหุ้นงบ Q2/62 เติบโต

ทั้งนี้ คาดว่า PTTEP (FV@B 166) จะกำไรสุทธิ 2Q62 เท่ากับ 1.40 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.5%qoq และ 290.9%yoy รับผลบวกจากปริมาณและราคาขายน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นรวมถึงมีการบันทึกผลประโยชน์ทางภาษีเนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น

ส่วน HMPRO (FV@B 16.80) คาดกำไร 2Q62 ที่ 1.47 พันล้านบาท โต 11.8% yoy อานิสงส์จากภาวะอากาศร้อนจัด และการเปิดสาขาใหม่ หนุนยอดขายสาขาเดิม (SSSG) โต

ขณะที่กลยุทธ์ลงทุนที่น่าสนใจในยามตลาดผันผวน แนะนำ 2 ธีมลงทุน คือ หุ้นแข็งแกร่งพื้นฐานดี ที่คาดว่ากำไรจะเติบโตต่อเนื่อง และยังมีปัจจัยบวก เฉพาะตัว เลือก BJC, AMATA, FPT, MINT, TTCL, TU

และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการจ่ายปันผลระหว่างกาล จากสถิติพบว่า ราคาหุ้นปันผลสูงมักจะตอบรับเชิงบวกโดยปรับตัวขึ้น ก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ราว 1-2 เดือน (เดือน ส.ค.จะเป็นรอบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล) เลือก M, KKP และ BBL!!

อินเด็กซ์ 51