????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 20/10/2005 @ 20:20:21 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต วงการมองข้ามช็อต จับตาอนาคต ทรู-3ที จะเป็นผู้ถูกล่าหรือไม่ หลังกลุ่มเทเลนอร์ ทุ่มเงินกว่า 9 พันลบ.ซื้อหุ้นยูคอมจากเบญจรงคกุล ในราคาหุ้นละ 53 บาท ส่งผลให้เบญจรงคกุลกลายเป็นหุ้นส่วนน้อยทันที ภายใต้ร่มเงา บ.ไทย เทลโค โฮลดิ้งส์คาดตลาดมือถือเดือดพล่าน ภายใต้ยุทธศาสตร์สงครามราคา งานนี้กลุ่มชินเหนื่อยแน่ เพราะเทเลนอร์ ใช้ยูคอมเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันตลาดอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์-แทคเป็นหัวหอกในตลาดมือถือ-วันนี้ บอร์ดUCOM ประชุมตัดสินใจอนาคตหุ้นยูคอม-แทค อยู่หรือไปในตลาดไทย[/color:640572fb79">
ในที่สุดตระกูลเบญจรงคกุล ก็ได้ตัดสินใจถอยร่นออกจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือมือถือที่ยังมีความไม่เท่าเทียมในแง่การแข่งขันเกิดขึ้น แม้คณะกรรมการกำกับกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)เกิดขึ้นแล้วก็ตาม ซึ่งถือว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวดเร็วและสร้างความตกตะลึงให้กับแวดวงสื่อสาร
ทั้งนี้นายบุญชัย เบญจรงคกุล นายวิชัย เบญจรงคกุลและนางวรรณา จิรกิติว่าได้ทำการขายหุ้นสามัญในส่วนที่ถือ อยู่ในบริษัท ยูไนเต็ดคอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี จำกัด (มหาชน)ทั้งหมด จำนวน 173,331,750 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 39.88 ของทุนจดทะเบียนบริษัทแบ่งเป็น บุญชัย เบญจรงคกุล ขายหุ้นจำนวน 53,750,000 หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 12.37 ของทุนจดทะเบียน บริษัท) นายวิชัย เบญจรงคกุล ขายหุ้นจำนวน 64,541,167 หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 14.85 ของทุนจดทะเบียนบริษัท) และ นางวรรณา จิรกิติ ขายหุ้นจำนวน 55,040,583 หุ้น (คิด เป็นร้อยละ 12.66 ของทุนจดทะเบียนบริษัท)ให้กับบริษัท ไทย เทลโค โฮลดิ้งส์ จำกัดเรียบร้อยแล้วในราคาหุ้นละ 53 บาท
บริษัท ไทย เทลโค โฮลดิ้งส์ จำกัด มีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท มีผู้ถือหุ้นใหญ่ประกอบด้วย 1. บริษัท เทเลนอร์ เอเชีย พีทีอี แอลทีดี 19,600,000 หุ้น คิดเป็น 49% 2.บริษัท โบเลโร จำกัด 10,480,000 หุ้น 26.2%3.นายบุญชัย เบญจรงคกุล 3,960,000 หุ้น 9.9 % 4.บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน)3,959,993 หุ้น 9.87%5.บริษัท แซนดาลวูด โฮลดิ้งส์ จำกัด 800,000 หุ้น 2% 6. บริษัท เพทรูส จำกัด 600,000 หุ้น 1.5% 7. บริษัท อมาโรนี่ จำกัด 600,000 หุ้น 1.5%และ 8. อื่น ๆ 7 หุ้น
การถอยครั้งนี้ นายบุญชัยให้เหตุผลว่า เพื่ออำนวยประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายและเปิดโอกาสให้กับธุรกิจครอบครัวหันไปทุ่มเทกับธุรกิจสื่อสารสารสนเทศและเทคโนโลยีตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง นั่นคือ เส้นทางเดินของลูกผู้ชายชื่อ บุญชัย....
แม้ตระกูลเบญจรงคกุลถอย แต่กลุ่มทุนนอกอย่าง เทเลนอร์ ได้กระโดดลงสนามตลาดมือถืออย่างเต็มตัว ซึ่งคาดว่า คงทำให้วงการสื่อสารมีความตื่นตัวและเตรียมพร้อมรับมือการแข่งขันที่จะเดือดพล่านทุกเมื่อ เพราะเกมนี้ เทเลนอร์ ทุ่มเทพลังเงินและกาย ชนิดถวายหัว โดยงานนี้ ใช้ UCOMรุกธุรกิจสารสนเทศ เช่น การให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์ แทคหรือDTAC
เน้นธุรกิจให้บริการโทรศัพท์มือถือ
เชื่อว่า ยุทธศาสตร์ของเทเลนอร์ คงสร้างสีสันให้กับผู้บริโภคชาวไทยและเป็นแรงกดดันให้กับคู่แข่งขันหมายเลข1อย่างบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SHIN)บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) (ADVANC)หมายเลข3 บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE)
และหมายเลข4บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) (TT&T)
แน่นอนคู่แข่งหมายเลข1 คงรับมือแรงเสียดทานได้ พร้อมกับการทำงานหนักมากขึ้น แต่สำหรับหมายเลข3-4 คงอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง ทั้งในแง่ฐานะการเงินหนี้สินของกิจการนับหมื่นล้านบาทอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและมาร์จิ้นหรือกำไรที่นับยิ่งบางลง เพราะการแข่งขันได้ห้ำหั่นในด้านราคา
นับจากนี้ไป ทรู(TRUE)-ทีทีแอนด์ทีหรือ3ที(TT&T)จะเพลี่ยงพล้ำจนนำไปสู่การเป็นผู้ถูกล่าหรือไม่?ล้วนเป็นเรื่องที่น่าจับตามอง ท่ามกลางการเปิดเสรีโทรคมนาคมที่จะเกิดขึ้นในไม่กี่ปีข้างหน้า
มาวันนี้ (20ต.ค.)บอร์ดUCOM-TAC จะมีการตัดสินใจเรื่องใหญ่หลายเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นหุ้นUCOMจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไปหรือไม่และการนำหุ้นTACในตลาดสิงคโปร์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย หลังจากกลุ่มเทเลนอร์ได้ถือหุ้นใหญ่ในยูคอม ซึ่งนักลงทุนไทยและต่างประเทศต่างติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
หุ้นUCOM จะอยู่ในSETหรือไม่ วันนี้น่าจะมีคำตอบ... ภายใต้คอนเซ็ป
เวลาผู้ถือหุ้นใหญ่ชาวต่างชาติเข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบริษัทจดทะเบียน มักจะถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ โดยให้เหตุผลว่ามีเงินทุนเพียงพอและไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูล เพราะเป็นความลับทางธุรกิจ ขณะที่TAC ผู้ให้บริการธุรกิจมือถือ ที่ต้องการเม็ดเงินทุนจำนวนมากในการขยายธุรกิจสู่ 3Gระดมทุนในตลาดหุ้นไทยหรือไม่ เพื่อต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่างAIS
|
