*ประเด็นที่วันนี้ “โมนิก้า” อยากถกเถียงกับแฟนคลับมากสุดคือ หุ้นไทยถูกจริงไหม ? เพราะมีสูตรคำนวณออกมาหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งในส่วนที่มองย้อนกลับไปในอดีตเป็นข้อมูลเปรียบเทียบ รวมทั้งมองสถานการณ์ปัจจุบันเทียบกับตัวแปรที่เกิดขึ้นในเวลานี้ หรือแม้กระทั่งการมองไปในอนาคตเพื่อจำลองเหตุการณ์ต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน ? ล้วนเป็นข้อมูลที่ส่งสัญญาณให้รู้ว่าหุ้นไทยควรไปต่อไหม ? เจ้าค่ะ

*ประกอบกับช่วงนี้มีกระแสข่าวเกี่ยวกับเม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้ามารอบใหม่ “โมนิก้า” เลยรู้สึกตื่นเต้นกับปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นเป็นเวลานาน ผสานกับบรรดาคนรอบข้างมองสิ่งที่เกิดขึ้นมุมบวกเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งมองไปอีก 3 เดือนข้างหน้า ยิ่งรู้สึกมีความหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ และนำไปสู่เสียงเม้าท์มอยที่ว่าหุ้นไทยควรได้ไปต่อแบบไม่มีเงื่อนไข เพราะไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้วน่ะซี

*ฉะนั้นการที่ดัชนีแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนลบและแดนบวก ก่อนจะลงเอยด้วยการยืนปิดที่ระดับ 1,435.70 จุด บวกไป 24.69 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.2 แสนล้านบาท จึงเหมือนกับการทดสอบแรงขายไปในตัว และทำให้นักเล่นเริ่มมั่นใจกับฐานแนวรับบริเวณ 1,400 จุดมากขึ้น โดยกลุ่มผู้ซื้อหลักที่จะดันดัชนียังเป็นนักเล่นสถาบันที่มีหน้าตักเยอะ “โมนิก้า” ถึงมองเหตุการณ์เคาะหุ้นสัปดาห์นี้สนุกแน่นอนพะยะค่ะ

*เนื่องจากเม็ดเงินก้อนใหม่จะอัดเข้ามาอย่างเต็มสูบ ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับการขายทำกำไรในคราเดียวกัน “โมนิก้า” ถึงมองเป็นศึกใหญ่ที่นักเล่นต้องเตรียมตัวรับแรงกระแทก ผนวกกับตลาดหุ้นอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนกลุ่มเล่นกันไปเรื่อย ๆ เดี๊ยนเลยอยากให้แฟนคลับนึกถึงสูตรโบราณที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นที่ว่า แบงก์ ไฟแนนซ์ สื่อสาร พลังงาน และอสังหาฯ มักจะเวียนกันขึ้นทุกครั้งที่ตลาดหุ้นสดใสซาบซ่านะคะ

*เหมือนกับในรายของพ่อดอกมะลิ JAS ตกอยู่ในภาวะนอนสลบไสลเป็นเวลาแรมเดือน จู่ ๆ เมื่อวันศุกร์กลับกระชากขึ้นมาปิดที่ 3.98 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.63 พันล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องของการย้อนกลับมาเล่นหุ้นสื่อสารเป็นธงนำ ผนวกกับมีประเด็น “พิชญ์” ออกมายืนยันไม่แปลงวอร์แรนต์ 3 เพราะเงินสดของบริษัทมีเยอะแล้วแบบนี้..เท่ากับเป็นการปิดช่องไดลูทของหุ้นไปในตัวนะจ๊ะ

*ส่วนในรายของหุ้นคิดถูก TRUE ทะยานขึ้นพร้อมกับประเด็นกำไรเป็นตัวบิลต์อารมณ์ ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 3.98 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.78 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจุดที่สร้างโอกาสให้หุ้นวิ่งทะลุแนวต้านบริเวณ 4.10 บาทขึ้นไปแบบชิว ๆ เพราะองค์ประกอบหลายอย่างค่อนข้างเป็นใจให้เหลือเกิน วันนี้จึงเหลือแค่จะทำสำเร็จเหมือนที่คาดการณ์ไว้หรือเปล่าเจ้าค่ะ

*ตรงข้ามกับในรายของหุ้นขุดเจาะน้ำมัน PTTEP เพราะแค่มองแค่ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นต่อเนื่อง เพียงเท่านี้ก็รู้ได้ทันทีว่าหุ้นตัวนี้ต้องไปต่อยาว ๆ ผสานกับราคาหุ้นในกระดานเทรดกันที่ระดับ P/E 8 เท่า “โมนิก้า” ถึงมองราคาปิดที่ระดับ 98.75 บาท บวกไป 6 บาท หรือขึ้นไป 6.47% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.98 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะที่นักเล่นต้อง Follow Buy แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะของมันแบเบอร์ตั้งแต่ต้นแล้ว..ทุกอย่างกำลังดีขึ้น..อิอิอิ

*เช่นเดียวกับในรายของ “จับเสือใส่ถังพลังสูง” ESSO ไม่เคยพลาดจังหวะราคาน้ำมันดิบอยู่ในทิศทางขาขึ้น “โมนิก้า” เลยอยากเม้าท์ถึงหุ้นตัวนี้มากเป็นพิเศษ เพราะกลายเป็นหุ้นที่มีขาประจำคอยเฝ้าหน้ากระดาน เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่เห็นหุ้นกระชากขึ้นมาปิด 7.20 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 5.88% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 755.48 ล้านบาท เนื่องจากทฤษฎีของคนที่เล่นหุ้นตัวนี้เป็น “มาเร็ว เคลมเร็ว จบเร็ว” ไงล่ะคะ

*อีกรายที่น่าจับตามากสุดกลายเป็นน้องแอนแอน ANAN หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 1.79 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 7.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 130.75 ล้านบาท มันเหมือนเป็นการตอกย้ำทฤษฎีที่เกริ่นนำให้ฟังตั้งแต่ทีแรก “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองประมวลเหตุผลทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้น เพื่อสนับสนุนให้หุ้นตัวนี้วิ่งต่อมีมากขนาดไหน ? ลองไปคิดกันมา..แล้วจะเห็นโอกาสที่ทำให้หุ้นวิ่งนะตัวเอง

*ส่วนรายที่ไฉไลสุด ๆ คงโฟกัสไปที่หุ้น PF เป็นรายถัดมาในทันที เพราะคนที่กรูเข้ามาเคาะขวา พากัน “จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบ” ราคาหุ้นถึงพุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ 0.50 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 8.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 298.73 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องบรรยากาศการลงทุนเอื้อให้พอดี ผสานกับบรรดา “ขาใหญ่ ขาเล็ก” นิยมเล่นหุ้นต่ำบาท ทุกอย่างเลยเถิดเทิงอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ