ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 พ.ย. 63 ปิด 1,364.59 จุด บวก 14.78 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 66,934.72 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 4,159.43 ล้านบาท

มีบทวิเคราะห์ บล.ไทยพาณิชย์ ประเมินแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลหุ้นกลุ่มแบงก์พาณิชย์ หลังแบงก์ชาติอนุญาตให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 63 ได้ไม่เกินอัตราที่จ่ายปี 62 และต้องไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิปี 63 โดยประเมินหุ้นกลุ่มแบงก์จะจ่ายเงินปันผลปี 63 - 64 เฉลี่ย 4% โดยปี 63 จะอยู่ที่เฉลี่ย 3.97% ซึ่งคาดว่า KKP จะมีอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ปี 63 สูงสุดในกลุ่มที่ 6.86% ส่วนปี 64 หุ้นกลุ่มแบงก์จะจ่ายเงินปันผลเฉลี่ย 4.37% ซึ่ง KKP จะมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงสุดเช่นกันที่ 7.12%

แยกคาดการณ์การจ่ายปันผลแต่ละแบงก์ ดังนี้ หุ้น SCB ปี 63 ปันผล หุ้นละ 3.85 บาท คิดเป็น DIV.Yield 4.85% ส่วนปี 64 ปันผลหุ้นละ 4.11 บาท DIV.Yield 5.17% หุ้น TISCO ปี 63 ปันผล หุ้นละ 3.67 บาท DIV.Yield 5.03% ส่วนปี 64 ปันผลหุ้นละ 3.84 บาท DIV.Yield 5.25% หุ้น BBL ปี 63 ปันผล หุ้นละ 3.65 บาท DIV.Yield 3.23% ส่วนปี 64 ปันผลหุ้นละ 5.38 บาท DIV.Yield 4.76%

หุ้น KKP ปี 63 ปันผล หุ้นละ 2.85 บาท DIV.Yield 6.86% ส่วนปี 64 ปันผลหุ้นละ 2.95 บาท DIV.Yield 7.12% หุ้น KBANK ปี 63 ปันผล หุ้นละ 2.74 บาท DIV.Yield 3.04% ส่วนปี 64 ปันผลหุ้นละ 2.74 บาท DIV.Yield 3.04% หุ้น BAY ปี 63 ปันผล หุ้นละ 0.58 บาท DIV.Yield 2.55% ส่วนปี 64 ปันผลหุ้นละ 0.64 บาท DIV.Yield 2.79%

หุ้น KTB ปี 63 ปันผล หุ้นละ 0.41 บาท DIV.Yield 4.17% ส่วนปี 64 ปันผลหุ้นละ 0.47 บาท DIV.Yield 4.77% หุ้น TMB ปี 63 ปันผล หุ้นละ 0.03 บาท DIV.Yield 3.34% ส่วนปี 64 ปันผลหุ้นละ 0.04 บาท DIV.Yield 3.66% หุ้น LHFG ปี 63 ปันผล หุ้นละ 0.03 บาท DIV.Yield 2.7% ส่วนปี 64 ปันผลหุ้นละ 0.03 บาท DIV.Yield 2.78%

กลยุทธ์ลงทุน ยังไม่จำเป็นรีบซื้อหุ้นแบงก์ เนื่องจากยังเผชิญความเสี่ยงขาลง ในแง่คุณภาพสินทรัพย์ แม้ส่วนใหญ่ซื้อขายด้วย Valuationถูก แต่ให้รอจนกว่าจะเห็นภาพความเสี่ยงคุณภาพสินทรัพย์ที่ชัดเจนขึ้นในไตรมาส 1/64 โดยยังเลือก BBL เป็น Top Pick ของกลุ่มฯ เนื่องจากมีงบดุลแข็งแรงที่สุด โดยเฉพาะมี LLR coverage สูงที่สุด!!

อินเด็กซ์51