March 29, 2024   7:22:51 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > แผนธุรกิจปี 49 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 27/10/2005 @ 18:08:38
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บอร์ด ตลท.อนุมัติแผนงานปี 49 เน้นพัฒนา 5 ด้านหลัก ทั้งสิ้นค้า-ความรู้-โครงส้างพื้นฐาน-บรรษัทภิบาลพร้อมเพิ่มภารกิจหลักเป็นต้นแบบการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม ประเมินปีหน้าวอลุ่มเฉลี่ย 2.4 หมื่นล้านบาทต่อวัน บจ.น้องใหม่ 100 บริษัท เพิ่มมาร์เก็ตแคปอีก 300,000 ล้านบาท เน้นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ 5 กลุ่ม ได้แก่ อาหาร ยานยนต์ แฟชั่น การพิมพ์ และอิเล็กทรอนิกส์[/color:d3a7d5c28d">

นางภัทรียา เบญจพลชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯเปิดเผยถึงมติคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ประจำเดือนตุลาคม เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2548 ว่า คณะกรรมการฯได้ อนุมัติแผนงานในปี 2549 ซึ่งจะเน้นการทำงานเพื่อพัฒนา 5 ด้านหลัก ได้แก่
ด้านการพัฒนาสินค้าให้ครบวงจรและการขยายฐานผู้ลงทุน การพัฒนาความรู้และเผยแพร่สารสนเทศอย่างต่อเนื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สามารถรองรับธุรกรรมในอนาคตการสร้างความเชื่อมั่นในตลาดหลักทรัพย์ฯ และด้านกิจกรรมเพื่อสังคมโดยคณะกรรมการได้อนุมัติให้นำเรื่องการเป็นต้นแบบของการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2549 ด้วย
สำหรับการพัฒนาสินค้าและการขยายฐานผู้ลงทุนนั้นเน้นการมีสินค้าที่ครบวงจรทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ และตราสารอนุพันธ์เพื่อให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกลงทุนที่หลากหลายและสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม
โดยด้านตราสารทุนคาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 24,000 ล้านบาทและมีบริษัทเข้าใหม่ 100 บริษัท เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ 60 บริษัท ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ 40 บริษัท โดยคาดว่าจะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทเข้าใหม่รวม 300,000 ล้านบาท โดยเน้นธุรกิจเป้าหมายของตลาดหลักทรัพย์ฯในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ 5 กลุ่ม ได้แก่ อาหาร ยานยนต์ แฟชั่น การพิมพ์ และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นสำคัญ ในขณะที่ เอ็ม เอ ไอ เน้นธุรกิจของคนรุ่นใหม่ เช่น ธุรกิจประเภท High Growth ธุรกิจประเภท Innovative เป็นต้น
ส่วนการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ และตลาดอนุพันธ์ ในปี 2549 ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการซื้อขายตราสารหนี้ให้มีจำนวนร้อยละ 30 ของมูลค่ารวมการซื้อขายตราสารหนี้ทั้งหมด ในขณะที่ด้านตราสารอนุพันธ์ ซึ่งจะเริ่มซื้อขาย SET50 Index Futures เป็นสินค้าแรก ตั้งเป้าหมายว่าจะมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 1,000 สัญญา ทั้งนี้จะเน้นการให้ความรู้ความเข้าใจในตราสารทั้ง 2 ประเภทอย่างกว้างขวาง
ในขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเน้นการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ลงทุนทั่วประเทศผ่านสถานีโทรทัศน์ Money Channel เป็นหลัก ควบคู่กิจกรรมส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง อาทิ งาน Money Expo งาน ?ตลาดหลักทรัพย์สัญจร? ในต่างจังหวัด งาน Investors Day ที่จะจัดเป็นประจำทุกเดือนในกรุงเทพฯ และกิจกรรมทางการตลาดเพื่อขยายฐานผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2549 พร้อมทั้งการไปโรดโชว์ในต่างประเทศด้วย
พร้อมกันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ตั้งเป้าพัฒนาความรู้แก่เยาวชน ประชาชนและบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์อีกกว่า 4 ล้านคน ผ่านการเผยแพร่หนังสือ ตำรา การอบรมให้ความรู้ e-learning และกิจกรรมให้ความรู้ด้านการบริหารเงินและการลงทุนอย่างต่อเนื่องตลอดปี
นอกจากนี้ ยังเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ให้รองรับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และธุรกรรมในอนาคตที่ครอบคลุมทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ และตราสารอนุพันธ์ พร้อมไปกับการสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งจะเน้นการส่งเสริมระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มคะแนนด้านบรรษัทภิบาลของบริษัทจดทะเบียนใน SET100 เป็นร้อยละ 80 และบริษัทใน SET50 เป็น ร้อยละ 85 ในขณะที่ด้านกิจกรรมเพื่อสังคม จะเน้นการสนับสนุนชุมชนและสังคมทั้งแก่เยาวชนและผู้ด้อยโอกาส เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาสังคมให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น
สำหรับแผนงานในปี 2549 ใน 5 ด้านหลักดังกล่าว มีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้
1. ด้านการพัฒนาสินค้าและขยายฐานผู้ลงทุน
นอกจากการตั้งเป้าหมายเพิ่มบริษัทจดทะเบียนจำนวน 100 บริษัทแล้วตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีบัญชีลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์จำนวน570,000 บัญชี เป็นบัญชีลูกค้าที่มีการซื้อขายเฉลี่ย 160,000 บัญชี โดยตั้งเป้าหมายจำนวนผู้ถือหุ้น 1,100,500 ราย เป็นบัญชีผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมทุกประเภท 806,000 บัญชี
สำหรับตราสารหนี้ ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีนายหน้าที่ซื้อขายตราสารหนี้สม่ำเสมอจำนวน 12 รายมีผู้ค้าตราสารหนี้เข้าร่วมซื้อขายทั้งหมด 10 ราย มีผู้ลงทุนสถาบันเข้าร่วมซื้อขายรวม 10 ราย รวมทั้ง ยังคาดว่าจะมีการติดตั้งจอระบบซื้อขายของตลาดตราสารหนี้ได้จำนวน 300 จอ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีตราสารหนี้ภาคเอกชนเข้าจดทะเบียนร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับตราสารหนี้ภาคเอกชนทั้งหมด โดยมีมูลค่าคงค้างร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ภาคเอกชนทั้งหมด
ด้านตราสารอนุพันธ์ ตั้งเป้าหมายว่าจะมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 1,000 สัญญา และคาดว่าจะมีบัญชีที่เปิดซื้อขายตราสารอนุพันธ์ 3,000 บัญชี โดยสินค้าที่จะเปิดซื้อขายคือ SET50 Index Futures และ Interest-Rate Based Products
2. ด้านการพัฒนาความรู้
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างฐานความรู้ด้านการเงินและการลงทุนให้แก่เยาวชนและประชาชนอย่างจริงจัง โดยในปี 2549 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงมุ่งจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านการเงิน การลงทุนและการบริหารเงินส่วนบุคคลให้ครอบคลุม 4 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ 1.เยาวชนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษา 2. นิสิต นักศึกษา 3. ประชาชนทั่วไป และ 4. บุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ โดยได้ตั้งเป้าหมายที่จะให้ความรู้ประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษาและครูอาจารย์ รวมกว่า 4 ล้านคน
3.ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
เน้นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานหลักให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและให้สามารถรองรับธุรกรรมในอนาคต โดยเฉพาะโครงสร้างระบบงานด้านการซื้อขายหลักทรัพย์และระบบสนับสนุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ และตราสารอนุพันธ์ รวมทั้งการพัฒนาศูนย์สำรองคอมพิวเตอร์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เป็นศูนย์กลางคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย เพื่อรองรับปริมาณธุรกรรมที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2549 และในอนาคตอีกด้วย
4. ด้านการสร้างความเชื่อมั่นในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มคะแนนด้านบรรษัทภิบาลของบริษัทจดทะเบียนโดยรวมเป็นร้อยละ 75 พร้อมกันนี้ได้กำหนดแผนงานที่จะพัฒนาระบบงานด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ และระบบสนับสนุนอื่น ๆที่ครอบคลุมการให้บริการสำหรับการซื้อขายตราสารหนี้ทุน ตราสารหนี้และตราสารอนุพันธ์ โดยเน้นระบบที่มีความทันสมัย ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย
5. ด้านกิจกรรมเพื่อสังคม
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมและผู้ด้อยโอกาสโดยเน้นการเป็นต้นแบบให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ นำไปพัฒนาต่อเพื่อการช่วยเหลือสังคมให้มีคุณภาพดีขึ้นโดยเน้นการพัฒนาคุณภาพของเยาวชนทั้งด้านการศึกษา การกีฬาการแก้ไขปัญหายาเสพติด การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com