????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 04/11/2005 @ 20:34:28 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต PRIN เปิดกระโดดโดนปาดคอแน่
กมล-6 กองทุน ไม่ติดไซเรนต์[/color:0ab8f571dd">
จับตา PRIN เทรด หากเปิดกระโดดโดนยำแน่ เหตุ กมล เอี้ยวศิวิกูล-กองทุน 6 แห่ง ถือหุ้นรวมกว่า 28.25 ล้านหุ้น ต้นทุนเท่าราคาไอพีโอ 2.80 บาท ไม่ติดไซเรนต์ พีเรียด ผู้บริหารมั่นใจหุ้นใหญ่ทุกรายถือยาวรอปันผลงวดปี 48 ย้ำพื้นฐานแกร่งดันหุ้นเหนือจองแน่นอน ด้านโบรกเกอร์ มองหุ้นโอเค แต่หวั่นถูกพี่เบิ้ม กฟผ.ดึงเม็ดเงินและความสนใจจากนักลงทุน แนะเก็งกำไรได้ให้เป้าหมาย 3.90 บาท ขณะที่ CAWOW จ่อคิวเทรด 8 พ.ย. ขาใหญ่ วรวิทย์ แก้วสว่าง โผล่ถือกว่า 15 ล้านหุ้น
(7 พ.ย.) หุ้นอสังหาริมทรัพย์ตัวที่ 2 ของปีนี้ คือบมจ.ปริญสิริ (PRIN) ได้ฤกษ์เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก ซึ่งหากจะวัดจาก บมจ.เมโทรสตาร์พร็อพเพอร์ตี้ (METRO) ที่เปิดประเดิมหุ้นไอพีโอไตรมาส 4/48 ไปเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ถือว่าหุ้น PRIN น่าจะได้รับอานิสงส์ไปไม่น้อย เพราะลูกพี่อย่าง METRO โชว์ฟอร์มไว้ได้จับในนักลงทุน ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 พ.ย.) ราคาหุ้นพุ่งขึ้นแตะ 10 บาท ก่อนจะปิดตลาดที่ 9.50 บาท สูงกว่าราคาจองอยู่ 35.71%
แต่เมื่อดูจากโครงสร้างผู้ถือหุ้น PRIN แล้ว พบว่ายังมีความเสี่ยงที่อาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน กล่าวคือผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2548 ที่ปรากฎชื่อของขาใหญ่อย่าง นายกมล เอี้ยวศิวิกูล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ถือหุ้น กว่า 10 ล้านหุ้น หรือ 1.50% ของหุ้นทั้งหมด พร้อมทั้งกองทุนในประเทศอีก 6 กองทุน ซึ่งถือหุ้นรวมกันจำนวน 18,215,200 หุ้น หรือ 2.72%
นายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารโครงการ บมจ.ปริญสิริ (PRIN) กล่าว ว่า ผู้ถือหุ้นตั้งแต่ลำดับที่ 2 ลงมา รวมทั้งนาย กมล และกองทุนทั้ง 6 แห่ง ไม่ติดระยะเวลาห้ามขายหุ้น หรือไซเรนต์ พีเรียด เนื่องจากเป็นการซื้อหุ้นที่ราคาไอพีโอคือ 2.80 บาท
ทั้งนี้โดยส่วนตัวมั่นใจว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะลงทุนระยะยาว เพราะบริษัทคาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2548 ได้โดยมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ซึ่งทำให้ผู้ที่จองซื้อหุ้น PRIN จะได้รับเงินปันผลในคราวนี้ด้วย
ประกอบกับ ธุรกิจของบริษัทมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 2.2-2.3 พันล้านบาท เชื่อว่าจะเป็นไปได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน เพราะโครงการได้ถูกจำหน่ายหมดแล้วเหลือแต่เพียงการโอน ในขณะเดียวกันยังคาดว่าในปีหน้าบริษัทจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 2.3 พันล้านบาท
ทั้งนี้มาจากการที่บริษัทมีการพัฒนาโครงการในแนวราบ อีกทั้งมีการเปิดโครงการใหม่ 4-5 โครงการ โดยเป็นบ้านเดี่ยว และทาวเฮาส์ ซึ่งใช้เงินลงทุนโครงการละ 300-400 ล้านบาท
มั่นใจว่าราคาหุ้นจะสามารถยืนเหนือราคาจองได้ เพราะราคาหุ้น IPO ที่ 2.80 บาทนั้นถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพง ซึ่งได้กำหนดจากค่า P/E อยู่ที่ประมาณ 5.6 เท่า ในขณะที่ P/E อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์มีค่า P/E เฉลี่ยอยู่ที่ 7 เท่า และเชื่อว่านักลงทุนสถาบัน รวมถึงนายกมลจะเป็นนักลงทุนระยะยาว เพราะจากการที่บริษัทออกโรดโชว์กับนักลงทุนสถาบันนั้นล้วนแต่เป็นนักลงทุนระยะกลางถึงยาวนายชัยวัฒน์ กล่าว
ด้านนักวิเคราะห์รายหนึ่ง กล่าวว่า ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าราคาหุ้นเมื่อเข้าซื้อขายแล้วจะเป็นอย่างไร เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ประกอบกับอยู่ในช่วงที่ บมจ. กฟผ. จะเปิดจองหุ้นในสัปดาห์เดียวกัน ทำให้นักลงทุนอาจให้ความสนใจกับหุ้นที่มีขนาดใหญ่มากกว่า
แต่ทั้งนี้ ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยแนวโน้มรายได้ปีหน้ายังคงเติบโตได้ดี เพราะยังมียอดค้างโอน( Backlog ) ที่รอรับรู้จำนวน 1.9 พันล้านบาท อีกทั้งจะมีการเปิดโครงการใหม่ 8 โครงการมูลค่าประมาณ 4.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เปิดไป 4 โครงการ 2.1 พันล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโครงการร่วมทุนกับ UV อีก 4 โครงการมูลค่า 1.1 พันล้านบาท ซึ่งโครงการส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 3-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการสูง
ในขณะเดียวกัน แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้า มองว่าจะฟื้นตัวขึ้น จากในช่วงที่ผ่านมาอสังหาริมทรัพย์ได้ชะลอตัว ประกอบกับเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนสามารถเข้าเก็งกำไรในหุ้น PRIN ได้ หรือถือลงทุนระยะยาวได้ ประเมินราคาเหมาะสม 3.90บาทต่อหุ้น
รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ PRIN ณ วันที่ 28 ต.ค. 2548
ลำดับ รายชื่อ จำนวนหุ้น ร้อยละ
1 กลุ่มครอบครัวโกวิทจินดาชัย 509,245,000 76.01
2 นายสุรพันธ์ พัฒนพิฑูรย์ 10,987,800 1.64
3 นายกมล เอี้ยวศิวิกูล 10,040,000 1.50
4 กองทุนเปิดวรรณเฟล็กซิเบิลคืนกำไร 4,606,900 0.69
5 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทวีทรัพย์ 3 2,760,000 0.41
6 กองทุนไทยแคปปิตอลฟันด์ 2,440,000 0.36
7 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทวีทรัพย์ 2,290,000 0.34
8 นางสาวอุไรวรรณ แซ่หลี 2,200,000 0.33
9 กองทุนเปิดทวีโชค 2,000,100 0.30
10 กองทุนเปิดวรรณพลัสวรรณ 1,918,200 0.29
รวม 548,488,000 81.86
**CAWOW จ่อคิวลงสู่กระดานหุ้น8พ.ย.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่าคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้สั่งให้รับหุ้นสามัญของบริษัทแคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด (มหาชน) (CAWOW) เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2548 เป็นต้นไป โดยจัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจบันเทิงและสันทนาการ
นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองว่าหุ้น CAWOW จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนพอสมควร เนื่องจากบริษัทถือว่าเป็นเบอร์หนึ่งของธุกิจฟิตเนสในประเทศ ประกอบกับในปีนี้และปีหน้าธุรกิจจะมีอัตราการเติบโตสูง จากการที่บริษัทได้มีการขยายสาขาเพิ่ม
ราคา IPO ที่ 6 บาท มีค่า P/E อยู่ที่ 8.3 เท่า หากเทียบ P/E ปีนี้ถือว่าสูง แต่หากเทียบ P/E ในปีหน้าที่อยู่ที่ประมาณ 12 เท่า โดยที่ P/E กลุ่มอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ประมาณ 10-15 เท่านั้นถือว่าไม่แพงจนเกินไป เพราะในปีหน้าธูรกิจจะเติบโตสูง แต่ทั้งนี้ คงประเมินไม่ได้ว่าราคาหุ้น CAWOW เมื่อเข้าเทรดจะเป็นอย่างไร นักวิเคราะห์ กล่าว
ทั้งนี้ ประเมินราคาเหมาะสมหุ้น CAWOW อยู่ที่ 8.64 บาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ CAWOW ณ วันที่ 3 พ.ย. 2548
ชื่อ จำนวนหุ้น ร้อยละของทุนจดทะเบียน
1. อีลิท เพาเวอร์ โฮลดิ้งส์ อิงค์ 54,412,944 27.21
2. นายแพททริค จอห์น วี อิว เชง 19,086,750 9.54
3. บริษัท เอฟดีอี ออฟ เดอะ เวิล์ด จำกัด 2,999,847 1.50
4. นายแอริค มาร์ค เลอวิน 1,417,653 0.71
5. บูลดอก โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด 153 0.00
6. นางกรรณิการ์ เทวิชชุลดา 153 0.00
รวมกลุ่มนายแอริค มาร์ค เลอวีน 77,917,500 38.96
7. บริษัท เมเจอร์ ซีนิเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 73,500,000 36.75
8. ABN AMRO BANK N.V. HONG KONG BRANCH 7,800,000 3.90
9. นายวรวิทย์ แก้วสว่าง 1,150,000 0.58
10.นายสุรพันธ์ พัฒนพิฑูรย์ 830,800 0.42
11.กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันต์ 609,300 0.30
12.นายจอร์จ ซาบ 545,000 0.27
13.อื่น ๆ 36,647,400 18.82
รวม 200,000,000 100.00
|
