April 20, 2024   1:47:11 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กฟผ....ของจริง จองซื้อ..ไม่ขาดทุน!
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 07/11/2005 @ 09:05:33
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้น กฟผ. หรือ บริษัท กฟผ.จำกัด (มหาชน) กำลังจะปลุกกระแส ฟีเวอร์ ให้เกิดในวงการตลาดหุ้นอีกครั้ง จากที่ก่อนหน้า มีหุ้นอย่าง ปตท. ที่ถูกประชาชนแห่จองกันหมดเกลี้ยง ภายใน 18 วินาที และหุ้นจอง ไทยออยล์ ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม
การนำ กฟผ. เข้าตลาดหุ้นได้ในปีนี้ ต้องถือเป็นความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาของรัฐบาล ทักษิณ แม้จะมีเสียงคัดค้าน แต่ก็ประปราย ต่างจากในปีก่อนหน้า ที่มีการประท้วงแบบมาราธอน จากสหภาพแรงงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย EGAT มีทั้งหยุดงานประท้วง ขู่ดับไฟฟ้า รุนแรงถึงขั้นขับไล่รัฐบาล และเป็นประเด็นทางการเมือง ถึงขั้นปลดผู้ว่าฯกฟผ.คนก่อน บานปลายส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุน ต่อการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งต่อภาพรวมของประเทศ...สหภาพฯกฟผ.ยื่นคำขาด ยุติการแปรรูปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ต้องยอมรับว่า เสียงคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ผ่านๆมานั้น มีประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึงอย่างน่าสนใจ มองว่า จากการแปรรูปโดยการนำหุ้นรัฐวิสาหกิจไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะเอื้อประโยชน์ต่อนักการเมืองและผู้มีอุปการคุณ ไม่ถึงมือผู้ซื้อหุ้นรายย่อยอย่างทั่วถึง การแปรรูปรัฐวิสาหกิจจะเป็นการให้อำนาจผูกขาดกับเอกชน ส่งผลให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค การแปรรูปรัฐวิสาหกิจจะเป็นการขายชาติ ให้ต่างชาติจะเข้ามาเป็นเจ้าของทรัพย์สินของคนไทย การแปรรูปรัฐวิสาหกิจจะทำให้ค่าน้ำและค่าไฟฟ้าแพงขึ้น และที่วิตกอีกคือ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจจะส่งผลให้มีการปลดพนักงานรัฐวิสาหกิจออกเป็นจำนวนมากรวมทั้งมีการลดสวัสดิการและค่าตอบแทนต่างๆ ฯลฯ
ผลสำเร็จของการแปรรูป กฟผ. ในวันนี้ อาจเป็นเพราะรัฐบาล สามารถตอบคำถามข้างต้นได้...แม้จะไม่มีอะไรการันตีก็ตาม
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาล เพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพรัฐวิสาหกิจ คือ ปรับปรุงการบริหารและแปรสภาพรัฐวิสาหกิจให้เป็นบริษัทจำกัด จัดกลุ่มรัฐวิสาหกิจเพื่อการกำกับดูแล ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศ สร้างความเข้มแข็งให้แก่กลไกการกำกับดูแล เพราะโดยภาพรวมรัฐวิสาหกิจถือเป็นทรัพย์สินของประเทศ และเป็นเครื่องมือสำคัญของภาครัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
กฟผ.จึงเป็นเป้าหมายสำคัญ เพราะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีศักยภาพสูง และมีสินทรัพย์รวมหลายแสนล้านบาท เมื่อเข้าตลาดหุ้นจะเป็นหุ้น บลูชิพ ขนาดใหญ่ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหุ้นอย่าง PTT

กฟผ.กระจาย 1,245 ล้านหุ้น[/color:4d78d91387">
ตั้งราคาขึ้นเบื้องต้น 25-28 บาท กฟผ.เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 1,245 ล้านหุ้น ลดลงจากเดิมที่จะขายรวมกับหุ้นพนักงานไม่เกิน 2,000 ล้านหุ้น ขณะนี้ไม่กำหนดราคาจองซื้อที่แน่นอน แต่จะอยู่ในช่วง 25-28 บาทต่อหุ้น และจะสรุปราคาขายจริงในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ทั้งนี้การกำหนดราคาหุ้น กฟผ. สูงสุดที่ 28 บาทต่อหุ้น เป็นราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น หรือพีอี เรโช ที่ 8-9 เท่า เมื่อเทียบกับงบการเงิน ณ สิ้นปี 2547 ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทไฟฟ้าอื่นในภูมิภาคนี้ ที่อยู่ประมาณ 9 -11 เท่า
กำหนดการจัดสรรดังนี้คือ ขายให้กับนักลงทุนในประเทศ 871.5 ล้านหุ้น เป็นของรายย่อย 622.5 ล้านหุ้น และนักลงทุนสถาบัน 249 ล้านหุ้น จัดสรรให้นักลงทุนในต่างประเทศจำนวน 373.5 ล้านหุ้น รวมทั้งจะจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (green shoe) อีกร้อยละ 15 หรือประมาณ 183 ล้านหุ้น จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อได้ในวันที่ 16-17 พฤศจิกายน ระหว่าง 08.30-15.30 น. ผู้สนใจสามารถจองซื้อได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารทหารไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ทุกสาขาทั่วประเทศ

จัดสรรโปร่งใส..แบบขั้นบันได[/color:4d78d91387">
ผู้ใช้ไฟได้รับสุ่มเลือกก่อน จุดที่น่าสนใจคือการจัดสรรให้รายย่อย ยืนยันว่าจะให้ความสำคัญกับผู้จองซื้อที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าก่อนเป็นลำดับแรก โดยผู้ใช้ไฟจะได้รับสิทธิ์การจัดสรรผ่านกระบวนการสุ่มเลือกก่อนประชาชนทั่วไป กำหนดให้ผู้ใช้ไฟนำใบเสร็จของเดือนสิงหาคม-ตุลาคม นำมาใช้จอง และรับการสุ่มเลือกแบบขั้นบันได
การจัดสรรครั้งนี้ ได้รับการยืนยันว่า จะมีความโปร่งใสที่สุด
ทั้งนี้ ขั้นตอนการกระจายหุ้นนั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแนวทางการกระจายหุ้น กฟผ. ให้แก่ประชาชนทั่วไป แบบให้สิทธิแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศได้รับการจัดสรรหุ้นก่อนเป็นลำดับแรก โดยผู้จองซื้อที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าจะได้รับสิทธิการจัดสรรผ่านกระบวนการสุ่มเลือก ก่อนผู้จองซื้อที่เป็นประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้ วิธีการจัดสรรหุ้น บมจ.กฟผ. จะแบ่งออกเป็น 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1 ผู้จองซื้อต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้า จะได้รับการจัดสรรหุ้นตั้งแต่ 400 หุ้นขึ้นไป และไม่เกิน 10,000 หุ้น ขั้นที่ 2 หุ้นที่เหลือจากการจัดสรรขั้นที่ 1 จะนำไปจัดสรรให้กับผู้จองซื้อที่เป็นประชาชนทั่วไป โดยจะจัดสรรหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปในขั้นนี้ จำนวน 400 หุ้นขึ้นไป และไม่เกิน 10,000 หุ้น ขั้นที่ 3 หุ้นที่เหลือจากการจัดสรรให้ประชาชนทั่วไปในขั้นที่ 2 จะกลับมาจัดสรรให้ผู้ใช้ไฟฟ้า เพิ่มอีกจำนวนไม่เกิน 35,000 หุ้น ขั้นที่ 4 หากยังมีหุ้นที่เหลือจากการจัดสรรในขั้นที่ 3 ก็จะจัดสรรให้ผู้จองซื้อที่เป็นประชาชนทั่วไปเพิ่มอีกจำนวนไม่เกิน 35,000 หุ้น หากยังมีจำนวนหุ้นเหลืออยู่อีก ขั้นที่ 5 หุ้นที่เหลือจากขั้นที่ 4 ก็จะกลับมาจัดสรรให้แก่ผู้จองซื้อที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าอีกครั้งสำหรับจำนวนหุ้นส่วนที่เกินกว่า 45,000 หุ้นขึ้นไป และสุดท้ายขั้นที่ 6 หุ้นที่เหลือจากการจัดสรรขั้นที่ 5 ก็จะจัดสรรให้กับประชาชนทั่วไป จำนวนหุ้นที่เกินกว่า 45,000 หุ้นขึ้นไป
ขั้นตอนการกระจายหุ้นทั้งหมด จะทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าและประชาชนทั่วไปได้รับการจัดสรรหุ้นอย่างเป็นธรรมและทั่วถึงกันมากที่สุด
ซื้อหุ้นกฟผ.ไม่ขาดทุน..!
แถมปันผลหุ้นละ75สต.
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันในรายการ นายกฯ ทักษิณ พบสื่อมวลชน ว่า ได้มอบหมายให้นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับนายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หารือร่วมกัน หาแนวทางกระจายหุ้น กฟผ.ให้กับประชาชน 15 ล้านครัวเรือน อย่างทั่วถึงและวางกลไกเพื่อไม่ให้นักลงทุนรายย่อยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าซื้อหุ้นไปแล้วไม่ขาดทุน
ต้องประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจน แต่ไม่ได้คาดหวังว่าประชาชนจะซื้อหุ้นทุกคน และไม่จำเป็นต้องบังคับให้ซื้อ เรื่องนี้ถ้าต้องดูว่าประชาชนมีเงินพอที่จะลงทุนหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องให้สิทธิ ต้องมีการประชาสัมพันธ์ที่ดี และการเปิดขายต้องสะดวก ไม่ใช่ขายแบบไม่มีกติกา นายกรัฐมนตรีกล่าว.
ด้านนายบุญชู ดิเรกสถาพร ผู้บริหารใหญ่ด้านการเงินบริษัท กฟผ จำกัด (มหาชน) ออกมาประกาศว่า กฟผ. มีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ หลังจากการหักทุนสำรองต่างๆ แล้ว และเมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา คณะกรรมการ กฟผ. มีมติเห็นชอบให้จ่ายปันผลประจำปี สำหรับผลประกอบการปี 2548 จำนวน 0.75 บาทต่อหุ้น และจะนำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีอนุมัติประมาณเดือนเมษายน 2549 โดยการจ่ายปันผลจะนำมาจากกำไรสุทธิ หรือกำไรสะสม สมมติว่า ปีนี้หาก กฟผ. ขาดทุนสุทธิ ก็ยังคิดว่าจะจ่ายปันผลได้ เพราะมีกำไรสะสมกว่า 80,000 ล้านบาท
ผลประกอบการไตรมาส 3/48 (ก.ค.-ก.ย.) แม้จะออกมาไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และมีภาระรับค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเอฟที คงค้างกว่า 20,000 ล้านบาท แต่เชื่อว่าหลังปรับค่าเอฟที อัตราใหม่ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ จะทำให้รายได้ขยับสูงขึ้นครอบคลุมค่าใช้จ่าย นายบุญชู กล่าว
ขณะนี้ผู้ที่สนใจจองซื้อ เริ่มนับถอยหลังกันแล้ว....และผลจากการออกโรดโชว์ได้รับการยืนยันมาว่า บรรดานักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
...หุ้นกฟผ.มีกำหนดเข้าเทรดในกระดาน วันที่ 30 พฤศจิกายน 2548

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com