TCJ แผลงฤิทธิ์ หลังเพิ่งเทรดได้แค่ 3 วัน
ราคาหุ้นรูดเกือบ
30% ทั้งที่เทรดวันแรกราคาพุ่งสนั่นกว่า400% วงการคาด นักลงทุนไม่ใว้
ใจกลัวรายใหญ่อาจทิ้งหุ้นอีกระลอก หลังมีเกณฑ์เปิดทางให้ขายหุ้นไซเรนต์
พีเรียดได้ 25% ในเวลา 6 เดือน ซึ่งล่าสุดยังเหลืออีก 7% หรือประมาณ
3.55 ล้านหุ้น แต่ยอมรับงงซื้อราคาบิ๊กล็อตได้ไงที่ราคา 28 บาท แนะหลีก
เลี่ยงสถานเดียว แต่บิ๊ก TCJ ยันไม่ขายหุ้นอีกหลังโยนบิ๊กล็อต 18% ราคา
28 บาทต่อหุ้นให้ 6 โบรกเกอร์ แจงเพื่อเพิ่มสภาพคล่องหุ้นในกระดานตามเกณฑ์ตลาด และจะคงสัดส่วนถือหุ้น 73% พร้อมคาดปีนี้กำไรโต 20% จาก
ปีก่อนและตั้งแต่ปี50 จะโตกระโดดจากงานเมกะโปรเจ็ก

จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการจำหน่าย หุ้นของบมจ. ที.ซี.เจ. เอเซีย(TCJ) โดย นาง อนงค์รัตน์ ฉัตรจุฑามาส ซึ่งเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 07/11/
2548 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายคิดเป็น -18.71% ของจำนวนหลักทรัพย์
ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายคิดเป็น 73.02% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด



* ผู้บริหารยันไม่ขายหุ้นอีก ย้ำขายเพื่อเพิ่มสภาพคล่องหุ้นในกระดาน
ดร.ศรีวิไล ฉัตรจุฑามาส กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ที.ซี.เจ.
เอเซีย จำกัด (มหาชน) (TCJ) เปิดเผยกับ eFinancethai.com ว่า การขาย
หุ้นของนางอนงค์รัตน์ เป็นการโอนบิ๊กล็อตให้กับโบรกเกอร์ 6 แห่งในราคาเฉลี่ยประมาณ 28 บาท โดยมีโบรกเกอร์ติดต่อขอซื้อหุ้นให้ลูกค้าซึ่งไม่ได้
เป็นการขายหุ้นออกไปในกระดาน เพราะไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบกับราคาหุ้น
ทั้งนี้การขายหุ้นของนางอนงค์รัตน์จำนวน 18% นั้นเพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นให้เป็นไปตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ
ไทย (ตลท.) ที่ระบุว่าบริษัทจะต้องเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นให้ได้ 15% ภาย
ในเวลา 6 เดือนหลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แม้ว่าหุ้นของผู้ถือ
หุ้นเดิมจำนวน 91% จะมีระยะเวลาห้ามขายหุ้น หรือไซเรนต์ พีเรียด แต่มีข้อ
ยกเว้นว่าสามารถขายหุ้นได้ 25% ในระยะเวลา 6 เดือน และอีก 6 เดือนจะ
ขายได้อีก25%
ดร.ศรีวิไล กล่าวว่า หลังจากการขายหุ้นดังกล่าวจะทำให้กลุ่ม ฉัตรจุ
ฑามาสถือหุ้น TCJ อยูประมาณ 73% ซึ่งทางกลุ่มมีนโยบายจะดำรงสัดส่วนการถือหุ้นในระดับนี้ต่อไป
ที่เราโอนบิ๊กล็อตออกไป เพราะโบรกเกอร์มาขอซื้อซึ่งเราเห็นว่าได้รา
คาค่อนข้างดีและยังเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้เป็นไปตามเกณฑ์ด้วย ซึ่งไม่
ได้ขายในตลาด เพราะไม่ต้องการให้กระทบรายย่อย จากนี้ไปจะคงสัดส่วน
การถือหุ้น 73% และไม่ขายหุ้นออกมาอีก ดร.ศรีวิไล กล่าว
ดร.ศรีวิไล กล่าวถึงผลการดำเนินงานของบริษัทว่า บริษัทมีเป้าหมาย
การเติบโตของผลการดำเนินงานปีละ 20% ซึ่งในปี 2548 นี้ คาดว่ากำไรน่า
จะโตตามเป้าที่วางไว้ได้ จากปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิประมาณ 73 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นปีที่เริ่มมีการก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจ็กต่างๆจะทำให้ผลการดำเนินงานของ TCJ เติบโตอย่างก้าวกระโดดไปอีกอย่างน้อย 5 ปี ตามระยะเวลาของการก่อสร้าง เพราะบริษัททำธุรกิจให้เช่าเครื่องจักรกลหนักในการก่อสร้างต่างๆ
นอกจากนั้นตั้งแต่ไตรมาส 4/48 บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทโต
โยมิลเลนเนียม จำกัด ซึ่งทำธุรกิจผลิตสเตนเลส ที่ TCJ ไปซื้อกิจการมา
โดยปัจจุบันผลิตได้ประมาณ 40% ของกำลังการผลิต และจะทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและจะทยอยรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
ส่วนกรณีที่ราคาหุ้น TCJ ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงหลังจากตลาดหลักทรัพย์ปลดเครื่องหมาย SP และให้ย้ายกลับมาซื้อขายในหมวดปกติ โดยล่า
สุด วานนี้ (8 พ.ย.) ราคาหุ้น TCJ ปิดตลาดที่ 22.70 บาท ในขณะที่โบรก
เกอร์บางแห่งประเมินราคาเหมาะสมไว้เพียง 8 บาท ดร.ศรีวิไล กล่าวว่าการประเมินราคาหุ้นของโบรกเกอร์ มักจะทำอย่างระมัดระวัง ซึ่งแล้วแต่ความเห็นของแต่ละคน แต่ในแง่ของพื้นฐานและฐานะของบริษัทถือว่าดีขึ้นมาก หลังจากออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ โดยมูลค่าทางบัญชี (BV) ล่าสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2548 ของ TCJ อยู่ที่ระดับ 11.69 บาท ซึ่งยังไม่นับรวมผลการดำเนิน
งานในไตรมาส 3/48 ที่ยังไม่ประกาศออกมา ดังนั้นบริษัทยังมีแนวโน้มเติบ
โตได้อีกมาก และแข็งแกร่งมากขึ้นด้วย



* โบรกฯ หวั่นรายใหญ่ทิ้งหุ้นอีก หลังกฎไซเรนต์ฯเว้นให้ขายได้25% ใน
6 เดือน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์รายหนึ่งตั้งขอสังเกตุถึงราคาหุ้นของ TCJ
ที่วันแรกของการเปิดเทรดเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า400% โดยปิดที่ระดับ 23.20 บาท แต่หลังจากนั้นเมื่อวันอังคารที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา
ได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 22.70 บาท และปรับตัวลดลงต่อเนื่องอีกเมื่อวานนี้ โดยลดลงถึง 28.63% หรือลดลง 6.50 บาท ปิดที่ราคา 16.20 บาท มีมูลค่าการซื้อขาย 246.79 ล้านบาท ซึ่งมองว่าสาเหตุที่ราคาหุ้น TCJ ปรับตัวลง
แรง ในวันนี้อาจเป็นไปได้ว่าผู้บริหารของบริษัทฯเทขายหุ้นออกมาอีก หลัง
จากที่แจ้งสำนักงานก.ล.ต.ในช่วงเช้าว่าเทขายหุ้น TCJ ออกมาประมาณ18% ประกอบกับมีนักลงทุนบางส่วนที่ซื้อหุ้น TCJ ในวันสุดท้ายก่อนถูกระงับการ
ซื้อขายอาจเทขายหุ้นออกมาในวันเปิดเทรด เพื่อทำกำไรแม้ว่าหุ้นของผู้ถือ
หุ้นเดิมจำนวน 91% จะมีระยะเวลาห้ามขายหุ้น หรือไซเรนต์ พีเรียด แต่มีข้อ
ยกเว้นว่าสามารถขายหุ้นได้ 25% ในระยะเวลา 6 เดือน และอีก 6 เดือนจะ
ขายได้อีก 25% ซึ่งล่าสุดได้มีการขายหุ้นในส่วนนี้ออกไปแล้วประมาณ18% ยังคงเหลืออีกประมาณ 3.55 ล้านหุ้นหรือ 7%



* GBX-APEX-ASL ยอมรับ งงทำไมยอมซื้อราคา 28 บ./หุ้น
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า การโอนหุ้นดังกล่าว
เป็นไปตามกฎของตลาดฯที่ระบุว่าบริษัทจดทะเบียนต้องเพิ่มสภาพคล่อง
หุ้นบนกระดานให้ได้ 15%ภายในเวลา 6 เดือนหลังจากเข้าซื้อขายในตลาดฯ
แต่ในส่วนของการตกลงราคาโอนหุ้นเฉลี่ยที่ 28บาทต่อหุ้นนั้นก็ไม่ทราบสา
เหตุที่แท้จริงว่ามีเงื่อนไขใดๆอีกหรือไม่
ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทมีรายได้หลักจากธุรกิจขายและให้เช่าซื้อเครื่องจักรในสัดส่วนถึง0% และอีก 40% มาจากรายได้ของธุรกิจสแตนเลส ซึ่ง
พื้นฐานธุรกิจของบริษัทเริ่มมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นจากทั้ง 2 ธุรกิจ โดยประ
มาณการผลประกอบการปี 2548 ทาง TCJ มีรายได้รวม 900 ล้านบาท
และมีกำไรสุทธิ 44 ล้านบาท ขณะที่ปีหน้าผลประกอบการมีแนวโน้มขยาย
ตัวโดยประมาณการรายได้เพิ่มขึ้น 21% อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท และมีกำไร
สุทธิ 56 ล้านบาท
ธุรกิจ TCJ มีการเติบโตดีขึ้นโดยจะได้ผลดีจากโครงการลงทุนของ
ภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจ็กที่ต้องมีการใช้เครื่องจักรในการก่อ
สร้างนักวิเคราะห์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายวิเคราะห์ได้ประเมินราคาที่เหมาะสม TCJ ใน
ปี 2549 ไว้ที่ระดับ 8 บาท ซึ่งแม้ว่าช่วงนี้ที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวสูงกว่าราคา
พื้นฐานแต่นักลงทุนก็ยังสามารถถือลงทุนระยะยาวได้เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจ
ยังขยายตัวดีอยู่
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลัก
ทรัพย์ บล.เอเพกซ์ กล่าวว่า การขายบิ๊กล็อตTCJ จำนวน 18.1% ในราคา
28 บาทให้กับ 6โบรกเกอร์เพื่อผ่านไปให้นักลงทุนคงยังไม่สามารถสรุปได้
ว่าทำไมนักลงทุนจึงกล้าเข้าไปซื้อในราคาดังกล่าวคงต้องรอให้ทางตลาด
หลักทรัพย์แจ้งรายชื่อผู้ซื้อขายหุ้นออกมาก่อนคงพอจะทราบวัตถุการเข้าไป
ซื้อหุ้นบิ๊กล็อตในครั้งนี้ได้แต่ถ้าซื้อขายกันรายละไม่ถึง 5% ก็คงไม่ต้องแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ
ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าทำไมนักลงทุนจึงกล้าเข้าไปซื้อ TCJ ในราคา
28 บาท เพราะปัจจุบันราคาเหมาะสมอยู่ที่ระดับ8 บาทเท่านั้น แต่ถ้าดูจาก
เหตุผลการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ระบุไว้ชัดเจนว่าเพื่อให้เป็นไปตาม
เกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์เท่านั้นดังนั้นถ้าวิเคราะห์กันตามนี้คนที่เข้ามารับ
ซื้อบิ๊กล็อตอาจจะมีข้อตกลงกันไว้ เช่นเดียวกับกรณีการซื้อขายหุ้นบิ๊กล็อตของPICNI(บมจ.ปิกนิค คอร์ปอเรชั่น)ที่มีการซื้อขายกันก่อนหน้านี้ที่ราคาสูง
กว่ากระดานค่อนข้างมากก็เป็นได้
เขากล่าวอีกว่า ปกติหุ้นที่เคยมีผลประกอบการดีราคาหุ้นสูงๆเมื่อออก
จากแผนฟื้นฟูฯราคาหุ้นก็มักจะปรับตัวดีขึ้นก็อาจจะเป็นไปได้ว่าการซื้อบิ๊ก
ล็อตครั้งนี้อาจจะเพื่อลงทุนยาวหรือเป็นแค่การเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นให้เป็นไปตามเกณฑ์ของตลาดฯเท่านั้นในขณะที่หุ้นจำนวนดังกล่าวอาจจะไม่ได้เข้า
ไปหมุนเวียนในตลาดจริงๆ
ส่วนนายอมเรศ สิงห์ณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายที่ปรึกษาการลง
ทุน บล.แอ๊ดคินซัน กล่าวว่า เปิดเผยว่า การที่หุ้น TCJ มีแรงขายออกมา
อย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ คาดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากการขายทำกำไรของนัก
ลงทุน หลังจากที่ราคาหุ้นดังกล่าวปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในวันที่ 7 พ.ย.48
ซึ่งเป็นวันแรกที่ TCJ ปลดเครื่องหมาย SP และกลับเข้ามาซื้อขายในหมวดปกติ นอกจากนี้ราคาหุ้นTCJยังปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าปัจจัยพื้นฐานอีกด้วย ดังนั้นคาดว่าราคาหุ้นดังกล่าวปรับลดลงน่าจะมีสาเหตุมาจากกรณีดังกล่าว
TCJ ไม่แนะนำให้เข้าไปยุ่งเพราะราคาหุ้นสูงมากวันแรกที่เปิดซื้อ
ขายราคาหุ้นก็วิ่งขึ้นไปเกือบถึง 30 บาท ซึ่งก่อนที่จะขึ้นเครื่องหมาย SP รา
คาหุ้นก็ปิดที่ 4.60 บาท ส่วนกรณีที่ว่ามีข่าวออกมาว่ามีการโยนหุ้น TCJ
ให้โบรกเกอร์ 6 ราย ไม่ทราบว่ามีการโยนหุ้นให้กับโบรกใดบ้างซึ่งขณะนี้ยัง
ไม่มีข้อมูลจริงๆ นายอมเรศ กล่าว
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน ไม่แนะนำให้ลงทุนสำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มี
หุ้น ส่วนนักลงทุนที่มีหุ้นดังกล่าวแล้ว แนะนำขาย เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยง
ประกอบกับราคาหุ้นยังสูงกว่าปัจจัยพื้นฐานโดยให้ราคาที่เหมาะสมไว้ที่ 8
บาท
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การโอน
หุ้นบิ๊กล็อตของผู้บริหาร TCJ ไปยังนักลงทุนโดยผ่านบริษัทหลักทรัพย์ถือเป็นเรื่องผิดวิสัย เนื่องจากตามปกติหากผู้บริหารต้องการโอนหุ้นก็มักจะโอนให้กับบุคคลใกล้ชิดหรือบรรดาเครือญาติเพื่อให้เกิดการควบคุมหุ้นที่โอนได้ซึ่งการโอนให้นักลงทุนรายอื่นที่มีความประสงค์ซื้อหุ้น TCJ โดยผ่านการติดต่อจาก
โบรกเกอร์ครั้งนี้จึงอาจมีเงื่อนไขบางอย่างที่ทางบริษัทไม่ต้องการเปิดเผย
โดยเฉพาะรายชื่อนักลงทุนที่รับโอนหุ้นคือใครและเกี่ยวข้องกับบริษัทมาก
น้อยแค่ไหน
โดยส่วนตัวมองว่าหากต้องการเพิ่มสภาพคล่องให้ราคาหุ้นบนกระ
ดานก็ไม่จำเป็นต้องโอนหุ้นให้ผู้อื่นก็ได้ซึ่งทางบริษัทอาจมีการแตกพาร์อย่าง
ที่บริษัทส่วนใหญ่มักทำกัน รวมถึงหุ้นTCJก็อยู่ในเครือหุ้นที่เข้าข่ายผิดปกติ
ในก่อนหน้านี้มาแล้วจึงเชื่อว่าการดำเนินการครั้งนี้อาจมีอะไรแอบแฝงอยู่
อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้น TCJ ในช่วง
นี้ เนื่องจากยังมีความเสี่ยงหากเข้าลงทุนโดยหากนักลงทุนสนใจแนะนำให้
รอดูจังหวะหลังประเด็นดังกล่าวมีความชัดเจน
ส่วนแหล่งข่าวจากวงการหลักทรัพย์ ให้ความเห็นว่า ก่อนหน้าที่TCJ
จะได้รับอนุญาตให้กลับมาซื้อขายอีกครั้งบริษัทเคยถูกสำนักงาน ก.ล.ต.
สั่งให้มีการสอบบัญชีพิเศษและเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณจากทางการ ดังนั้นนักลงทุนจึงควรใช้วิจารณญาณในการลงทุนใน
หุ้นประเภทนี้
นอกจากนั้นยังตั้งข้อสังเกตุว่าหุ้นที่ออกจากรีแฮปโก้ก่อนหน้านี้หลายบริษัทมีความเกี่ยวพันกับนักการเมืองและมักมีความเคลื่อนไหวที่ค่อนข้าง
หวือหวา ซึ่งการที่ TCJ มีการโยนบิ๊กล็อตกว่า 10 ล้านหุ้นในราคาค่อนข้าง
สูงคือ 28 บาทจึงมีข้อสงสัยว่าใครเป็นผู้รับซื้อในราคาสูงขนาดนั้นและมีการ
ซื้อขายกันจริงหรือไม่ หรือเพียงแค่ทำราคาหลอกนักลงทุนเท่านั้น

[b:1b81d0f1ec">โหย ....หุ้นไรน่ากัวจัง.. .000b

ขอบคุณค่ะ .0005 [/color:1b81d0f1ec">[/b:1b81d0f1ec">

หุ้นลึกลับแบบนี้ บางคนชอบนะ ถ้าเข้าถูกอาจกำไรมาก ก็เลยมีคนเสี่ยง
กล้าลงทุน

แต่ตัวเลขผู้บริหารกับโบรกไม่ตรงกันเท่าไหร่ ไม่รูจะเชื่อใครดี

ผู้บริหารบอกปี นี้โต ยี่สิบจากปีก่อน ปีก่อนกำไร เจ็ดสิบสามล้าน

โบรกบอกปีนี้ประมาณการกำไร สี่สิบสี่ล้าน

.0001

กำไรครึ่งปีแรก 19 ล้าน นะครับ