April 25, 2024   3:07:47 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > KTECH หุ้นดิ่งประจำเดือนตุลาคม
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 14/11/2005 @ 08:07:22
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

รวบรวมข้อมูลราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำสุดประจำเดือนตุลาคม 2549จากหุ้นทั้งหมด 415 ตัว มีหุ้นราคาปรับลดลง 285 ตัว และนำมาให้ดูเพียง 100 ตัวเพื่อให้นักลงทุนได้ทำการศึกษา และทำความเข้าใจทิศทางของหุ้นแต่ละตัวก่อนตัดสินใจลงทุน
หุ้นปรับตัวลดลงต่ำสุด นำโดย KTECH ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง มีราคาปรับลดสูงสุด 55.20% จาก 3.46 บาท ปรับลดลงมาที่ 1.55 บาท เนื่องจากราคาที่ซื้อขายสูงเกินปัจจัยพื้นฐาน เมื่อผลการดำเนินงานสะท้อนคุณค่าของบริษัทออกมา ราคาที่สูงเกินไปจึงไม่สามารถยืนอยู่ได้
ล่าสุดงวดครึ่งปีมีกำไรสุทธิเพียง 25 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับช่วงเดียวกันของปีก่อน หากมองฐานะทางการเงินจะพบว่า มีค่า D/E Ratio เท่ากับ 2.32 เท่า ถือว่ามีหนี้สินมากเกินไป ซึ่งจะทำให้บริษัทรับภาระดอกเบี้ยจ่ายสูงตามไปด้วย ซึ่งถือว่าเป็นตัวฉุดรั้งกำไรสุทธิไม่ให้เติบโตได้เต็มที่
ส่วนหุ้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาปรับตัวลง อย่างเช่น AREEYA มีราคาปรับลดลง 12.23% จาก 4.58 ปรับลดมาที่ระดับ 4.02 เนื่องจากผลประกอบการในช่วงหลังไม่ค่อยสดใส เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจ ส่งผลให้รายไดของบริษัทลดลง ทำให้งวดครึ่งปีมีกำไรสุทธิเพียง 26 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิสูงถึง 91 ล้านบาท
ด้าน CNT ปรับตัวลง 11.11% จาก 3.96 บาท ปรับมาที่ 3.52 บาท เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ผลการดำเนินงานปรับตัวลงลง โดยงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนทำได้สูงถึง 270 ล้านบาท ในขณะที่อัตราส่วนทางการเงินเท่ากับ 1.82 เท่า สะท้อนให้เห็นว่ากิจการบริหารงานภายใต้ความเสี่ยงเนื่องจากภาระหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้น
หุ้น NWR เป็นหุ้นอีกตัวที่ฐานะการเงินไม่แข็งแกร่ง มีราคาปรับลด 12.94%เป็นหุ้น เก็งกำไร อีกตัวที่มีกระแสขึ้นลงตามข่าว หลังจากหมดข่าวราคาก็ร่วงลงมา ด้านฐานะทางการเงินก็ไม่แข็งแกร่งเท่าใดนัก มี D/E Ratio ที่ 18.27 เท่า ซึ่งการบริหารกิจการยังต้องพึ่งหนี้สินจากบุคคลภายนอกเป็นส่วนใหญ่
ส่วนหุ้นในกลุ่มนี้ตัวอื่นๆ ที่ปรับตัวลง ได้แก่ หุ้น NNCL มีราคาปรับลด 20.08% ,ESTAR 13.46%, KC 12.12% , EMC 10.32%, NCH 8.92, ITD 8.81%, AP 6.63%, HEMRAJ 5.81%, QH 5.74%, STEC 5.65%, CK 4.69%, BLAND 1.72% และMK 0.90%
กลุ่มพลังงานนำโดย PICNI ราคาหุ้นปรับลดต่ำสุด 36.94% จากราคาหุ้น 2.68บาท ปรับลงมาอยู่ 1.69 บาท จัดเป็นหุ้นที่มีปัญหาด้านขาดสภาพคล่อง ฐานะทางการเงินไม่แข็งแกร่ง เกิดการทุจริตในการบริหารจัดการของผู้บริหารระดับสูง ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง
ด้าน LANNA ราคาปรับตัวลง 13.11% เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี ความสามารถในการทำกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยงวด 6 เดือนกำไรสุทธิปรับตัวมาที่ 222 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเพียง 72 ล้านบาท ถือว่ากำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง
หุ้น BANPU ราคาปรับตัวลง 11.39% นี่ก็เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่มีความสามารถในการทำกำไรค่อนข้างสูงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง กำไรสุทธิงวด 9 เดือนอยู่ที่ 4,840 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนทำได้เต็มที่เพียง 2,497 ล้านบาท
ส่วนบลูชิพขนาดใหญ่อย่าง PTT ราคาปรับตัวลง 10.57% เป็นหุ้นพื้นฐานดีที่นักลงทุนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี มีความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง มีธรรมมาภิบาลที่ดีเป็นอันดับหนึ่งของเอเชีย ซึ่งเคยได้รับรางวัลการันตรีมาแล้ว
รวมทั้งบริษัทลูกอย่าง PTTEP และ TOP ก็ปรับตัวตาม PTT ไปด้วยเช่นกัน มีราคาปรับลด 9.48% และ 5.37% ตามลำดับ ส่วนหุ้นตัวอื่นๆ ในกลุ่มนี้ที่ปรับตัวลดลง ได้แก่ BAFSปรับตัวลดลง 0.56% , BCP 3.36%, GLOW 3.12%, RATCH 0.65%, RPC1.26%, SOLAR 11.16%, SUSCO 8.28% และ TOP 5.37%
หุ้นกลุ่มก่อสร้างที่ปรับตัวลงในเดือนนี้ นำโดย EWC ราคาปรับลดลง 34.51% จาก 28.25 บาท ปรับลดลงอยู่ที่ 18.50 บาท จัดเป็นหุ้นเข้าข่าย เก็งกำไร อีกตัวที่ตลาดหลักทรัพย์ ขึ้นเครื่องหมาย Alert เพื่อเตือนนักลงทุนศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน ทำให้นักลงทุนไม่กล้าที่จะเข้าไปลงทุนมากนัก
ส่วน Q-CON มีอัตราราคาเปลี่ยนแปลงลดลง 674% จาก 3.86 บาท ปรับลดลงมาที่ 3.60 บาท จัดเป็นหุ้นมีฐานะทางการเงินดี แต่จากสถานการณ์แนวโน้มคอนกรีตมวลเบายังน่าเป็นห่วง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์
หุ้นหมวดวัสดุก่อสร้างตัวอื่นๆ ที่ปรับตัวลงเช่นกัน ได้แก่ NSM มีอัตราปรับตัวลดลง 20% SSI 12.12% MS 3.97% AMC 0.18% VNG 10.10% TNX 4.03% เป็นต้น
หุ้นหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ที่มีราคาปรับลดลง ได้แก่ DISTAR ปรับตัวลดลง 32.47% CEI 29.02% DE 21.05% MIDA 3.31% SINGER 1.46% SVOA 7.69% และ SIS 8.59% เป็นต้น
หุ้นธุรกิจบันเทิงและสันทนาการ ได้แก่ GRAMMY มีอัตราเปลี่ยนแปลงลดลง 2.40%TRAF 15.29% PONG 8.23% และ ITV 8.26%
จะเห็นว่ามีหลายธุรกิจมีผลการดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับทิศทางภาวะตลาดหุ้นในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เช่น กลุ่มพลังงาน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และวัสดุก่อสร้าง ซึ่งการเทขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มเหล่านี้ของนักลงทุนต่างชาติทำให้ดัชนีปรับตัวลดลง

ที่มา ข่าวหุ้นธุรกิจ[/color:0bfa1548ef">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com