April 24, 2024   1:10:19 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ตลท.คิดดัชนีผิด ทำเซ็ทลบกว่า7จุด
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 15/11/2005 @ 09:42:33
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

นักลงทุนข้องใจตลาดฯคำนวณเซ็ทอินเด็กซ์ผิด ไม่ควรเอาราคาทีพีไอก่อนขึ้น XRที่ 14.50 บาทเป็นตัวคิดดัชนีตลาด ควรเอาราคาเฉลี่ย 7.05 บาทเป็นตัวหาค่า จึงเป็นต้นเหตุให้วานนี้ดัชนีร่วงหนักทันทีเปิดเทรด ทรุดกว่า 5 จุดและทั้งวันปิดลบ 7.04จุด ฝ่ายตลาดฯแจงไม่ได้ใช้สูตรแตกต่างจากหุ้นอื่น แต่ไม่สามารถนำสัดส่วนหุ้นใหม่มาคูณกับจำนวนหุ้นเดิมทั้งหมดเหมือนทุกครั้ง เพราะทีพีไอมีหุ้นที่เจ้าหนี้ไม่ได้รับถึง 75% ของทั้งหมด ยอมรับข้อพลาดขาดการให้ข้อมูลนักลงทุนก่อนขึ้น XR
หุ้นทีพีไอเกิดความโกลาหลวานนี้ เป็นวันแรกที่ขึ้น XR และราคาไดลูทลงโดยเปิดตลาด 7.20 บาท แต่นัยสำคัญไม่ได้อยู่ที่หุ้นปรับตัวลง ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนร้องเรียนเข้ามาคือ ข้องใจวิธีคำนวณเซ็ทอินเด็กซ์ของตลาดหลักทรัพย์(ตลท.)วานนี้เพราะตลาดฯเอาราคาTPIปิดเมื่อวันศุกร์ 11 พ.ย. ที่ 14.50 บาท เป็นตัวคำนวณเซ็ทอินเด็กซ์ ทั้งที่ตลาดฯกำหนดราคาเฉลี่ย TPI วานนี้ XR วันแรกที่ 7.05 บาท และราคาฟลอร์ 4.94 บาท ซิลลิ่ง 9.10 บาท เมื่อตลาดฯเอาราคาก่อนขึ้น XR คำนวณ จึงมีผลต่อดัชนีมาก
วานนี้ทันทีเปิดตลาดเช้า ดัชนีร่วง 5.45 จุด เปิด 685 จุด และทั้งวันปิดลบ 7.04จุด ปิด 683.41 จุด
ก่อนหน้านี้นักลงทุนคิดว่า ตลาดฯจะใช้ราคาเฉลี่ยที่กำหนด 7.05 บาทเป็นตัวหามาร์เก็ตแคปของหุ้นเอามาใช้คำนวณเซ็ท เหมือนหุ้นทุกตัวที่ผ่านมา จึงไม่เข้าใจว่า ทำไมครั้งนี้ถึงใช้สูตรแตกต่างจากทุกรอบ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ก็ยอมรับว่า ทุกครั้งไม่เคยตั้งข้อสังเกตุหรือเข้าใจว่า ตลาดฯใช้วิธีคำนวณหุ้นที้ขึ้นเครื่องหมาย XR วันแรกกับดัชนีอย่างไรเพราะทุกครั้งหุ้นแต่ละตัวไม่มีผลต่อดัชนีมากเหมือนทีพีไอวานนี้
นักลงทุนจึงเกรงว่า ถ้าตลาดฯใช้วิธีคำนวณอินเด็กซ์ เช่นนี้ต่อไปกรณีหุ้นใหญ่ เช่นปูนใหญ่ ปตท. เพิ่มทุนอนาคต วันแรกที่ขึ้น XR ดัชนีจะกระทบมาก ทำให้วานนี้ทุกห้องค้าจ้าละหวั่น ลูกค้าโทรศัพท์สอบถามาร์เก็ตติ้ง และผู้บริหารโบรเกอร์โทรฯสอบถามตลาดฯ เช็คข่าว ซึ่งก็ได้คำตอบที่ฟังแล้วเข้าใจยากมาก
ข่าวหุ้นธุรกิจได้รับคำชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้องด้านนี้ของตลาดหลักทรัพย์ว่า ไม่ได้ใช้สูตรคำนวณแตกต่างจากหุ้นตัวอื่น แต่ที่พิเศษออกไปคือ ไม่สามารถนำหุ้นทั้งหมดมาคำนวณได้เนื่องจากมีเจ้าหนี้ทีพีไอไม่ได้รับหุ้นถึง 75% ของหุ้นทั้งหมด จึงใช้สูตรเอาราคาปิดก่อนขึ้นXR กับจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น 3,900 ล้านหุ้น บวกด้วยหุ้นเดิมราว 7,900 ล้านหุ้น คูณกับราคาซื้อขายเรียลไทม์ขณะนั้น เพื่อหาออกมาเป็นมาร์เก็ตแคปหุ้น
สำหรับหุ้นตัวอื่นที่ผ่านมาก็ใช้วิธีนี้คือ เอาราคาก่อนขึ้น XR เช่นกัน แต่ใช้สัดส่วนหุ้นใหม่ เช่น 1 ต่อ 2 ก็นำ 2 มาคูณกับจำนวนหุ้นเดิมออกเป็นหุ้นใหม่ แล้วนำมาบวกกับหุ้นเดิมอีกที เพื่อหาจำนวนหุ้นทั้งหมด คูณกับราคาซื้อขายเรียลไทม์ ออกมาเป็นมาร์เก็ตแคปหุ้น
เจ้าหน้าที่ตลาดฯชี้แจงต่อว่า ส่วนประเด็นที่ราคาหุ้นทีพีไอมีผลต่อการคำนวรดัชนีมากเพราะเป็นหุ้นใหญ่และราคาไดลูทลงมากเกือบ 50% ทำให้มีผลต่อดัชนีมากกว่าหุ้นเพิ่มทุนตัวอื่น ๆ ในรอบปีผ่านมา
อย่างไรก็ตามเขายอมรับว่า ปัญหาใหญ่น่าจะเกิดจาก ตลาดฯขาดการสื่อสาร ชี้แจงให้นักลงทุนได้รับรู้ก่อนว่า วานนี้จะใช้สูตรคำนวณดัชนีกับหุ้นทีพีไออย่างไร ทำให้นักลงทุนคิดว่า เกิดการคำนวณผิดพลาด
ส่วนราคาหุ้นทีพีไอวานนี้ ได้ปตท.ช่วยค้ำยัน เพราะผู้บริหารแสดงจุดยืนชัดเจนซื้อหุ้นเพิ่มทุน และออกจากแผนฟื้นฟูกิจการภายใน 13 ธ.ค.48ทำให้หุ้น TPI มีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ปิดตลาด 7.20 บาท
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)หรือ PTT เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทได้ประชุมเพื่อพิจารณาการเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุน TPI โดย PTT จะเข้าไปซื้อหุ้น 31.5%คิดเป็นเงินจำนวน 2หมื่นล้านบาท เรื่องดังกล่าวจะมีการหารือกับพันธมิตรอีก 3 รายที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ TPIคาดว่าจะสามารถชำระเงินค่าหุ้น TPI ได้ภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้
เชื่อว่า TPI จะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ ภายในวันที่ 13 ธ.ค.48 หรือช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.49 ทั้งการจ่ายชำระเงินค่าหุ้น TPI ไม่จำเป็นว่าผู้ถือหุ้นรายย่อย หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะใส่เงินก่อน เพราะผู้ถือหุ้นทุกรายต้องจ่ายเงินให้ครบ 6 หมื่นล้านบาทก่อนวันที่13 ธ.ค.นี้ ดังนั้นคาดว่าผู้บริหารแผนจะดำเนินการตามขั้นตอนในนำ TPI ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้อย่างแน่นอนนายประเสริฐกล่าว
ด้านนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPI เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย.48 ได้ยื่นหนังสือต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอให้อ่านคำสั่งของศาลฎีกาในคำร้องที่ขอให้ผู้ถือหุ้นเดิมมีสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน TPI ได้ก่อนพันธมิตรรายอื่น ภายหลังจากศาลฎีกา มีคำสั่งตามคำร้อง เมื่อวันที่ 8พ.ย.ที่ผ่านมา คาดว่าศาลล้มละลายกลางจะอ่านคำสั่งเร็วๆนี้
เบื้องต้นหากศาลฯอนุญาตให้ผู้ถือหุ้นเดิมมีสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนก่อนตนจะยื่นคำร้องเพื่อให้ศาลฯคุ้มครองและไม่ให้ใครมาขัดขวางในระหว่างที่ลูกหนี้หากเงินมาซื้อหุ้นเพิ่มทุนคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 2,400 ล้านเหรียญหรือประมาณ 1 แสนล้านบาทแบ่งเป็นซื้อหุ้นเพิ่มทุน 1,300-1,400 ล้านเหรียญและซื้อหนี้ประมาณ 900 ล้านเหรียญ ส่วนตัวเชื่อว่าจะใช้เวลาหาเงินประมาณ 2-3 เดือน
นอกจากนี้ยังได้ยื่นอุทธรณ์ขอคัดค้านการขายหุ้นเพิ่มทุน ราคา 3.30 บาท เนื่องจากการที่ผู้บริหารแผนที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลังได้ขายหุ้นเพิ่มทุนให้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และพันธมิตรรายอื่นที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าแท้จริงถือเป็นการยึดบริษัทเอกชนของรัฐบาลทางอ้อม
ดังนั้นหากการดำเนินการดังกล่าวขาดความยุติธรรมช่วงสัปดาห์นี้ หรือหน้าตนเตรียมยื่นคัดค้านคำสั่งของศาลล้มลายกลางเมื่อวันที่ 2 พ.ย.48 ต่อศาลฎีกาในคำร้องที่อนุญาตให้ผู้บริหารแผนจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ได้หลังจากบริษัทออกจากแผนฟื้นฟูกิจการรวมถึงกรณีที่คณะผู้บริหารแผนยื่นจดทะเบียนขอยกเลิกข้อบังคับทั้งหมด 7 หมวด
ประกอบด้วยหมวดทั่วไป หมวดการออกหุ้น หมวดการโอนหุ้น หมวดคณะกรรมการหมวดการประชุมผู้ถือหุ้น หมวดการบัญชี การเงิน และการสอบบัญชีและหมวดบทสุดท้ายโดยจะยกเว้นหมวดบทเฉพาะกาลทั้งหมด 7 ข้อ อาทิ ข้อ 1 ให้ผู้บริหารแผนมีหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี เพื่อให้กรรมการพ้นจากตำแหน่งและเลือกตั้งกรรมการใหม่แทนพร้อมในคราวเดียว ข้อ 2 ให้ผู้บริหารแผนแต่งตั้งคณะผู้จัดการประชุม ประกอบด้วย สมาชิกไม่น้อย 15 คน คณะผู้จัดการประชุมใหม่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดและอำนวยความสะดวกในการประชุมผู้ถือหุ้นเป็นต้น ทั้งนี้เมื่อดำเนินการประชุมผู้ถือหุ้นแล้วเสร็จถึงจะกลับมาใช้หมวดบังคับทั้ง 7 ข้อที่ขอยกเลิกไปได้

ที่มา ข่าวหุ้นธุรกิจ[/color:a1ff73e7e6">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com